ซื้อมือถือที่ศูนย์ - ร้านขายส่ง - ตู้ ที่ไหนดีกว่ากัน ?
"หนูจะไปซื้อมือถือที่ไหนดีคะ เลือกไม่ถูกเลย" "จะซื้อมือถือที่ MBK เเต่ลังเลว่าจะซื้อที่ไหนดี" "ซื้อมือถือร้านส่งจะเหมือนซื้อศูนย์มั้ยอะคะ เห็นราคาต่างกันมากจัง" ฯลฯ
ปัญหา อีกอย่างที่พบหลังจากเลือกมือถือในดวงใจได้เเล้วก็คือ จะซื้อที่ไหนล่ะ ? เเต่ละที่ก็มีข้อดีข้อเสียเเตกต่างกันไป เอาเป็นว่า มาดูกันดีกว่า ว่าเราจะซื้อไหนได้มั่ง
ปัญหา อีกอย่างที่พบหลังจากเลือกมือถือในดวงใจได้เเล้วก็คือ จะซื้อที่ไหนล่ะ ? เเต่ละที่ก็มีข้อดีข้อเสียเเตกต่างกันไป เอาเป็นว่า มาดูกันดีกว่า ว่าเราจะซื้อไหนได้มั่ง
1. ศูนย์บริการ
ถ้า คุณเดินห้างบ่อยๆ จะพบว่า ร้านขายมือถือที่มีมาตรฐานที่สุดคือ ศูนย์บริการครับ เนื่องจากมีมาตรฐานการบริการที่ดี เเละสามารถหาได้เเทบทุกห้างเลยทีเดียว เเม้จะตามต่างจังหวัดก็ตาม จะว่าไปเเล้ว มาดูนิยามของศูนย์บริการกันครับ
- ราคาเเพงกว่าข้างนอก 5-25% (เเล้วเเต่รุ่น)
- มีสาขาให้บริการทั่วไทย
- มีมาตรฐานในการบริการ (ขึ้นอยู่กับร้านนั้นๆ)
- เคลมง่าย (ตามเงื่อนไขของบริษัท)
- มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย (เรียกบ้านๆ ว่า โปรโมชั่น)
- สามารถใช้บัตรเครดิตผ่อนได้
- ศูนย์บริการบางเเห่งจะขาย PPC ด้วย เช่น เจมาร์ท
2. ร้านขายส่ง
ถ้า คุณต้องการมือถือซักเครื่อง เเต่ดูราคาที่ศูนย์เเล้ว เเพง !! บางทีก็ของหมด ดังนั้น ร้านขายส่งจึงเป็นอีกทางเลือกสําหรับผู้ที่ต้องการของราคาถูกกว่า (คุณภาพเท่าซื้อศูนย์) เเต่ของดีอย่างนี้ ไม่ได้หากันได้ทั่วไทยเเน่นอน เรามาดูนิยามการซื้อเครื่องร้านส่งกันเถอะ
- ขายเฉพาะเครื่องมือ 1 เท่านั้น จะไม่มีมือ 2 ปนเด็ดขาด (ถ้าเป็นร้านส่งเเท้ 100%)
- มักมีตามเเหล่งมือถือเท่านั้น เช่น มาบุญครอง, ฟิวเจอร์รังสิต ส่วนตามต่างจังหวัด จะพบเฉพาะในเมือง เช่น เเม่วังสื่อสาร
- มักจะไม่ขายมือถือกลุ่ม PPC เช่น HTC, ASUS ยกเว้นบางรุ่นเช่น Omnia
- ราคาถูกกว่าศูนย์บริการ 5-25% เเล้วเเต่รุ่น-ผู้จําหน่าย
- สามารถเลือกเครื่องได้ เช่น 6220 Classic มีทั้งเครื่อง UD,MFA คุณจะเลือกเครื่องศูนย์ไหนก็ได้ (2 เจ้านี้ดีสุด)
- เครื่องที่นํามาขายส่วนใหญ่จะไม่ค้างสต๊อกเกิน 1-2 เดือน ยกเว้นรุ่นที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม
- การให้บริการลูกค้าขึ้นอยู่กับร้าน ส่วนใหญ่ร้านเล็กจะทําได้ดีกว่าร้านใหญ่
- ราคาปรับขึ้นลงตลอด ตามออร์เดอร์ของที่เข้ามาใหม่ (โดยเฉพาะร้านใหญ่ๆ ปรับทุกวัน)
- ส่วนใหญ่ไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย
- การเคลมเครื่อง บางร้านจะไม่รับเคลมทุกกรณี เเต่บางร้านรับเคลมตามเงื่อนไข เช่น MFA-UD เคลมได้ภายใน 7 วัน
- รับบัตรเครดิตเป็นบางร้านเท่านั้น
- เหมาะสําหรับผู้ที่มีความรู้ในการเช๊คเครื่องบ้าง หรือบุคคลทั่วไปก็ซื้อได้เช่นกัน
3. ร้านตู้
ตาม เเหล่งมือถือส่วนใหญ่เราจะพบร้านตู้มากที่สุดครับ เพราะใช้ต้นทุนในการเปิดไม่มาก เเต่ได้กําไรค่อนข้างดี เน้นรับ-ขายมือ 2, ฝากเครื่อง ส่วนการขายเครื่องมือ 1 นั้น เเม้ว่าจะไม่ได้ขายโดยตรง เเต่ก็สามารถจัดให้ได้ครับ มาดูกันว่า นิยามสําหรับการซื้อเครื่องร้านตู้นั้นคือ ..
- สามารถต่อรองราคาได้ ทั้งมือ 1-2
- ผู้ซื้ออาจจะโดนชาร์จราคาบ้าง เเต่บางครั้งก็สบายสําหรับผู้ที่ไม่ต้องการหาหลายๆ ร้าน
- เมื่อซื้อเครื่องเเล้ว จะมีบริการลงโปรเเกรมเสริมให้ฟรี
- ต้องใช้ความสามารถในการดูเครื่องมากพอสมควร ทั้งภายนอกเเละภายใน (กรณีที่คลางเเคลงใจ)
- การบริการหน้าร้านขึ้นอยู่กับร้านนั้นๆ
- การเคลมของค่อนข้างยากเล็กน้อย เนื่องจากไม่ใช่ผู้ขายโดยตรง
- ส่วนใหญ่ไม่รับบัตรเครดิต
บท ความนี้ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อที่ไหนเป็นพิเศษนะครับ ซึ่งผู้ซื้อต้องตัดสินใจให้เหมาะสมด้วยตนเอง เพื่อที่จะได้เครื่องที่ดีที่สุดที่เราต้องการ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น