เปิดโผ 80 รุ่นใหม่ Mobile Expo 3-6 ตุลาคมนี้ ที่ศูนย์ฯสิริกิติ์
กลับมาพบกันอีกครั้งกับ “Thailand Mobile Expo 2013 Showcase” 3-6 ตุลาคมนี้ ที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ มหกรรมโทรศัพท์มือถือ-แท็ปเล็ตครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 2556 ยกระดับดีกรีความร้อนแรงของกองทัพรุ่นใหม่จัดเต็มภายในงาน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมายจากแบรนด์ชั้นนำ นอกจากจะมีของใหม่ให้คุณสัมผัสตัวจริงก่อนตัดสินใจซื้อแล้ว รอบนี้ยังมี Gadget สุดล้ำให้คุณต้องร้องว้าว และสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่นีที่เดียว สำหรับวันนี้เรามาส่อง 80 รุ่นมือถือ-แท็ปเล็ตที่น่าสนใจภายในงานกันดีกว่าครับ รับรองว่าเลือกไม่ถูกอย่างแน่นอน !!
Samsung
Samsung Hero 3G
ฟีเจอร์โฟนราคาเบาๆ ก็รองรับการใช้งาน 3G ครับหากคุณอยากเอาไว้ทำเป็นโมเด็มต่อเน็ต หรือเอาไว้ใช้งานทั่วไป ของ Samsung ที่ราคาถูกสุดตอนนี้คงเป็น Hero 3G สไตล์ปุ่มกดคลาสสิค นอกจากรองรับ 3G ยังติดกล้อง VGA ให้ถ่ายภาพขำๆ เครื่องเล่นเพลง MP3, วิทยุ FM มีให้ฟังแก้เหงา พร้อมแอพพลิเคชั่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะ ChatOn ของ Samsung พรีโหลดมาในเครื่องเลย ด้วยราคาค่าตัวไม่ถึง 2 พันบาท คิดว่าไม่ต้องลังเลแล้ว แถมมีให้เลือกทั้งคลื่นความถี่ 900/2100 MHz และ 850/2100 MHz เลือกใช้งานตามเครือข่ายของคุณอีกต่างหาก
Samsung REX 70
จากปุ่มกดมาดูมือถือทัชสกรีนจาก Samsung อีกรุ่นในกลุ่ม REX Series แม้ไม่ใช่สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ แต่ก็คุ้มด้วยหน้าจอทัช 3.0 นิ้ว รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Dual-Standby เหมาะกับคนชอบคุยเยอะ ติดกล้อง 2 ล้านพิคเซล ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi หรือ Edge ที่น่าสนใจก็มีเครื่องเล่น MP3 วิทยุ เพิ่มเมมโมรี่ได้ และมีแอพพลิเคชั่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คต่างๆ ติดตั้งภายในเครื่องเรียบร้อย เพียงแค่คุณกรอกรหัสก็สามารถแชทได้แล้ว ด้านราคาของ REX70 จัดได้เลยที่ 2,190 บาท
Samsung Galaxy Star Duos
มาเริ่มต้นกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาถูกสุดๆ จาก Samsung แถมยังรองรับ 2 ซิมการ์ดอีกด้วยสำหรับ Galaxy Star Duos สเปคหน้าจอขนาด 3.0 นิ้ว ซีพียู 1GHz รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ครอบอินเตอร์เฟส TouchWiz UX ที่เราคุ้นเคยกันดี ติดกล้องความละเอียด 2 ล้านพิคเซล ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Google Play Store แน่นอนว่าดีกว่าฟีเจอร์โฟนเดิมๆ ที่มีข้อจำกัดเรื่องแอพฯ ครับ อย่างไรก็ดีรุ่นนี้ไม่รองรับการเชื่อมต่อ 3G แลกกับราคาสุดถูกเพียง 2,790 บาท เอามาใช้เป็นเครื่องสำรองก็ดีเหมือนกันนะ
Samsung Galaxy Pocket Neo
อยากได้ Galaxy Star แต่ไม่มี 3G จะทำยังไงดี ? เพิ่มงบอีก 400 บาทแล้วสอย Galaxy Pocket Neo เลยครับ หน้าจอขนาด 3.0 นิ้วเท่ากัน ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 รองรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Google Play Store ติดกล้อง 2 ล้านพิคเซล และมีให้เลือก 3 สีสัน โดยส่วนตัวผมชอบสีดำ-ขาวครับ ส่วนสีเทาจะดูแปลกตาพอสมควร จากสเปคภายในก็น่าจะเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป สามารถแชท Line ฟังเพลง เล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ แถมราคาไม่แพงซะด้วย : )
Samsung Galaxy Young
อัพสเปคขึ้นมาอีกหน่อยด้วยงบประมาณราวๆ 4,000 บาท สามารถเป็นเจ้าของ Galaxy Young ได้แล้ว กับสเปคหน้าจอขนาด 3.3 นิ้ว ซีพียู 1GHz ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 เช่นเดียวกับน้องเล็ก 2 รุ่นที่ผ่านมา ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้มากมาย เปลี่ยนธีม แชท Line Facebook ลงเกมเพิ่มตามใจชอบ รองรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ดีไซน์เรียบง่าย ติดกล้อง 3 ล้านพิคเซล โดยทั่วไปแล้ว Galaxy Young เป็นอีกรุ่นที่น่าใช้อยู่เหมือนกัน หากมีงบไม่มากนัก และต้องการสเปคดีกว่า Galaxy Pocket Neo นั่นเอง
Samsung Galaxy Fame
ภายใต้บอดี้เล็กกะทัดรัดของ Galaxy Fame สมาร์ทโฟน Android จากซัมซุงในราคาเพียง 5,490 บาท รุ่นนี้น่าจะเป็นโมเดลราคาถูกที่สุดที่รองรับการใช้งาน NFC ครับ สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม หรือใช้ส่งไฟล์อย่างรวดเร็วกับ Device ที่รองรับ หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ขนาดพอดีๆ ซีพียู 1GHz กล้อง 5 ล้านพิคเซลพร้อมออโต้โฟกัส แฟลชแอลอีดี รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ดังนั้นการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ จึงไม่แตกต่างจาก Galaxy Young มากนัก นอกจากออฟชั่นเสริมที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ก็มีหลายตัวเลือกจากแบรนด์อื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน งานนี้คงต้องตัดสินใจให้ดีเลยล่ะจ้า
Samsung Galaxy Ace 3
เป็นอีกรุ่นของ Samsung ที่ยังยึดหัวหาดสมาร์ทโฟนระดับกลางมายาวนาน ตั้งแต่ Galaxy Cooper, Galaxy Ace 2 และล่าสุดกับ Galaxy Ace 3 หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว, ชิปประมวลผล Dual-Core 1GHz รองรับคอนเทนท์ระดับ HD เต็มรูปแบบ ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ครอบ TouchWiz UX ตัวล่าสุดเช่นเดียวกับ Galaxy S4 Mini ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD แม้ว่าดีไซน์จะไม่ดึงดูดวัยรุ่นเท่าไหร่ แต่ราคาขายที่ 6,900 บาท ก็ถือว่าคุ้มอยู่เหมือนกันครับ
Samsung Galaxy Core Duos
จุดขายเด่นด้านการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ชิปประมวลผล Dual-Core ตอบสนองการใช้งานครบวงจร ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้เพียบต้องยกให้ Galaxy Core Duos หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ขนาดบอดี้พอดีมือ พกพาสะดวก รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ครอบบน TouchWiz UX มีบริการเสริมต่างๆ ให้ใช้งานมากมาย ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD แบตเตอรี่อึดเพียงพอใช้งานได้เต็มวัน อยากเป็นเจ้าของรุ่นนี้สนนราคาประมาณ 7,900 บาทครับ ไม่แพงอย่างที่คิด : )
Samsung Galaxy Win Duos
เต็มอิ่มด้วยซีพียู Quad-Core ประมวลผลแรงเร็วบนหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว แสดงผลได้ใหญ่กว่าที่เคย เหมาะกับการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ แชท ดูหนัง เล่นเกม รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Google Play Store เลือกการใช้งานได้เต็มที่ รองรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS แถมใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Always-On รับสายซิม 2 ได้แม้กำลังโทรซิม 1 อยู่ นอกจากนี้แบตเตอรี่ 2000 mAh ตอบสนองการใช้งานได้เต็มวันอีกด้วย รุ่นนี้เคาะราคาที่ 8,990 บาทครับ อาจจะสูงไปนิดแต่ก็เป็นอีกรุ่นที่น่ามองอยู่ไม่น้อย
Samsung Galaxy Grand Duos
รุ่นจอใหญ่สุดฮิตแห่งปีจากความคุ้มค่าบนหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว เหมะกับใช้งานทุกด้านทั้งมัลติมีเดีย เกม แชท ยูทิลิตี้ต่างๆ ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล รองรับการบันทึก-เล่นวิดิโอความละเอียด Full HD รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ซีพียู Dual-Core 1.2GHz ใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Always-On รองรับ 3G WiFi GPS ครบในตัวเดียว เห็นสเปคครบขนาดนี้เป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 10,500 บาท แต่ถ้าต้องการหน้าจอใหญ่กว่า สเปคดีกว่านี้ลองดูรุ่นถัดไปครับ
Samsung Galaxy Mega 5.8
ถ้าคิดว่า Galaxy Grand Duos จอใหญ่ไม่พอ ตอนนี้ Galaxy Mega 5.8 จัดเต็มอีกขั้นกับจุดเด่นเรื่องขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้ว ! เต็มอิ่มกับประสบการณ์ด้านมัลติมีเดีย ใช้งานแอพพลิเคชั่น เกมต่างๆ บนหน้าจอใหญ่กว่าที่เคยเป็นด้วยฟีเจอร์ Multi-Window ซีพียู Dual-Core 1.4GHz รองรับคอนเทนท์ Full HD เต็มรูปแบบ ติดกล้องความละอียด 8 ล้านพิคเซล ใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย WiFi GPS และยังรองรับ 2 ซิมการ์ดแบบ Always-On อีกด้วย แบตเตอรี่ 2600 mAh ใช้งานได้ทั้งวัน ทั้งหมดนี้เพิ่มงบจาก Galaxy Grand Duos ประมาณ 2000 บาท ลองตัดสินใจดูได้เลย !
