เมื่อถึงคราวที่มือถือของคุณต้องเข้าใกล้น้ำ
มือถือ คืออะไร? ใครตอบไม่ได้อายเพื่อนแย่ แต่ถ้าพูดกันในทางทฤษฎีแล้ว มือถือ ก็คืออุปกรณ์อิเลคทรอนิคชนิดหนึ่ง ซึ่งจะทำงานได้ก็ต่อเมื่อมีกระแสไฟฟ้าเข้าไปหล่อเลี้ยงวงจรหรืออุปกรณ์ภายใน แล้ว น้ำ มันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ ที่จริงแล้ว น้ำ ก็ไม่ได้ไปทำได้ มือถือ ทำงานได้หรอกนะ แต่กลับตรงกันข้าม มันจะทำให้ มือถือ ของคุณเดี้ยงต่างหาก แม้ว่าสมัยนี้จะมี มือถือ ที่กัน น้ำ กันฝุ่นอยู่หลายรุ่นก็ตามที (แถมยังกันกระแทกอีกต่างหาก) แต่จะมีใครซักกี่คนที่มี มือถือ แบบนั้นใช้กันล่ะ?
และใครจะรู้บ้าง ว่าบางคนบ้าเห่อ มือถือ ของตัวเองสุดๆ โดยเฉพาะ มือถือ รุ่นสุดหรูที่เพิ่งถอยป้ายแดงมาใหม่ ต้องอยู่ติดตัวตลอด ห่างไม่ได้ มันคิดถึงเป็นห่วง เดี่ยวใครโทรมาแล้วพลาดการรับสาย และอดฟังเสียง Polyphonic Ringtone อันแสนไพเราะที่สุดในโลก (เข้าข้าง มือถือ ตัวเอง) ยิ่งตอนเข้าห้องน้ำ ยิ่งขาดมือถือไม่ได้ เพราะเพื่อนมันดันรู้ดี ชอบโทรมาตอนเข้าห้องน้ำพอดีทุกทีเลย (ว่างั้นมั้ย) ก็เลยเอา มือถือ ไปเข้าห้องน้ำด้วยกันซะเลยหมดเรื่อง จะได้ไม่พลาดการติดต่อ
อีกอย่าง ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม คุณก็มักจะนัดไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ตามต่างจังหวัด สถานที่ๆ เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะ ทะเล ภูเขา น้ำตก ล่องแก่ง ฯลฯ ซึ่งมักจะมี น้ำ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา มาดูกันว่า คุณจะมีวิธีป้องกันอย่างไร ที่จะไม่ให้ มือถือ ของคุณต้องโดน น้ำ
ง่ายที่สุด ของใช้ใกล้ตัว ถุงใส่กับข้าว
อันนี้คงรู้จักกันดี เจอกันอยู่เป็นประจำ แต่อย่าทำตัวเหนียวมากนัก ไปซื้อถุงใหม่มาเลยดีกว่า เป็นแพคเล็กๆ ก็ได้ อย่าถึงกับต้องไปเอาถุงใส่กับข้าวมาล้างน้ำแล้ว Recycle ใหม่เลย มันไม่คู่ควรกับ มือถือ แพงๆ ของคุณหรอกนะ เลือกซื้อที่ขนาดพอดีๆ กับ มือถือ ของคุณมากที่สุด แล้วสุดท้ายก็อย่าลืมรัดหนังยางไว้ให้แน่นด้วยล่ะ ไม่งั้นน้ำก็เข้าได้อยู่ดี พอเสร็จแล้ว ทีนี้ก็พร้อมเต็มที่ ลุยไหนลุยกัน!
ไม่มีถุงใส่กับข้าว แต่นั่นอะไร? ปลาซาบะ!
