ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ร้านมือถือมาบุญครองบ่นอุบ ขาช็อปผวาม็อบทุบยอดขาย

บ่นอุบ ขาช็อปผวาม็อบทุบยอดขาย

ขาช็อปไฮเทคผวาม็อบ "ร้านค้า" ในมาบุญครองบ่นอุบบรรยากาศการซื้อขายเงียบเหงา "คนไทย-นักท่องเที่ยว" วูบ ดับฝันดันยอดขายโค้งท้ายทัพ "สมาร์ทโฟน-แท็บเลต" รุ่นใหม่ยังต้านไม่อยู่ เข้มบริหารสต๊อก-อัดโปรโมชั่นเพิ่มยอดขายช่องทางออนไลน์หารายได้ทดแทน ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ลงพื้นที่สำรวจห้างมาบุญครอง แหล่งขายโทรศัพท์มือถือ พบว่าบรรยากาศการซื้อขายไม่คึกคักเท่าที่ควร แม้ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีสมาร์ทโฟนและแท็บเลตหลากหลายรุ่น ออกสู่ตลาด อาทิ ไอโฟน 5ไอโฟน 5C, ไอแพด แอร์, ไอแพดมินิ จอเรติน่า, ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 3 เป็นต้น
จากการสอบถามร้านค้าหลายแห่งต่างพูดตรงกัน ว่า ภาพรวมตลาดอยู่ในภาวะทรง ๆ มาตั้งแต่ต้นปีจากหลายปัจจัย ทั้งเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ล่าสุดยังมีเรื่องการเมืองเข้ามาทำให้ในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค.ซึ่งปกติถือเป็นหน้าขายที่ตลาดจะคึกคักมาก แต่ปีนี้เป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม ทั้งที่ต่างหวังยอดขายช่วงปลายปี
เจ้า ของร้านค้าแห่งหนึ่งกล่าวว่า เดิมมั่นใจว่าปลายปีนี้น่าจะขายดีขึ้น เพราะมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือและแท็บเลตรุ่นใหม่ ๆ ที่ตลาดกำลังนิยมและมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยรอคอยหลายรุ่น แต่ปรากฏว่าสถานการณ์การเมืองกลับรุนแรงขึ้นกว่าเดิม มีการชุมนุมบริเวณใกล้ห้างสรรพสินค้ามาบุญครองบ่อยมากทำให้จำนวนคนเข้ามา ซื้อสินค้าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
"ที่ผ่านมาช่วง พ.ย.-ธ.ค.เป็นช่วงที่ขายดีมาก เดิมตั้งเป้าว่าน่าจะมียอดขายเดือนละกว่า 5 ล้านบาท เหมือนปลายปีที่แล้วที่ซัมซุงออกโน้ต 2 มาแล้วได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี แต่ดูสถานการณ์แล้วคงไม่ได้ เพราะคนไม่กล้ามาเดิน นักท่องเที่ยวที่เป็นส่วนหนึ่งของลูกค้าในหลายประเทศก็มีการแจ้งเตือนให้ ระมัดระวังทำให้ลูกค้าต่างชาติไม่กล้าเข้ามา แต่ก็หวังว่าจะไม่แย่มากนัก ขอแค่เท่าเดิม คือเดือนละ 3 ล้านบาท พอประคองตัวได้ก็พอ เพราะร้านค้ามือถือในมาบุญครองส่วนใหญ่ขายส่งผ่านเว็บไซต์เพื่อหาลูกค้าใน ต่างจังหวัด"
เจ้าของร้านคนเดิมกล่าวว่า ช่วงนี้จึงเร่งเพิ่มยอดขายในต่างจังหวัด จากเดิมเคยมีสัดส่วน 30% เพิ่มเป็น 40% เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปด้วยการเพิ่มโปรโมชั่น
สำหรับการสั่ง ซื้อผ่านเว็บไซต์ รวมถึงพยายามควบคุมสต๊อกสินค้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง ถ้าสต๊อกไว้เยอะแต่ขายไม่ได้มีโอกาสขาดทุนมาก ขณะที่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือมีการนำสินค้ารุ่นใหม่ออกมาวางตลาดต่อเนื่อง จึงอาจต้องลดกระหน่ำเพื่อระบายสต๊อกให้ขาดทุนน้อยที่สุด