Samsung Galaxy Mega 6.3
Samsung ขยายขนาดจอสมาร์ทโฟนสู่ระดับ 6.0+ นิ้วบน Galaxy Mega Series อย่างรุ่นนี้ Galaxy Mega 6.3 มีจุดขายตรงหน้าจอ HD ขนาดมหึมา 6.3 นิ้ว เหมาะกับผู้ใช้ที่ชื่นชอบการเสพมัลติมีเดียบนหน้าจอใหญ่ แต่ไม่อยากพกแท็ปเล็ต สำหรับบนรุ่นนี้ยังคงใช้งานเป็นสมาร์ทโฟนได้ตามปกติ มีฟีเจอร์ติดตัวเพียบทั้ง S Translator, Group Play, S Beam, Multi-Window ฯลฯ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ทำงานได้รวดเร็วทันใจ บอดี้บางเพียง 8 มิลลิเมตร ดีไซน์ใกล้เคียงกับ Galaxy S4 รองรับ 3G ทุกเครือข่ายครับ แต่ไม่รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบ Galaxy Mega 5.8 แบตเตอรี่ 3200 mAh เพียงพอกับการใช้งานเต็มวัน ด้านราคาเป็นเจ้าของได้ที่ 14,900 บาท น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนจอยักษ์อีกรุ่นที่คุ้มมากเลยทีเดียว
Samsung Galaxy Note 2
ถึงจะออกมาเกือบปีแล้วแต่ Galaxy Note 2 สมาร์ทโฟนหน้าจอ Super-AMOLED 5.5 นิ้วยังคงน่าหามาเป็นเจ้าของ ด้วยจุดขายที่ให้คุณใช้ปากกา S-Pen สร้างสรรค์ความคิดใหม่ๆ บน S-Note จะวาดภาพ เขียนบันทึกต่างๆ ไอเดียคล้ายสมุดโน้ตขนาดเล็กในมือ เร็วแรงด้วยซีพียู Quad-Core 1.6GHz รองรับเกมภาพสวยๆ ความละเอียด HD เต็มรูปแบบได้ดี แบตเตอรี่อึดสะใจ 3100 mAh การันตีว่าใช้งานได้เค็มวัน กล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ Full HD รันบน Android 4.1.2 ซึ่งคาดว่าจะได้อัพเกรดเป็น Android 4.3 ช่วงปลายปีนี้ สำหรับราคาปกติอยู่ที่ 17,900 บาท แต่ในงาน TME2013 รอบนี้อาจมีราคาพิเศษกว่านั้น ! รอติดตามดูได้ครับ
Samsung Galaxy S4
Flagship รุ่นดังแห่งปีจาก Samsung ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จากสเปคซีพียูภายในระดับ Octa-Core ประมวลผล 4+4 แกน รองรับเกมภาพสวยๆ เพียบบน Google Play Store รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ครอบ TouchWiz UX มีฟีเจอร์เสริมภายในมากมาย หน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 5 นิ้วความละเอียด Full HD แสดงผลคมชัด สีสันจัดจ้าน ต้องยอมรับครับว่าเหมาะกับใช้ดูวิดิโอ Full HD จริงๆ ติดกล้อง 13 ล้านพิคเซล ใช้งานฟีเจอร์เสริมได้เช่น Eraser Shot, Drama Shot ฯลฯ บอดี้บางเพียง 7.9 มิลลิเมตร และมีให้เลือก 2 สีสัน ได้ข่าวว่าในงาน TME2013 ก็มีโปรโมชั่นจัดเต็มกับ Galaxy S4 เช่นกันครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
Samsung Galaxy Note 3
เพิ่งเปิดตัวล่าสุดเลยครับกับสมาร์ทโฟน Flagship รุ่นใหม่จาก Samsung ที่ให้คุณสัมผัสประสบการณ์ใหม่บนหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว Galaxy Note 3 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Exynos 5420 แรงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.3 เวอร์ชั่นล่าสุด มีฟังก์ชั่นเสริมสำหรับ S-Pen เพิ่มขึ้นมากมายเช่น Air Command, Action Memo, My Magazine ฯลฯ ติดกล้อง 13 ล้านพิคเซล ฟีเจอร์โหมดกล้องมากมาย รองรับการใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย และแบตเตอรี่ 3200 mAh เชิญสัมผัสเครื่องจริงพร้อมตัดสินใจซื้อได้เลยในงาน TME2013 โปรโมชั่นไม่ธรรมดาแน่นอนครับ เชื่อว่าคุณไม่อยากพลาดจริงมั้ย ?
Samsung Galaxy Tab 3 7.0
นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว Samsung ยังมีแท็ปเล็ตให้คุณเลือกใช้งานครับ โมเดลที่น่าสนใจตัวแรกก็คือ Galaxy Tab 3 7.0 ชูจุดขายด้านหน้าจอ 7.0 นิ้ว น้ำหนักเบาเพียง 306 กรัม สามารถพกพาได้สะดวก ถือใช้งานมือเดียวได้ ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 รองรับคอนเทนท์ต่างๆ บน Google Play Store เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน ซีพียู Dual-Core 1.2GHz รองรับ 3G ทุกเครือข่าย ที่สำคัญคือสามารถโทรออกได้ด้วย แบตเตอรี่ 4000 mAh ใช้งานได้ทั้งวัน ทั้งหมดนี้ราคาเพียง 9,900 บาทครับ จะว่าไปก็คุ้มกว่าซื้อสมาร์ทโฟนที่ราคาใกล้เคียงกัน : )
Samsung Galaxy Tab 3 8.0
ขยับหน้าจอใหญ่ขึ้นอีกหน่อยคุณจะได้ Galaxy Tab 3 8.0 หน้าจอ Super-Clear LCD ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 8.0 นิ้ว แถมได้ความละเอียด HD แสดงผลได้ดีกว่าที่เคย น้ำหนักบอดี้ไม่มากนักเพียง 314 กรัม ใกล้เคียงกับไซ์จอ 7 นิ้ว แต่บอดี้บางกว่ามาก (7.4 มิลลิเมตร) พกพาได้สะดวกมากเป็นพิเศษ ซีพียู Dual-Core 1.5GHz รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 บนอินเตอร์เฟส TouchWiz UX กล้อง 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD แบตเตอรี่ 4600 mAh และเช่นเดียวกับ Galaxy Tab 3 7.0 ครับคือสามารถโทรออกได้ด้วย แต่จะแนบหูหรือเปล่าขึ้นอยู่กับผู้ใช้ครับ : )
Samsung Galaxy Tab 3 10.1
กลับมาอีกครั้งกับแท็ปเล็ต Android จอใหญ่ 10.1 นิ้วราคาหมื่นกลางๆ จาก Samsung เหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบดูหนัง เข้าเว็บไซต์ ดู Youtube หรือเล่นเกมบนจอยักษ์ รุ่นนี้ปรับบอดี้ให้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาลงเล็กน้อย ใช้ชิปประมวลผล Intel Z2560 (Dual-Core) รองรับคอนเทนท์ Full HD เต็มรูปแบบพร้อม Android 4.2.2 มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติมเพียบ ติดกล้องความละเอียด 3 ล้านพิคเซล ที่น่าสนใจคือสามารถใส่ซิมการ์ดโทรออก ใช้งาน 3G ได้เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน แต่ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่คงแนบหูไม่ได้อยู่แล้ว ต้องหาสมอลทอล์คหรือหูฟังบลูทูธมาใช้งานแทนจ้า
Samsung Galaxy Note 8
บางครั้งแท็ปเล็ตขนาดจอ 10.1 นิ้วมีขนาดใหญ่เกินไป และพกพาไม่สะดวกนัก ทำให้ Galaxy Note 8.0 ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถใช้งานแทนสมุดจดบันทึกแบบเดิมๆ ได้เลย จากขนาดบอดี้ไม่ใหญ่มากนัก น้ำหนัก 338 กรัม บางเพียง 8 มิลลิเมตรเท่านั้น หน้าจอขนาดใหญ่ 8.0 นิ้ว สามารถใส่ซิมการ์ดใช้งาน 3G โทรออกได้เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนทั่วไป รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 เวอร์ชั่นอัพเดทล่าสุด มีฟีเจอร์ใช้งาน S-Pen, S-Note แบบ Galaxy Note 2 ทุกประการ ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล แบตเตอรี่อึดเพียงพอใช้งานได้เต็มวัน ทั้งหมดนี้สนนราคา 15,200 บาท รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และยังคงความคุ้มค่าสุดๆ แม้ว่าจะวางจำหน่ายมาได้สักพักแล้วก็ตาม
Samsung Galaxy Note 10.1 (2014 Edition)
เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุดเช่นกันสำหรับ Galaxy Note 10.1 โมเดลปรับปรุงใหม่ (2014 Edition) ปรับดีไซน์ดูดีขึ้นจากรุ่นเดิมเล็กน้อย บางเพียง 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 535 กรัม ถือว่าพกพาง่ายกว่าโมเดลก่อนหน้ามากทีเดียวครับ นอกจากนี้ยังปรับสเปคใหม่ยกแผง หน้าจอความละเอียด 2560×1600 พิคเซล เช่นเดียวกับ Nexus 10, ชิปประมวลผล Exynos 5420 ตัวใหม่แบบ Galaxy Note 3, กล้อง 8 ล้านพิคเซล สามารถใส่ซิมการ์ดโทรออก ใช้งาน 3G ได้แบบเดียวกับ Galaxy Tab 3 และที่สำคัญคือฟีเจอร์ด้าน S-Pen, S-Note ใหม่ๆ มีให้คุณได้ใช้งานเต็มที่บนรุ่นนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีราคาเปิดตัวออกมาให้ทราบกัน คาดว่าไม่ต่างจาก Galaxy Note 3 มากนักครับ