สงสัยมั้ย ปลาซาบะ มันมาเกี่ยวอะไรด้วย? ก็ลองนึกดู ปลาซาบะ ที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตเค้าห่อด้วยอะไร เห็นพลาสติกใสๆ ที่ห่อติดกับถาดโฟมมั้ย? นั่นล่ะ พลาสติกแบบนั้นก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นเกราะป้องกัน มือถือ ของคุณจาก น้ำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน เพราะว่าคุณสมบัติของความเหนียว ความบาง ความยืดหยุ่น ความนุ่ม การทนความร้อนของมันนี่เอง มันสามารถกัน น้ำ ได้อย่างสบายๆ แถมยังป้องกันรอยขีดข่วน และฝุ่นละออง ให้กับ มือถือ ของคุณได้อีกต่างหาก แต่ก็อีกเช่นกัน อย่านำของเก่ามา Recycle เลยนะ ทิ้งๆ ไปเหอะ
อาม่าเปิดร้านขายยา สบายแฮ...
หนทางแบบสุดท้ายนี้ ดูจะเป็นหนทางที่ดูดีกว่าสองวิธีแรก หนทางแบบสุดท้ายที่ว่าก็คือการใช้ "ถุงซิปล็อค" นั่นเอง ถ้ายังนึกไม่ออก ก็ให้ลองนึกถึงถุงที่หมอใส่ยาเป็นเม็ดๆ มาให้ ที่ด้านบนสามารถรูดปิดกันอากาศเข้าออกได้ นั่นล่ะ "ถุงซิปล็อค" แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ถุงยาอย่างเดียว เดี่ยวนี้สินค้าหลายอย่างได้นำ "ถุงซิปล็อค" มาใช้กันอย่างแพร่หลายด้วยเช่นกัน และถ้าจะให้ดีที่สุด ขอแนะนำ "ถุงซิปล็อค" ที่เค้าผลิตขึ้นมาสำหรับ โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะจะดีที่สุด เพราะมันได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้กับ มือถือ มากที่สุดนั่นเอง จึงมั่นใจในความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน
มือถือตกน้ำแล้ว ช่วยหนูด้วยค่ะ!
ถ้าหากว่า มือถือ ของคุณต้องโชคร้าย โดนน้ำเข้าให้แล้ว ไม่ว่าจะตกน้ำจมไปก้นบ่อเลย (กว่าจะงมเจอ น้ำก็เข้าไปเต็มเครื่องแล้ว) หรือว่าโดนน้ำแค่เฉียดๆ ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกจนเกินไป สถานการณ์อาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด สิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรกคือ รีบถอด แบตเตอรี่ และ ซิมการ์ด ออกจากตัวเครื่องโดยทันที เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร จากนั้นก็จับตัว มือถือ ของคุณให้แน่น แล้วสะบัดอย่างแรง เพื่อที่จะไล่น้ำออกจากเครื่องให้ได้มากที่สุด เมื่อสะบัดจนเมื่อยแขนแล้ว ก็หาผ้าขนหนูแบบไม่มีขนตกค้าง มาค่อยๆ ซับน้ำออกอีกทีหนึ่ง
หลังจากซับน้ำด้วยผ้าขนหนูจนแน่ใจว่าแห้งดีแล้ว ก็ให้นำชิ้นส่วนของ มือถือ ไปตากแดดให้แห้ง อย่าใจร้อน เอาไดร์เป่าผมไปเป่าโดยตรง เพราะความร้อนจากไดร์เป่าผมที่มากเกินไป อาจจะทำให้อุปกรณ์ภายในของ มือถือ เสียหายได้ เมื่อตากแดดจนแห้งสนิทดีแล้ว ทีนี้ก็นำชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบกลับให้เป็นเหมือนเดิม แล้วเปิดเครื่องทดสอบดูว่าใช้งานได้อยู่หรือไม่ ถ้าดวงของคุณยังแข็ง มือถือ ของคุณก็อาจจะใช้งานได้เหมือนเดิม แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็แนะนำให้ส่งเข้าศูนย์ซ่อมโดยด่วน!
สุดท้ายนี้ อยากฝากว่า ถ้าจะไปทำกิจกรรมอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกับ น้ำ ก็พยายามปล่อยวางมือถือของคุณให้ห่างตัวบ้าง คงไม่มีอะไรเสียหาย หากคุณต้องขาดมือถือคู่ใจไปซักชั่วโมงสองชั่วโมง จริงมั้ยครับ
ด้วยความปรารถนาดี Oska (Thaimobilecenter Editor)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น