เจ้าของร้าน ค้าอีกแห่งกล่าวว่า ผู้ซื้อปัจจุบันหาข้อมูลมาก่อนแล้ว ว่าจะซื้อร้านไหน โดยส่วนใหญ่ร้านที่มีเว็บไซต์และมีการพูดถึงบ่อย ๆ ในโซเชียลมีเดียหรือตามเว็บบอร์ดมักขายดีกว่าร้านที่มีเฉพาะหน้าร้านที่มา บุญครองเท่านั้น
"มือถือและแท็บเลตถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของผู้บริโภคไปแล้ว จึงเป็นอะไรที่ขายได้เรื่อย ๆ โดยราคาที่มาบุญครองส่วนใหญ่จะถูกกว่าซื้อเครื่องศูนย์ 2,000-3,000 บาท จึงดึงดูดใจให้ผู้บริโภคมาซื้อได้ แต่สถานการณ์การเมืองทำให้คนมาช็อปปิ้งน้อยลง ถ้ามองสถานการณ์ยืดเยื้อไปถึงปีหน้าก็คงไม่ดีแน่ ถ้ายุติลงเร็วยอดขายก็น่าจะกลับมาดีขึ้น รวมถึงการมีสินค้าที่มีลูกเล่นใหม่ ๆ ออกมาก็ช่วยกระตุ้นตลาดได้"
สำหรับแบรนด์ที่ขายดีคือซัมซุง เนื่องจากมีความหลากหลายให้เลือก ทั้งระดับราคาและดีไซน์ เช่น กาแล็คซี่ โน้ต 3 ราคา 18,900 บาทขึ้นไป, กาแล็คซี่ โน้ต 2 แม้ออกมานานแล้วแต่ยังได้รับความนิยมที่ราคา 14,500 บาท และกาแล็คซี่ s4 ที่ราคา 10,800 บาท เป็นต้น ถัดมาเป็นไอโฟน
รุ่นที่ขายดี ได้แก่ ไอโฟน 5S สีทอง ราคาเริ่มต้นในรุ่น 16 GB ที่ 23,700 บาท สีเงินและเทาราคาใกล้กัน 23,500 บาท อันดับ 3 ที่ขายดีคือโซนี่ โดยเฉพาะรุ่นใหม่ Z1 ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น ราคา 17,400 บาท
ส่วน แท็บเลต "ไอแพด" ยังครองแชมป์ จากที่ราคาไอแพดธรรมดาและมินิจะมีราคาห่างกัน 6,000-8,000 บาท ทำให้ไอแพดมินิขายดีกว่า ปัจจุบันห่างกันเพียง 2,000 บาท และบางรุ่นไอแพดมินิแพงกว่า เช่น ไอแพดมินิ 2 ไวไฟ 4G 16 GB ราคา 18,200 บาท ส่วนไอแพด แอร์ 16 GB ราคา 16,200 บาท ทำให้คนเลือกซื้อไอแพดมินิมากกว่า
อีกแบรนด์ที่กำลังมาแรงคือเลอโนโว เนื่องจากราคาไม่แพง เช่น รุ่น K900 ราคา 12,900 บาท P780 ราคา 9,500 บาท รวมถึงเฮาส์แบรนด์ไทย "ไอ-โมบาย" ก็ขายดีเช่นกัน ได้แก่ รุ่นไอคิวเอ็กซ์ ราคา 8,000 บาท ไอคิว 9.1 ราคา 8,500 บาท เป็นต้น
"โนเกียแทบขายไม่ได้เลย เพราะใช้งานยาก แอปพลิเคชั่นน้อย หลายร้านในมาบุญครองนำมาลดราคาเคลียร์สต๊อก"
นอก จากปัจจัยทางการเมืองแล้ว พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทำให้บางแบรนด์ได้รับความนิยมลดลง อาทิ ความนิยมในมือถือหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ที่ใช้ง่าย ทำให้แบรนด์ HTC ที่เคยได้รับความนิยมมียอดขายตกลงเพราะไม่ค่อยมีรุ่นจอใหญ่ เช่นเดียวกับแท็บเลตที่ยอดขายไม่ดีเหมือนเดิม เพราะลูกค้าหันไปซื้อสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ขึ้น เนื่องจากใช้งานง่าย พกสะดวกกว่า รวมถึงไอโฟนที่ไม่ได้ขายดีเหมือนเดิมเพราะรุ่นใหม่ไม่ได้ต่างกับรุ่นเก่ามาก นัก
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น