Sony
Sony Xperia L
ตอนนี้สมาร์ทโฟนโซนี่สเปคดีราคาโดนมีหลายรุ่นครับ อย่าง Xperia L ก็ได้รับความนิยมพอสมควร จากคุณสมบัติภายในระดับกลางๆ เช่นหน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว, ซีพียู Dual-Core 1GHz, ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ติดกล้องความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิคเซล รองรับคอนเทนท์ HD เต็มรูปแบบ ระบบเสียง ClearAudio+ บนเครื่องเล่น Walkman น่าจะเหมาะกับคนชอบฟังเพลงเป็นอย่างดี ด้านราคารุ่นนี้เป็นเจ้าของได้ที่ 7,990 บาท ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนจาก Sony ที่น่าเล่นมากในระดับราคาประมาณ 7-8 พันบาทครับ
Sony Xperia M
เมื่อเทรนด์สีสันแสบตากำลังมาแรงช่วงนี้ Sony ก็ขอเล่นบ้างในรุ่น Xperia M น้องเล็กสเปคแรงพอตัว โดยรวมแล้วคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Xperia L ครับเช่น หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว (ความละเอียด 854×480 พิคเซล), ซีพียู Dual-Core 1GHz, ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 และกล้อง 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Google Play Store ฟังเพลงผ่านเครื่องเล่น Walkman และมีบริการเสริมอื่นๆ จาก Sony ให้เลือกใช้งาน สำหรับราคาคาดว่าจะอยู่ในช่วง 7-8 พันบาท แถมมีสีสันให้เลือกเยอะซะด้วย
Sony Xperia C
สมาร์ทโฟนจอใหญ่ราคาประหยัดจาก Sony พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้ในเร็วๆ นี้ สำหรับ Xperia C มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ดีไซน์คล้าย Xperia Z ซีพียู Quad-Core 1.2GHz รองรับคอนเทนท์ระดับ Full HD เชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบในตัว ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 และรองรับบริการเสริมของ Sony หลายตัว ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ Full HD ได้อีกต่างหาก แบตเตอรี 2390 mAh ใช้งานได้เต็มวันแน่นอน ด้านราคาคาดว่าจะเปิดที่ประมาณ 1 หมื่นบาทครับ รอติดตามได้เร็วๆ นี้
Sony Xperia SP
กำลังกลายเป็นรุ่นฮิตในช่วงราคาหมื่นต้นๆ ด้วยสเปคภายในแรงสมฐานะ แถมดีไซน์สวย บอดี้แกร่งด้วยกรอบโลหะอีกต่างหาก สำหรับ Xperia SP มาพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro (Dual) ความแรงไม่เป็นรองใคร หนน้าจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว เพียงพอกับการใช้งานทั้งด้านมัลติมีเดีย โซเชี่ยล แอพพลิเคชั่นทั่วไป ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล เซ็นเซอร์ Exmor RS บันทึกวิดิโอ HD1080p รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และมีโมเดลที่รองรับ 4G LTE ให้เลือกใช้อีกด้วย แบตเตอรี่ 2370 mAh อึดเพียงพอใช้งานได้ตลอดวัน ทั้งหมดนี้ราคาค่าตัวแค่ 11,990 บาทเท่านั้นจ้า
Sony Xperia ZR
ต้องการรุ่นที่กันน้ำลึกๆ แต่ราคาไม่แรงมาก Xperia ZR จัดให้คุณได้ด้วยคุณสมบัติกันน้ำ 1.5 เมตรสูงสุด 30 เมตร หน้าจอ HD 4.6 นิ้ว, ชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro เช่นเดียวกับ Xperia Z กล้อง 13 ล้านพิคเซล รองรับการถ่ายภาพหลากหลายโหมด เชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 และสามารถถอดฝาหลัง เปลี่ยนแบตได้ด้วย ซึ่งปกติมือถือกันน้ำส่วนใหญ่จะทำไม่ได้ ด้วยการพกพาที่สะดวกพอตัว Xperia ZR ถือว่าน่าใช้อยู่เหมือนกัน ถ้าเอาไปลุยออกเที่ยวบ่อยๆ แต่ราคาที่ 16,490 บาทจัดว่าแพงอยู่เหมือนกัน อาจเพิ่มเงินไปดูรุ่นถัดไปได้เช่นกันครับ
Sony Xperia Z
ไม่ต้องปฏิเสธครับว่า Xperia Z รุ่นท็อปของ Eony เมื่อกลางปีนั้นฮิตติดลมบนขนาดไหน ถึงกับขาดตลาดไปอยู่ช่วงนึง ดิวยจุดขายด้านดีไซน์ทรงเหลี่ยม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะจาก Sony ซึ่งต่อมารุ่นอื่นๆ ก็มาทรงคบ้ายๆ กันหมด ด้านสเปคขง Xperia หน้าจอขนาด 5.0 นิ้วแสดงความละเอียด Ful HD, กล้วยความละเอียด 13 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ Full HD เช่นกัน บอดี้กระจกทั้งหน้าหลัง กันน้ำได้ลึก 1 เมตรในเวลา 30 นาที รองรับการเชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่ายแถมยังมีโมเดล 4G LTE ให้เลือกใช้งานเพิ่มเติม ด้านราคาของ Xperia Z ปัจจุบันอยู่ที่ 18,990 บาท ปรับลงมาไม่มากนักแม้จะเปิดตัวไปหลายเดือนแล้วก็ตาม
Sony Xperia ZL
หากคุณไม่ชอบสไตล์ Xperia Z ที่บอดี้เป็นกระจกเงาเกือบทั้งตัว อาจลองมาเล่น Xperia ZL ได้เช่นกัน โดยสเปคภายในของรุ่นนี้แทบจะคล้าย Xperia Z ทุกประการทั้งหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว แต่ขอบจอแคบกว่า และกินพื้นที่ถึง 3 ใน 4 ของด้านหน้า บอดี้ด้านหลังเป็นพลาสติกผิวด้าน Texture ตาข่ายช่วยให้การจับถือทำได้สะดวกมือยิ่งขึ้น ชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro, Android 4.1.2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมมากมายจากบน Google Play Store กล้อง 13 ล้านพิคเซล และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย ทั้งนี้ Xperia ZL ไม่กันน้ำนะครับ แน่นอนว่าราคาต้องถูกกว่า Xperia Z งานนี้แล้วแต่คุณจะตัดสินใจละกัน
Sony Xperia Z Ultra
กลายเป็นสมาร์ทโฟนขนาดจอมหึมาที่สุดเท่าที่มีในตลาดมือถือบ้านเราไปแล้ว Xperia Z Ultra โดดเด่นด้วยจอ Triluminos มหึมา 6.44 นิ้ว แสดงผลคมชัด สีสันจัดจ้านกำลังดีพร้อม X-Reality Engine เพิ่มความคมชัด ปรับสีสันระหว่างชมรูปภาพ วิดิโอ แจ่มขึ้นทันตา บอดี้แกร่งด้วยกรอบโลหะรอบตัว ชิปประมวลผล Snapdragon 800 แรงสะใจ แบตเตอรี่ 3000 mAh ใช้โหมด Stamina Mode อยู่ได้ทั้งวันครับ ทั้งนี้กล้องอาจจะธรรมดาไปหน่อย เพราะติดมาให้ที่ 8 ล้านพิคเซล แถมไม่มีแฟลช LED มาให้อีก สำหรับราคาเคาะที่ 21,990 บาท แรงสมค่าตัวเลยล่ะ
Sony Xperia Tablet Z
แท็ปเล็ตรุ่นล่าสุดจาก Sony บางเฉียบเพียง 6.9 มิลลิเมตร ใช้บังฝนได้เพราะมีคุณสมบัติกันน้ำเช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน Xperia หลายรุ่นครับ หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD แสดงผลเนียนชัด ชิปประมวล Quad-Core 1.5GHz ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายสไตล์ ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจาก Google Play Store เล่นเกม ดูหนัง จะทำอะไรก็ได้บนหน้าจอขนาดใหญ่สะใจ บอดี้ทนทานครับ ดูไฮโซกำลังดี แถมรองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE อีกด้วย อย่างไรก็ดี ราคาขายอาจจะสูงไปนิดนึงที่ 22,900 บาท แต่พี่แกไม่เหมือนใครจริงๆ นะ
Sony Xperia Z1
หลายคนคงรอคอยที่จะได้สัมผัสสมาร์ทโฟนกล้องเทพจาก Sony ด้วยจุดเด่นเลนส์ G ความละเอียด 20.7 ล้านพิคเซล พร้อมระบบประมวลผลภาพ BIONZ เห็นแล้วอยากเล่นจริงจัง นอกจากเรื่องกล้อง Xperia Z1 ยังใช้หน้าจอ Triluminos ขนาด 5.0 นิ้ว (Full HD) แสดงผลได้ดีเยี่ยม ดีไซน์แกร่งขึ้นจาก Xperia Z เดิมด้วยกรอบโลหะรอบบอดี้ ชิปประมวลผล Snapdragon 800 ระบบเสียง ClearAudio+ ฟังเพลง ดูหนังฟินอย่างไม่เคยมีมาก่อน รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และคาดว่าจะมีรุ่นรองรับ 4G LTE มาจำหน่ายอีกด้วย หากใครสนใจอยากลองเทคโนโลยีกล้องบน Xperia Z1 ลองมาลูบคลำตัวจริงได้ในงาน TME2013 เผลอๆ อาจได้ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปใช้ด้วย !
Nokia
Nokia 107 Dual SIM
ถึงสมาร์ทโฟนจะหาซื้อง่ายแถมมีราคาถูกในตอนนี้ แต่เบสิคโฟนราคาประหยัดจาก Nokia ยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่าง Nokia 107 Dual SIM ราคาประหยัด รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด หน้าจอขนาด 1.8 นิ้ว มีเครื่องเล่นเพลง MP3, วิทยุ FM เพิ่มเมมโมรี่การ์ดภายนอกได้อีก และแบตเตอรี่อึดพอใช้งานได้อย่างน้อย 2 วันเต็มๆ สีสันเจ็บจื้ดตามสไตล์ Nokia ครับ ราคาจัดว่าสบายกระเป๋า ไม่ต้องตัดสินใจให้ยุ่งยากเลย
Nokia Asha 501
รุ่นสุดฮิตในตระกูล Asha Series ครั้งแรกกับอินเตอร์เฟสแบบใหม่ รองรับทัชสกรีนเต็มรูปแบบ ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับจอทัชสกรีน 3.0 นิ้ว ซีพียู 1GHz ติดกล้องมาให้ 3 ล้านพิคเซล และที่น่าสนใจคือมีบริการแผนที่, โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คให้ใช้งานครบเครื่อง ลงเกม ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Nokia Store ได้ทันที ทั้งนี้ Asha 501 ไม่รองรับ 3G นะครับ แต่ใช้งานบน Edge ก็น่าจะโอเคแล้ว แถมแบตเตอรี่อึดด้วย สนนราคาเพียง 2,990 บาทเท่านั้น
Nokia 515
รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Nokia ด้วยอารมณ์การออกแบบ การใช้วัสดุบอดี้เป็นโลหะผิวทราย รู้สึกได้ถึงความหรูหรา เป็นงานศิลปะชิ้นนึงเลยก็ว่าได้ สำหรับ Nokia 515 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 2.4 นิ้ว กระจกผิวจอใช้ Gorilla Glass 2 ทนทานขั้นสุด รองรับการเชื่อมต่อครบเครื่องทั้ง 3G WiFi ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล และใช้งานแบบปุ่มกด Numpad สุดคลาสสิค รุ่นนี้ไม่เน้นความสมาร์ท ความแรง หรือสเปคภายในครับ แต่เรื่องความหรูหรามีระดับต้องยกให้เค้าจริงๆ เช่นเดียวกับยุค Nokia 6700 Classic นั่นเอง
Nokia Lumia 520
ถึงจะวางจำหน่ายไปสักพักใหญ่ๆ แล้วแต่วินโดว์โฟนยอดฮิต Nokia Lumia 520 แบบว่ายังคุ้มเหลือเชื่ออยู่ดี กับสเปคชิปประมวลผล Dual-Core 1GHz หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว, กล้อง 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD720p เชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบสูตร ลงแอพพลิเคชั่นเสริมหลากหลายบน Windows Phone Store นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมจาก Nokia ให้ใช้งานอีกด้วยเช่น Here Maps, Here Drive ฯลฯ และสามารถเปลี่ยนฝาหลังหลากหลายสีสันตามต้องการ ถ้าอยากลองเล่นวินโดว์โฟนราคาเบาๆ ตอนนี้ยังไง Lumia 520 ก็ยังคุ้มราคาอยู่ดีเพียง 5,490 บาท ลองเลือกสีที่ต้องการได้เลย
Nokia Lumia 625
โดยปกติวินโดว์โฟนจาก Nokia มีหน้าจอขนาดไม่เกิน 4.5 นิ้วเท่านั้น อย่างไรก็ดี Nokia Lumia 625 ทลายขีดจำกัดด้วยขนาดจอ 4.7 นิ้ว ใหญ่กว่าเดิม เหมาะกับการใช้งานทั่วไป แชท ดูหนัง เข้าเว็บในมุมมองที่กว้างกว่าเดิม ซีพียู Dual-Core 1GHz รองรับมัลติมีเดียระดับ HD เต็มรูปแบบ กล้อง 5 ล้านพิคเซล รองรับ 3G ทุกเครือข่ายไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณ แบตเตอรี่ 2000 mAh เพียงพอกับการใช้งานเต็มวัน และจุดขายอีกอย่างนึงของรุ่นนี้คือฝาหลังเคลือบ 2 ชั้น ทนทานจริงๆ ครับ แถมมีสีสันให้เลือกเพียบ ! ทั้งหมดนี้เป็นเจ้าของได้ในราคา 8,990 บาทครับ
Nokia Lumia 720
ไม่เอาจอใหญ่ก็ดูเป็นกล้องแจ่มแทนได้ครับ Lumia 720 เป็นสมาร์ทโฟนไม่กี่รุ่นที่ใช้เลนส์ Carl-Zeiss พร้อมรูรับแสง F/1.9 สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีเป็นพิเศษ ตัวบอดี้บางไม่ถึง 10 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา วัสดุโพลีคาร์บอเนตทั้งตัว รองรับการเชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย มีบริการเสริมติดเครื่องมาให้ครบเช่น Here Maps, Nokia Smart Cam, App Social ฯลฯ อีกด้วย แบตเตอรี่จัดเต็ม 2000 mAh ใช้งานได้ทั้งวัน ซีพียู Dual-Core 1GHz คอนเทนท์ HD รองรับแบบสบายๆ ด้วยราคา 9,490 บาท น่าจะจัดสินใจไม่ยาก หากชอบวินโดว์โฟนติดกล้องดีๆ ราคาไม่ถึงหมื่นบาทจ้า
Nokia Lumia 925
มาเป็นรุ่น Flagship อยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ความสามารถไม่ธรรมดา โดยเฉพาะด้านกล้อง แม้พิคเซลจะไม่เยอะเท่า Lumia 1020 แต่กล้อง Pureview 8.7 ล้านพิคเซล คุณภาพแบบว่าสุดยอดเลยทีเดียว เมื่อใช้งานผ่าน Nokia Pro Cam สามารถปรับแต่งได้แบบกล้องมือโปร งานนี้อยู่ที่ฝีมือของแต่ละคนด้วย บอดี้โลหะบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร แตกต่างจาก Lumia 920 ชัดเจน หน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 4.5 นิ้ว สีสันจัดจ้านได้ใจ รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE, 3G ทุกเครือข่าย ชิปประมวลผล Dual-Core 1.5GHz ลื่นไหลสุดๆ ครับบนวินโดว์โฟน 8 ส่วนฟีเจอร์น่าสนใจอื่นๆ บน Lumia 925 ก็คล้ายคลึงกับ Lumia 920, Lumia 1020 ที่มีบริการเสริมต่างๆ จาก Nokia ติดมากับเครื่องเลย ด้านราคาจัดได้ที่ 16,500 บาทครับ
Nokia Lumia 1020
นี่คือหนึ่งในสมาร์ทโฟนกล้องเทพรุ่นนึงของโลก หลายคนน่าจะเคยสัมผัสตัวจริงแล้วกับ Lumia 1020 พกเทคโนโลยี Pureview มาเต็มเหนี่ยว ตัวกล้องไม่นูนจากตัวบอดี้มากนัก จึงดูค่อนข้างสวยงามกว่า Nokia 808 Pureview ความละเอียด 41 ล้านพิคเซล พร้อมแฟลชซีนอนสำหรับถ่ายในที่มืด ใช้งานผ่าน Nokia Pro Cam ปรับแต่งโหมดต่าๆ ได้ตามใจชอบ ขึ้นอยู่กับฝิมือการถ่ายของผู้ใช้ด้วย ด้านสเปคอื่นๆ คล้ายคลึงกับ Lumia 925 ครับเช่นหน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 4.5 นิ้ว รองรับการใช้งาน 4G LTE ซีพียู Dual-Core 1.5GHz แบตเตอรี่ 2000 mAh และเมมโมรี่ภายใน 32GB ทั้งนี้ราคาเปิดตัวแพงเอาเรื่องเหมือนกันที่ 24,990 บาท เอาเป็นว่าหากคุณอยากลองเทคโนโลยี Pureview บนวินโดว์โฟนใหม่ล่าสุด คิดว่าคงไม่อยากพลาดอยู่แล้วล่ะ : )
OPPO
OPPO Find Muse
สมาร์ทโฟนน้องใหม่จาก OPPO ราคาประหยัด แต่สเปคภายในสมราคา หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ชิปประมวลผล Dual-Core 1.2GHz ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดีทั้งแอพฯ เกม แชท ถ่ายภาพผ่านกล้อง 3 ล้านพิคเซล ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.1 ครอบด้วยอินเตอร์เฟสของ OPPO สีสันสดใส นอกจากนี้ยังมีระบบเสียง Dirac HD สำหรับฟังเพลงดูหนังได้จุใจขึ้นกว่าเดิม กับราคา 4,990 บาท ลองเลือกดูได้ครับ
OPPO Find Clover
ในช่วงราคา 7-8 พันบาท OPPO ก็มีสมาร์ทโฟน Quad-Core ราคาเบาๆ ให้คุณเลือกใช้กับ Find Clover ด้วยคุณสมบัติเด่นต่างๆ เช่น หน้าจอ 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800×480 พิคเซล ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.1 ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล รองรับคอนเทนท์ HD เต็มรูปแบบ ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้มากมายจาก Google Play Store แถมยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดอีกต่างหาก ของเค้าดีจริงครับ สนนราคา 8,990 บาทเท่านั้น
OPPO Find Mirror
รุ่นใหม่ล่าสุดที่สาวๆ น่าจะชื่นชอบเป็นอย่างดี ด้วยคุณสมบัติสเปคแรงพอตัว ดีไซน์บางเฉียบ 7.4 มิลลิเมตร หน้าจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว สามารถเข้าสู่หน้า Lockscreen ด้วยการแตะหน้าจอติดกัน 2 ครั้ง แทนการกดปุ่ม Power, กล้องหลัง 8 ล้านพิคเซล (F/2.0) ถ่ายที่แสงน้อยได้ดี พร้อมกล้องโลโมไว้ถ่ายภาพแนวๆ ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz รองรับคอนเทนท์ HD ลื่นหัวแตก ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ด้านราคารุ่นนี้จัดได้ที่ 11,900 บาท และเตรียมพบโปรโมชั่นเด็ดๆ ในงาน TME2013 ได้เลย
OPPO Find Way S
รุ่นนี้คนชอบหน้าจอใหญ่ไม่ควรพลาด OPPO Find Way S โดดเด่นด้วยจอ HD ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว แสดงผลคมชัด เต็มตา เหมาะกับใช้เล่นเกม ดูหนัง สตรีมมิ่ง Youtube หรือใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ รองรับการเชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย ใช้งาน 2 ซิมการ์ด ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 พร้อมอินเตอร์เฟส OPPO UI สุดคลาสสิค ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล ระบบเสียง Dirac HD ฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี OPPO Find Way S ยังไม่มีข้อมูลราคาออกมา รอติดตามช่วงใกล้ๆ งานครับ
OPPO Find 5
ยังคงเป็นรุ่นที่น่าใช้งานแม้จะวางจำหน่ายมาหลายเดือนแล้วสำหรับ OPPO Find 5 ด้วยสเปคการใช้งานระดับไฮเอนด์ทั้งชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro 1.5GHz, หน้าจอ Full HD ขนาด 5 นิ้วที่หลายคนการันตีว่าแสดงผลดีจริงๆ , ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 (รอมต่างประเทศ Android 4.2) กล้อง 13 ล้านพิคเซล เซ็นเซอร์ Sony Exmor R ดีไซน์สวยงาม แบตเตอรี่ 2500 mAh ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ได้มากมาย น่าสนใจทีเดียวกับราคา 14,990 บาท (16GB) และ 16,990 บาท (32GB) ไม่แน่ว่าคุณจะได้ราคาถูกกว่านี้อีกหากมาสอยในงาน TME2013 จ้า
i-mobile
i-mobile i-style 7.3
ไอโมบายรอบนี้มีสมาร์ทโฟนแรงๆ ราคาประหยัดให้เลือกหลายรุ่นทีเดียว เริ่มด้วย i-Style 7.3 ค่าตัว 3,990 บาท แต่ได้สเปคหน้าจอ 4.5 นิ้ว, ซีพียู Dual-Core 1.2GHz, ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล ลงแอพพลิเคชั่นเสริมหลากหลาย ใช้บริการต่างๆ จาก Google เช่น Maps, Now, Current ฯลฯ ได้เลย ที่น่าสนใจคือมีให้เลือกคลื่นความถี่ 3G ทั้งแบบ 850/2100 MHz และ 900/2100 MHz แถมรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดอีกต่างหาก กับราคาเท่านี้คุ้มค่ามากครับ
i-mobile i-style 8.1
โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว เอาใจคนชอบเสพมัลติมีเดียบนสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ i-style 8.1 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Dual-Core 1.2GHz รองรับคอนเทนท์ระดับ HD ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Google Play Store และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง Lockscreen Widget ฯลฯ ที่มากับระบบ Android ให้ใช้งานด้วย ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล แบตเตอรี่ 2000 mAh เพียงพอกับการใช้งานได้เต็มวัน คาดว่าราคาเปิดตัวไม่น่าจะแพงนัก รอติดตามได้ในงาน TME2013 ได้เลยจ้า
i-mobile i-Style 8.2
ถ้าไม่ชอบแบบโค้งๆ i-style 8.2 มาในรูปแบบดีไซน์ทรงเหลี่ยม แต่สเปคไม่แตกต่างจาก i-style 8.1 มากนัก หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ซีพียู Dual-Core 1.2GHz ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 หน้าตาแบบ Stock UI เรียบง่าย ทำงานรวดเร็วทันใจ แบตเตอรี่ 2000 mAh รองรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบเครื่อง และใส่ได้ 2 ซิมการ์ด สำหรับคนชอบโทรเยอะ แน่นอนว่าราคาเปิดตัวอาจจะไม่แพงนัก รอติดตามได้ในงาน TME2013 ได้เช่นกัน
i-mobile IQ 5.3
กลายเป็นอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมของ i-mobile เพราะสเปคอันสุดคุ้มราคาของ IQ 5.3 โดยจุดขายเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ 3000 mAh อึดชนิดใช้งานข้ามวันได้เลย พร้อมซีพียู Quad-Core 1.2GHz กล้อง 12 ล้านพิคเซล รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย เรียกว่าเครื่องเดียวใช้งานได้อเนกประสงค์มากๆ เหมาะกับผู้ใช้ที่ใช้งานเยอะ แต่ไม่อยากชาร์จแบตบ่อย ด้านราคาเป็นเจ้าของได้ที่ 5,990 บาท ไม่ต้องลังเลแล้วครับ : )
i-mobile IQ 6.1
รุ่นปรับปรุงของ IQ6 จอใหญ่ยักษ์ อัพสเปคภายในใช้ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5GHz ทำให้การใช้งานลื่นไหล สมูทกว่าที่เคยเป็น หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว แสดงผลได้เต็มตา เหมาะกับการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไม่ต้องเพ่งสายตามากนัก ติดกล้อง 18 ล้านพิคเซล พร้อมกล้องหน้า 8 ล้านพิคเซล ถ่ายภาพกันให้จุใจกันไปเลย ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ฯลฯ สเปคดีขนาดนี้ขอบอกว่าไม่แพงอย่างที่คิด !
i-mobile IQ 6.2
เป็นอีกรุ่นที่อัพเกรดสเปคจาก IQ6 เช่นกัน แต่มีบางส่วนเป็นรองจาก IQ 6.1 เล็กน้อยเช่น ซีพียู Quad-Core 1.2GHz, แบตเตอรี่ 2000 mAh, กล้องหน้า 5 ล้านพิคเซล ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ใกล้เคียงกันครับ หน้าจอ HD 5.0 นิ้ว, ระบบปฏิบัติการ Android 4.2, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด พร้อมเชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย แน่นอนว่าลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Google Play Store ได้เช่นเดียวกับแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ ส่วนด้านราคารอติดตามได้เร็วๆ นี้
i-mobile IQ X
IQX มีจุดขายที่ความบางเฉียบเพียง 7.5 มิลลิเมตร เรียบเสมอทั้งตัว ทำให้รุ่นนี้มีกระแสตอบรับจากผู้ใช้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนบางๆ น้ำหนักเบา พกพาสะดวกเป็นอย่างดี หน้าจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว ตัวเครื่องมีขนาดพอดีๆ สามารถถือใช้งานมือเดียวได้ ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz ตอบสนองการใช้งานมัลติมีเดียระดับ Full HD เต็มรูปแบบ กล้องความละเอียด 18 ล้านพิคเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิคเซล ความคมชัดขนาดเห็นสิวเสี้ยนเลยทีเดียว รองรับการเชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย ใส่ได้ 2 ซิมการ์ด อาจจะวางแผนใช้งานซิมนึงเน้นโทร อีกซิมเน้นเล่นเน็ตได้เช่นกัน ด้านราคาสนนที่ประมาณ 8,790 บาท หรือจะเพิ่มงบอีกนิดเพื่อดูรุ่นถัดไปครับ
i-mobile IQX2
ปฏิเสธไม่ได้ว่า IQX2 ค่อนข้างลงตัวในด้านฟีเจอร์การใช้งานเด่นๆ อย่างหน้าจอ Full HD จาก Sharp แสดงผลสีสันคมชัด มุมมองกว้าง ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5GHz ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 เพิ่มแบตเตอรี่เป็น 2300 mAh ใช้งานได้นานพอตัว รองรับ 2 ซิมการ์ด เชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย กล้อง 18 ล้านพิคเซลพร้อมกล้องหน้า 8 ล้านพิคเซล จากสเปคภายในที่ครบขนาดนี้ เคาะราคาแค่ 9,490 บาทเท่านั้นเอง ! มีให้เลือก 2 สีสัน และ 2 คลื่นความถี่ 3G 850/2100, 900/2100 MHz
i-mobile IQ 9
จอใหญ่สะใจคือจุดขายของ IQ9 เป็นรุ่นแรกของไอโมบายที่มาพร้อมกับหน้าจอ HD ขนาด 5.7 นิ้ว แสดงผลคมชัด เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนัง ใช้งานแอพพลิเคชั่นเสริม ฟินกว่าเดิมเพราะพื้นที่จอใหญ่ขึ้น ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz ระบบปฏิบัติการ Android 4.2, กล้องความละเอียด 18 ล้านพิคเซล และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ด้านการเชื่อมต่อ 3G ยังคงแยกคลื่นเช่นเดิมครับ ถ้าอยากครอบครอง IQ9 จากไอโมบายจัดได้ที่ราคา 9,900 บาทจ้า
i-mobile IQ 9.1
นอกจาก IQ9 ไอโมบายยังมีทางเลือกให้คุณอีกรุ่นคือ IQ9.1 มีฟีเจอร์ Gesture โบกมือผ่านหน้าจอเพื่อรับสายได้เลย ส่วนอื่นๆ ไม่แตกต่างจาก IQ9 มากนักเช่น หน้าจอ HD ขนาด 5.7 นิ้ว, ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz, กล้องหลักความละเอียด 18 ล้านพิคเซล ส่วนกล้องหน้าลดลงเหลือ 5 ล้านพิคเซล สวยหล่อขึ้้นทันตาด้วย Beauty Mode รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และราคาถูกกว่าเล็กน้อย 9,490 บาทครับ
LG
LG Optimus L3 II
แอนดรอยด์น้องเล็กสุด Optimus L3 II จาก LG แม้ว่่าคุณสมบัติภายในจะไม่ถึงกับแรงมากนัก แต่ก็น่าจะเพียงพอกับผู้ใช้งานทั่วไปที่มีสมาร์ทโฟนไว้เพียงโทรออก ลงแอพพลิเคชั่นใช้นิดหน่อย หรือเล่นเน็ตผ่าน 3G WiFi ฯลฯ ขนาดหน้าจอ 3.2 นิ้ว ซีพียู 1GHz ติดกล้อง 3 ล้านพิคเซล พร้อมรันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ใช้งานบริการเสริมจาก Google ได้มากมายกช่น Google Maps, Gmail. Play Music ฯลฯ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ หากคุณหาสมาร์ทโฟนระดับราคาราวๆ 3-4 พันบาทใช้งาน ถึงจะมีคู่แข่งกลายรุ่นก็ตาม
LG Optimus L5 II
อัพเกรดขึ้นมาอีกหน่อยคุณจะได้ยลโฉมของ Optimus L5 II จากดีไซน์เรียบง่ายคลาสสิคสวยงาม โดยด้านในใช้สเปคหน้าจอ 4.0 นิ้ว, ซีพียู 1GHz เพียงพอกับการใช้ทั่วไปบน Android 4.1.2 สามารถลงแอพพลิเคชั่น เกมต่างๆ จากบน Google Play Store ได้ตามใจชอบ ด้านกล้องติดมาให้ที่ความละเอียด 5 ล้านพิคเซล สามารถถ่ายวิดิโอเอามาแชร์บนโซเชี่ยลเลย ด้วยขนาดเครื่องกะทัดรัด พกพาสะดวก น่าจะเป็นอีกรุ่นที่เหมาะกับสาวๆ ครับ ส่วนราคาเคาะอยู่ที่ 7,990 บาท รองรับ 3G WiFi GPS ครบจ้า
LG Optimus L7 II
รุ่นพี่ใหญ่สุดของตระกูล L-Series II จาก LG ที่วางจำหน่ายอยู่ ณ ตอนนี้ สำหรับ Optimus L7 II มาพร้อมกับจุดขายด้านแบตเตอรี่ที่อึดสุดยอด 2460 mAh ระดับเดียวกับสมาร์ทโฟนไฮเอนด์เลยทีเดียว หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว แสดงผลค่อนข้างดี ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล พร้อมออโต้โฟกัส รอรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบเครื่องในตัว นอกจากนี้ยังลงแอพพลิเคชั่นบน Google Play Store ได้เช่นเดียวกับโมเดลอื่นๆ ดังนั้นรุ่นนี้จึงเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่อึดๆ และราคาไม่แพงครับ 8,990 บาท
LG Nexus 4
สัมผัสอารยธรรมของ Google อย่างเต็มอรรถรสบน Nexus 4 สมาร์ทโฟน Pure Android สำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบ Android แบบดั้งเดิมไม่มีการปรับแต่งใดๆ โดยสเปคภายในจัดว่าแรงทีเดียว ใช้ซีพียู Quad-Core 1.5GHz, หน้าจอ True HD IPS ขนาด 4.7 นิ้ว แสดงผลได้คมชัดเนียนตามากทีเดียว ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซลพร้อมบันทึกวิดิโอ Full HD เมมโมรี่ภายใน 16GB ครับ อาจจะน้อยไปนิดหากคุณใช้งานหนักหน่วง แต่ก็สามารถตอบสนองการใช้งานด้านมัลติมีเดียได้ดี ลงแอพพลิเคชั่นเสริม แถมดีไซน์ยังสวยอีกด้วย ด้านราคาขายอยู่ที่ 14,900 บาท ไม่แน่ว่าในงาน TME2013 อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษภายในงานด้วยนะเออ
LG G2
ใครตั้งตารอสมาร์ทโฟน Flagship รุ่นใหม่จาก LG วันนี้ที่รอคอยมาถึงแล้วครับกับ LG G2 พร้อมวางจำหน่ายในงาน TME2013 แน่นอนกับราคาสุดเร้าใจเพียง 19,900 บาทเท่านั้น (32GB) โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดหรู ปุ่มกด Power-Volume ด้านหลัง แน่นอนว่าสเปคภายในถือว่าไม่ธรรมดา ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 800 แรงที่สุด ณ ตอนนี้ หน้าจอ True HD IPS+ ขนาด 5.2 นิ้ว ขอบบางไม่ถึง 3 มิลลิเมตร นอกจากนี้ยังติดกล้อง 13 ล้านพิคเซล ระบบเลนส์ป้องกันการสั่นไหว (OIS) โฟกัสสูงสุดพร้อมกัน 9 จุด และแบตเตอรี่ 3000 mAh เพียงพอกับการใช้งานทั่วไปตลอดวัน รอบนี้ LG จัดเต็มจริงๆ ครับ อยู่ที่ว่าคุณจะชื่นชอบหรือไม่ ?
Lenovo
Lenovo A390
แจ้งเกิดเลยทีเดียวกับรุ่นเล็กราคาโดนจาก Lenovo โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว ซีพียู Dual-Core 1GHz กล้อง 5 ล้านพิคเซล ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 รองรับการใช้งาน 3G WiFi GPS แถมยังรองรับ 2 ซิมการ์ดอีกต่างหาก เอาแค่ลงแอพพลิเคชั่นใน Google Play Store ได้ก็คุ้มสุดยอดแล้ว ด้วยค่าตัวเพียง 2,990 บาท !!
Lenovo A706
ขยับงบมาสัก 6,000 บาท จะได้สมาร์ทโฟน Quad-Core ราคามิตรภาพ หน้าจอขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว เอาไว้ใช้งานแอพพลิเคชั่น แชท อัพสเตตัส เล่นเกมอะไรได้หมด รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล บอดี้เป็น Polycarbonate ทั้งตัว ทนทานกำลังดีแต่น้ำหนักเบา พกพาสะดวกครับ อย่างที่บอกไปตอนแรกคือราคาไม่ถึง 6,000 บาท เพราะเหลือทอนให้คุณ 10 บาทนั่นไง : )
Lenovo S820
เห็นหน้าตาเรียบๆ แบบนี้พี่แกติดกล้องมาให้ 12 ล้านพิคเซลครับ สำหรับ Lenovo S820 รุ่นนี้เน้นใช้งานกล้องเป็นหลัก แต่สเปคภายในก็แรงพอตัวทั้งหน้าจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว แสดงผลค่อนข้างดีทีเดียว ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz รองรับวิดิโอ HD1080p ตอบสนองการใช้งานแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ลื่นไหลพอใช้ได้ ในโหมดกล้องผู้ใช้สามารถปรับแต่งฟีเจอร์ เอฟเฟคได้เยอะพอสมควร หรือจะใช้งานแอพฯ ถ่ายภาพอื่นๆ ได้เช่นกัน แบตเตอรี่ 2000 mAh ทั้งหมดนี้จับจองได้ในราคา 10,090 บาทครับ
Lenovo P780
เมื่อก่อนเรายกให้ Motorola RAZR Maxx คือสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่อึดที่สุด อย่างไรก็ดี ล่าสุด Lenovo P780 ทำลายสถิติแล้วด้วยความจุแบตเตอรี่ 4000 mAh ! รองรับการใช้งานชนิด 2 วันก็ยังเหลือ หากไม่ได้ใช้งานมากมายนัก สเปคภายในค่อนข้างดีทีเดียว หน้าจอ HD 5.0 นิ้ว, ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz รองรับคอนเทนท์ระดับ HD1080p ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.1 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าระบบประหยัดพลังงาน เพื่อยืดเวลาสแตนบายออกไปได้อีก ราคาของ Lenovo P780 เท่ากับ S820 ครับที่ 10,090 บาท แล้วแต่จะเลือกว่าเน้นด้านใดเป็นหลัก
Lenovo S920
นอกจากสมาร์ทโฟนที่เน้นกล้อง หรือเน้นแบตเตอรี่อึดเป็นหลักแล้ว Lenovo ยังเอาใจคนชอบสมาร์ทโฟนเครื่องบาง จอใหญ่ สเปคแรง และราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นที่หน้าจอ IPS HD 5.3 นิ้ว ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.1 ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล (F/2.0) ถ่ายในที่แสงน้อยได้ค่อนข้างดี พร้อมโหมดใช้งานเสริมเช่น LenovoPower สำหรับตั้งค่าด้านพลังงาน, Backup & Restore ไว้สำรองข้อมูลกรณีต้องรีเซ็ทเครื่อง, Pocket Mode เร่งเสียงริงโทนเมื่อโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋า ฯลฯ ถ้าชอบ Lenovo S920 สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 9,990 บาท หรือจะดู P780, S820 ต้องลองเล่นและตัดสินใจเองจ้า
Lenovo K900
ตัวท็อปของ Lenovo ในตอนนี้ที่ผู้ใช้หลายคนชอบเพราะดีไซน์สวยงาม บางเฉียบ และการเลือกใช้วัสดุโลหะเป็นบอดี้ แถมราคาถูกกว่าชาวบ้าน ทำให้ K900 ฮิตติดลมบนอย่างรวดเร็ว คุณสมบัติในตัวไม่ธรรมดาเช่น หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD, ชิปประมวลผล Intel Z2580 ความเร็ว 2GHz + แรม 2GB ลื่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 กล้อง 13 ล้านพิคเซล แบบว่าคุ้มเหลือหลายกับราคา 14,990 บาท มีอะไรดีกว่านี้มั้ยครับ ?
Lenovo A1000
มาดูแท็ปเล็ตของ Lenovo กันสักหน่อย ได้ข่าวว่าแรงไม่แพ้กัน เริ่มจาก A1000 แท็ปเล็ตหน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว สเปคซีพียู Dual-Core 1GHz สามารถใส่ซิมการ์ดเล่นเน็ต โทรออกได้ด้วย แต่เสียดายที่รองรับเฉพาะ Edge เท่านั้น โดยรวมแล้วจัดว่าสมราคาทีเดียว ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 แบตเตอรี่ 3500 mAh และไม่มีกล้องหลังนะจ๊ะ ทั้งหมดนี้ราคาแค่ 3,990 บาท อย่างน้อยก็คุ้มกว่าแท็ปเล็ต WiFi Only ที่ราคาใกล้เคียงกัน
Lenovo A3000
ถ้าคิดว่า A1000 ยังขาดอะไรไปอีกเยอะ และคุณมีงบมากพอ แนะนำอย่างยิ่งว่าลองดู A3000 ได้เลย รองรับการใช้งาน 3G WiFi ครบครับ แถมใช้งาน 2 ซิมอีกต่างหาก บอดี้ดูแข็งแรงกว่า A1000 อย่างเห็นได้ชัด รวมถึงลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหลัง ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz ประมวลผลคอนเทนท์ HD เต็มรูปแบบ ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซลพร้อมออโต้โฟกัส ฯลฯ ทั้งนี้หน้าจอยังคงใช้ 7 นิ้ว ความละเอียด 1024×600 พิคเซลเช่นเดียวกับ A1000 แต่ราคาค่าตัวก็ถือว่าประหยัดสุดๆ เพียง 6,900 บาทเท่านั้นเอง
Lenovo S6000
Lenovo ยังมีแท็ปเล็ตหน้าจอขนาด 10.1 นิ้วให้คุณเลือกใช้อีกรุ่นหากต้องการใช้ดูหนัง Full HD เล่นเกมเข้าเว็บแบบเต็มตา S6000 โดดเด่นด้วยดีไซน์สง่างาม เรียบง่าย ผู้ใช้สามารถใส่ซิมการ์ดเพื่อเล่นเน็ตผ่าน 3G หรือเชื่อมต่อ WiFi ได้เช่นกัน กล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจาก Google Play Store ตามการใช้งาน และสิ่งที่จะทำให้ตัดสินใจสอยง่ายขึ้นก็คือราคาของ Lenovo S6000 เปิดตัวเพียง 9,900 บาท น่าสนใจดีทีเดียว
HTC
HTC Desire 200
น้องเล็กสุดของ HTC ที่คาดว่าจะวางจำหน่ายในเร็ววัน ดีไซน์เล็กกะทัดรัด มีรูปแบบของ HTC One ปนมานิดหน่อย หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ได้มากมาย ซีพียูความเร็ว 1GHz กล้อง 5 ล้านพิคเซล รองรับการเชื่อมต่อครบเครื่องทั้ง 3G WiFi GPS นอกจากนี้ยังมีระบบเสียง Beats Audio สำหรับผู้ใช้ที่เน้นฟังเพลงอีกด้วย ทั้งนี้ Desire 200 อาจเปิดตัวในราคาไม่แพงนัก จากสเปคภายในที่อยู่ในระดับล่างครับ
HTC Desire 500
รุ่นนี้จะว่าไปแล้วเป็นพี่น้องกับ Desire 600 เลยก็ว่าได้เพราะคุณสมบัติโดยรวมใกล้เคียงกันเช่น ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz (Snapdragon 200), กล้อง 8 ล้านพิคเซล รองรับบันทึกวิดิโอความละเอียด HD720p ส่วนที่ต่างกันก็มีหลายอย่างเหมือนกันเช่น การรองรับ 2 ซิมการ์ดที่ Desire 500 ไม่มี, ระบบ Android 4.2.2 บน Desire 500, ขนาด-ความละเอียดหน้าจอที่ Desire 600 เหนือกว่า ฯลฯ รวมถึงดีไซน์ที่ Desire 500 เหมือนนำ HTC One S มาปรับปรุงใหม่ คาดว่าจะมีวางจำหน่ายในงาน TME2013 ด้วยราคาถูกกว่า Desire 600 เล็กน้อยจ้า
HTC Desire 600 Dual
ช่วงหลัง HTC เริ่มมีสมาร์ทโฟนรองรับ 2 ซิมการ์ดหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน อย่างรุ่นนี้ Desire 600 ดีไซน์เรียบง่ายแต่สวยงาม หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด qHD,ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz เช่นเดียวกับ Desire 500 อัพเดทข่าวสารต่างๆ รวมถึงโซเชี่ยลทั้งหลายบน BlinkFeed ทันสมัยสุดๆ ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD720p และระบบเสียง Beats Audio ลำโพงสเตอริโอคู่ ฟังเพลงเสียงกระหึ่ม แม้จะไม่ใช่รุ่นแพงก็สัมผัสประสบการณ์นี้ได้บน Desire 600 !
HTC One
ไม่มีอะไรเด็ดได้เท่า HTC One แล้วจากความนิยมของผู้ใช้ที่ชื่นชอบบอดี้โลหะสุดแกร่ง งานประกอบเยี่ยม ความแรงระดับเหลือใช้ หน้าจอความละเอียดสูง และกล้องเทคโนโลยี UltraPixel ฯลฯ รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Full HD 4.7 นิ้ว เชื่อว่าไม่เห็นเม็ดพิคเซลด้วยตาเปล่าแน่นอน, ชิปประมวลผล Snapdragon 600 ความเร็ว 1.7GHz ลื่นหัวแตกบน Android 4.2.2 ครอบด้วย Sense UI รุ่นล่าสุด มี BlinkFeed ให้คุณอัพเดทข่าวสารต่างๆ แบบเรียลไทม์ กล้อง UltraPixel ความละเอียด 4 ล้านพิคเซล ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็มีลำโพงสเตอริโอคู่ ระบบเสียง BoomSound แบบว่ากระหึ่มจริงจัง รอติดตามโปรโมชั่นเด็ดในงาน TME2013 ครับ HTC One น่าจะจัดเต็มไม่แพ้รุ่น-แบรนด์อื่น
HTC One Mini
น้องวันย่อส่วนในขนาดเล็กลง แน่นอนครับว่าสเปคภายในก็ลดลงด้วยเช่นกัน สำหรับ One Mini โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ยังคงแบบ HTC One ไว้อย่างเหนียวแน่น แม้วัสดุบอดี้จะเปลี่ยนบางส่วนก็ตาม ฟีเจอร์เด็ดๆ อย่าง BoomSound ลำโพงสเตอริโอคู่, กล้อง UltraPixel 4 ล้านพิคเซล ฯลฯ ยังอยู่ครบ ชิปประมวลผลปรับลดเป็น Snapdragon 400, หน้าจอ HD 4.3 นิ้ว แต่การใช้งานโดยรวมแล้วไม่ต่างกันมากนัก ได้ข่าวว่าในไทยจะขายรุ่น 4G LTE ด้วย งานนี้ต้องติดตามข่าวกันต่อครับ
HTC Butterfly
ถึงจะมีโมเดลใหม่มาทดแทนแล้ว แต่น้องผีเสื้อราตรียังคงน่าเล่นอยู่ด้วยสเปคภายในระดับไฮเอนด์ ทั้งหน้าจอ Full HD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro ดีไซน์สวยงามแบบเดียวกับเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ล่าสุดได้อัพเป็น Android 4.2.2 พร้อมใช้งาน BlinkFeed แบบรุ่นใหม่ๆ แล้วเรียบร้อย ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล ถ่ายเร็วแชะไว เก็บภาพในที่แสงน้อยได้ค่อนข้างดี เพิ่มเมมโมรี่การ์ดได้สูงสุด 64GB ซึ่งปกติจะไม่ค่อยเห็น Flagship ของ HTC ที่สามารถใส่ MicroSD ได้ นอกจากนีก็มีระบบเสียง Beats Audio ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจาก Google Play Store ฯลฯ สนนราคา 17,900 บาทครับ ในงาน TME2013 น่าจะมีโปรโมชั่นดีๆ ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอีก
HTC Butterfly S
ปิดท้ายด้วยรุ่นท็อปตัวแรงล่าสุดจาก HTC รอบนี้ผีเสื้ออัพเกรดตัวเองให้แรงขึ้น อึดขึ้น ใช้งานได้เต็มสตรีม โดย Butterfly S มีจุดขายหลักที่ดีไซน์แตกต่างจาก HTC One หน้าจอ Full HD ขนาด 5.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Snapdragon 600 1.7GHz พร้อมกล้อง UltraPixel ระบบเสียง BoomSound ฯลฯ คุณสมบัติใกล้เคียงกับ HTC One แต่ไม้ตายของรุ่นนี้อีกอย่างนึงอยู่ที่แบตเตอรี่ 3200 mAh ตอบสนองการใช้งานอันหนักหน่วงของคุณได้ตลอดวัน แถมรองรับ 4G LTE อีกด้วย ! ทั้งนี้ราคาก็คิดหนักหน่อย เพราะเปิดตัวที่ 23,900 บาท จ้า
Acer
Acer Liquid Z3
เป็นอีกหนึ่งรุ่นเล็กม้ามืดที่น่าจับตามองจาก Acer ด้วยสเปคระดับ Dual-Core ราคาถูกที่สุดแล้วในตอนนี้เพียง 2,590 บาท ! หน้าจอทัชขนาด 3.5 นิ้ว, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้มหาศาล ติดกล้อง 3 ล้านพิคเซล เพิ่มเมมโมรี่การ์ดได้เต็มที่ แน่นอนครับว่าใช้งาน 3G WiFi GPS ได้หมด หลายคนที่ทราบราคาของ Liquid Z3 รับรองว่าอึ้งได้อีก เพราะมันถูกจริงๆ ครับ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
Acer Liquid E2 Duo
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Acer เปิดขายครั้งแรกในงาน มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 8 ภาพภายในเวลาแค่ 1 วินาที รองรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS รันบนระบบปฏิบัติการ Android Jelly Bean และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด นอกจากนี้ยังมีลำโพงสเตอริโอคู่ ระบบเสียง DTS สำหรับฟังเพลง โดยรวมแล้วเป็นอีกทางเลือกสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจ และมีราคาไม่แพงมากนัก
Acer Liquid S1
ครั้งแรกของ Acer ในส่วนของสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว Liquid S1 โดดเด่นในด้านดีไซน์โค้ง เรียบง่ายตามสไตล์ Acer เร็วแรงด้วยชิปประมวลผล Quad-Core 1.2GHz ติดกล้องึความละเอียดสูง 8 ล้านพิคเซล รองรับคอนเทนท์ Full HD เต็มรูปแบบ เชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบเครื่อง และที่น่าสนใจคือราคาอาจจะไม่แพงอย่างที่คิดซะด้วย รอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เร็วๆ นี้ครับ คิดว่าคนชอบสมาร์ทโฟนจอใหญ่คงต้องเล็งไว้เป็นทางเลือกแน่นอน
Acer Iconia A1
แท็ปเล็ตหน้าจอ 7.9 นิ้วจาก Acer ด้วยอัตราส่วนหน้าจอ 4:3 จึงเหมาะกับการใช้งานในด้านการอ่านเอกสาร หนังสือออนไลน์ เข้าเว็บไซต์ต่างๆ เนื่องจากจอกว้างกำลังดี ทั้งนี้อาจจะดูหนัง HD ลำบากหน่อยเพราะอัตราส่วนไม่เท่ากันครับ สเปคซีพียู Quad-Core 1.2GHz, รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 เชื่อมต่อ WiFi ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ตลอดวัน ด้านราคาเป็นเจ้าของได้ที่ 5,990 บาทครับ
Acer Iconia B1
ภาคต่อของแท็ปเล็ตราคาประหยัด Liquid B1-A71 ที่มีกระแสตอบรับค่อนข้างดีจากผู้ใช้ เนื่องจากราคาเปิดตัวค่อนข้างถูก และมีคอนเทนท์เพื่อการศึกษาสำหรับเด็กมากมาย ซึ่งเหมาะกับผู้ปกตรองที่มีบุตรหลานในวัยเรียน สำหรับ Liquid B1-710 โมเดลใหม่ยังคงสเปคเดิมครับ ซีพียู Dual-Core 1.2GHz, หน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว, เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 แต่ไม่มีกล้องหลังเท่านั้น ด้านราคาเปิดตัวได้ข่าวว่าประมาณ 4 พันบาท ถือว่าไม่แพงครับ แต่มีตัวเลือกอื่นๆ พอสมควร แล้วแต่ผู้ใช้จะตัดสินใจจ้า
Asus
Asus FonePad 7
จุดกระแสแท็ปเล็ตสเปคดีจาก Asus จากการบอกเล่ากันปากต่อปากเพราะความคุ้มค่าคุ้มราคาของ FonePad 7 โดดเด่นด้วยวัสดุโลหะ ทนทานแต่น้ำหนักเบา หน้าจอ IPS HD ขนาด 7 นิ้ว แสดงผลคมชัด สีสันกำลังดี รองรับการเชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย ชิปประมวลผล Intel Z2460 รองรับคอนเทนท์ Full HD แบบไม่กระตุก แบตเตอรี่ 4270 mAh เพียงพอใช้งานทั้งวันได้สบาย ระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ทำงานได้รวดเร็วครับ เพราะอินเตอร์เป็นแบบ Stock UI เดิมๆ ติดกล้อง 3 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD และที่สำคัญคือโทรออกได้ด้วย ! ทั้งหมดนี้ 7,000 ทอน 10 บาท ถูกเหลือเชื่อเลยล่ะ
Asus MemoPad 7 HD
ถ้าคิดว่าใช้งานแท็ปเล็ตแค่เล่นเน็ต ลงเกม ใช้แอพพลิเคชั่นทั่วไป MemoPad 7 HD เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากครับ สเปคซีพียู Quad-Core 1.2GHz ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ลื่นสมูทสุดๆ ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล ดีกว่า FonePad หน่อยนึง ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้มากมาย ส่วนหน้าจอเท่ากันครับ IPS LCD 7.0 นิ้ว ความละเอียด 1280×800 พิคเซล อย่างไรก็ดี รุ่นนี้ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดโทรออก หรือเล่น 3G ได้ ดังนั้นต้องเชื่อมต่อ WiFi อย่างเดียว แต่ราคาก็เอื้อมง่ายอยู่ที่ 5,990 บาท ลองเล่นของจริงก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย
Asus Nexus 7 (3G+WiFi, 32GB)
แม้ว่าจะมีรุ่นใหม่ออกมาทดแทนแล้ว แต่ Nexus 7 รุ่นปี 2012 ยังคงสเปคในระดับที่ใช้งานแอพพลิเคชั่น เล่นเกมได้ลื่นไหลอยู่ และอัพเกรดเป็น Android 4.3 ล่าสุดได้เช่นกัน หน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว ความละเอียด 1280×800 พิคเซล ชิปประมวลผล Nvidia Tegra 3 เหมาะกับใช้เล่นเกมกราฟฟิคสวยๆ สำหรับโมเดล 3G จะรองรับการใช้งาน 3G ทุกคลื่นความถี่ครับ แต่ไม่สามารถโทรออกแบบสมาร์ทโฟนได้เท่านั้น ความจุเมมโมรี่ภายใน 32GB เยอะกว่ารุ่นปกติ เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ 4325 mAh อยู่ได้นานเลยทีเดียว ถ้าไม่ซีเรียสว่าเป็นรุ่นเก่า น่าจะประหยัดตังไปได้เยอะอยู่เหมือนกัน
Asus Nexus 7 (2013)
นี่คือแท็ปเล็ตตระกูล Nexus ที่เปิดตัวออกมาล่าสุด ปรับปรุงจาก Nexus 7 ตัวเดิมทั้งหน้าจอ Full HD 7.0 นิ้ว แสดงผลคมชัดที่สุดในบรรดาแท็ปเล็ตจอ 7 นิ้ว ชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro รุ่นพิเศษที่แรงเทียบเท่า Snapdragon 600 , ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD1080p รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.3 เวอร์ชั่นล่าสุด ทำงานได้รวดเร็วมากๆ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน NFC และชาร์จไฟไร้สายบนแท่นชาร์จพิเศษอีกด้วย คาดว่าจะเปิดตัวในไทยในกี่ไม่อึดใจ รอติดตามข่าวได้เรื่อยๆ ครับ
Blackberry
Blackberry 9220
อยากแชทในแบบสไตล์ Blackberry ราคาถูกหน่อยตอนนี้ Blackberry 9220 ยังมีให้เลือกซื้อใช้อยู่ครับ ราคาเพียง 4,990 บาท ได้ีแป้นคีย์บอร์ด QWRTY สุดสมาร์ท แชทผ่าน BBM หรือแอพพลิเคชั่นโซเชี่ยลอื่นๆ ติดกล้อง 2 ล้านพิคเซล แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานครับ เนื่องจากไม่รองรับ 3G นั่นเอง โดยรวมเอาไว้พอใช้งานโทรออก รับอีเมล แชทนิดหน่อยก็โอเคอยู่ในราคาไม่ถึง 5,000 บาท
Blackberry Q5
แม้ Blackberry 10 จะไม่ค่อยบูมในบ้านเราจากรุ่นไฮเอนด์ที่มีราคาสูง แต่เร็วๆ นี้ Q5 คาดว่าจะเปิดตัวในราคาหมื่นต้นๆ เท่านั้น กับสเปคหน้าจอขนาด 3.1 นิ้ว พร้อมแป้น QWERTY ในแบบฉบับของ Blackberry ซึ่งหลายคนชอบใช้อยู่ เชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบเครื่อง ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้มากพอตัวบน Blackberry World ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD1080p และแบตเตอรี่ 2180 mAh เพียงพอกับการใช้งานเต็มวัน รุ่นนี้ดูแล้วน่าสนใจครับหากคุณชอบแชท ชอบสไตล์ Blackberry อยู่แล้ว
Blackberry Z10
โมเดลบุกเบิกของ Blackberry 10 แม้ว่าจะเปิดตัวด้วยราคาค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาถูกลงมากพอสมควร กับสเปคหน้าจอขนาด 4.2 นิ้ว ชิปประมวลผล Snapdragon S4 (Dual-Core) เพียงพอกับการใช้งานบนโอเอส BB10 ครับ ลื่นมาก ! ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Blackberry World ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอความละเอียด Full HD เสียดายแบตเตอรี่อาจจะน้อยไปนิดนึง แต่โดยรวมแล้ว ถ้าคุณชอบสไตล์ทัชล้วนบน Blackberry 10 ลองดูรุ่นนี้ละกัน
Blackberry Q10
สาวก Blackkbery น่าจะต้องการสมาร์ทโฟน BB10 ตัวท็อป ราคาสูงที่สุดในตอนนี้ – Q10 โดดเด่นด้วยการออกแบบหรูหรา ดูมีระดับคล้าย Blackberry Bold 9900 สเปคโดยรวมใกล้เคียงกับ Z10 ครับ แต่ต่างกันที่ Form Factor รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 3.1 นิ้ว, แป้นคีย์บอร์ด QWERTY, ชิปประมวลผล Snapdragon S4 ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล รองรับคอนเทนท์ Full HD แต่หน้าจออาจจะไม่เหมาะกับการดูคลิปสักเท่าไหร่ ด้านราคาก็จัดได้ที่ 22,900 บาท พอๆ กับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปของแบรนด์อื่นๆ เลยล่ะ
Huawei
Huawei Ascend Mate
สัมผัสสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่เบิ้ม 6.1 นิ้ว ในราคาย่อมเยาจาก Huawei ได้แล้ววันนี้ จุดเด่นของ Ascend Mate ไม่พ้นเรื่องหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลคมชัด เหมาะกับการใช้งานด้านมัลติมีเดียอย่างมาก ชิปประมวลผลภายใน Quad-Core 1.4GHz ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดี ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Google Play Store ได้มากมาย ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล บันทึกวิดิโอ HD1080p อีกอย่างที่ชอบคืองานประกอบบอดี้ทำออกมาดีทีเดียวครับ แถมแบตเตอรี่จัดเต็ม 4050 mAh อยากเป็นเจ้าของมือถือจอใหญ่จาก Huawei สนนราคาที่ 11,900 บาทเท่านั้นเอง !
Huawei Ascend P6
ส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนบางเฉียบมักจะสเปคไม่ดีนัก เพราะถูกจำกัดด้านการดีไซน์ฮาร์ดแวร์ภายใน แต่ Ascend P6 กลับทำได้ดีกว่าที่หลายคนคาดไว้ ภายใต้ความบางเฉียบเพียง 6.2 มิลลิเมตร คุณจะได้คุณสมบัติจอ HD ขนาด 4.7 นิ้ว แสดงผลคมชัด มุมมองกว้างสุดๆ รองรับการเชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย เพิ่มเมมโมรี่การ์ด MicroSD ได้ , ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล (F/2.0) ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีเยี่ยม แบตเตอรี่ 2000 mAh ขอบเครื่องเป็นโลหะ เพิ่มความทนทาน งานประกอบทำออกมาแน่นหนาครับ สมราคา 13,990 บาท เพราะไม่มีแบรนด์ไหนทำออกมาแบบ Ascend P6 ลองเล่นแล้วจะติดใจ !
Apple
Apple iPhone 5
เรียกว่าเป็นรุ่นในตำนานเลยก็ว่าได้ เนื่องจาก Apple นำ iPhone 5c มาทดแทน iPhone 5 เดิมทำให้รุ่นนี้กลายเป็นอะไรที่น่าหามาครอบครองไว้ จากบอดี้โลหะ Unibody อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สเปคการใช้งานอยู่ในเกณฑ์ดี หน้าจอ Retina Display 4.0 นิ้ว, กล้อง iSight 8 ล้านพิคเซล, ชิปประมวลผล Apple A6 ฯลน และรองรับ iOS 7 เต็มรูปแบบ หากคุณคิดว่า iPhone 5c แพงเกินไป หรือไม่ถูกใจ iPhone 5 รุ่นเดิมยังคงตอบโจทย์คุณได้ครับ ติดตามโปรโมชั่นในงาน TME2013 รับรองว่า 3 ค่ายมือถือใหญ่จัดเต็มแน่นอน
Apple iPad with Retina Display
แม้ว่าแท็ปเล็ตจอ 9.7 นิ้วอย่าง iPad จะไม่ถูกพูดถึงมากนักในงาน Thailand Mobile Expo ที่ผ่านมา แต่ก็มีจำหน่ายผ่าน 3 ค่ายมือถือชั้นนำครับ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดสุดยอด สำหรับ iPad with Retina Display หรือ iPad 4 ยังคงโดดเด่นในด้านหน้าจอความละเอียดสูง แสดงผลคมชัดขั้นเทพ, ชิปประมวลผล Apple A6X แรงสะใจ ยังคงอัพเดท iOS 7 ใช้งานลื่นไหลสบายๆ ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล บอดี้โลหะให้สัมผัสพรีเมี่ยม และแบตเตอรี่ลากยาวเต็มวันได้ ราคาเริ่มต้น 20,500 บาท (Cellular+WiFi) อันนี้ยังไม่นับโปรโมชั่นนะจ๊ะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น