ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ไม่มีหลักฐาน อย่าลงเชื่อ ส่อแววปั่นป่วน ยุยงให้แตกแยก ขัดแย้ง

ข่าวลือโซเชียลมีเดีย !! ไม่มีหลักฐาน อย่าลงเชื่อ ส่อแววปั่นป่วน ยุยงให้แตกแยก ขัดแย้ง
          จากเหตุการณ์ “รัฐประหาร” ครั้งที่ 13 ในประเทศไทย เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 สื่ออย่างวิทยุ โทรทัศน์หรือแม้กระทั่งการรายงานข่าวสดผ่าน Youtube ได้ถูกจำกัดสิทธิในการเผยแพร่รายการปกติอย่างสิ้นเชิง เหลือเพียงสื่ออย่างโซเชียลมีเดียที่ยังเป็นแหล่งรับข่าวสารได้
          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคโซเชียลมีเดียรุ่งเรื่องการรับข่าวสารสามารถทำได้โดยง่ายและรวดเร็ว ผ่านทาง และ Twitter สองโซเชียลมีเดียยอดนิยมสำหรับคนไทย และการรับข่าวสารทาง LINE ซึ่งจากความง่ายและรวดเร็วอาจมองเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้ประชาชนรู้ทัน สถานการณ์ต่างๆแบบนาทีต่อนาที แต่ในทางกลับกันมันกลายเป็นช่องทางของการฉกฉวยโอกาสของ “ผู้ไม่หวังดี” ที่มักมีเจตนาให้ร้าย ยุยง ปั่นป่วน ให้เกิดความแตกแยก ความวิตกกังวล ให้กับประชาชนคนไทยด้วยการปล่อย ”ข่าวลือ” จากการโพสต์ทาง Facebook, Twitter และ LINE ซึ่งส่วนมากมักจะแฝงด้วยประโยคที่ว่า “จากวงใน”, “รีบส่งต่อ เรื่องด่วน” ฯลฯ และ ด้วยความรวดเร็วในการส่งต่อหรือแชร์ด้วยโซเชียลมีเดียหรือแอพแชทก่อให้เกิด ความตื่นตระหนก ไม่ใช่เพียงแค่ตัวบุคคล แต่ยังอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจ ความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองไทยได้
          ล่าสุดในโซเชียลมีเดียกลับมีผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวลือการตัดอินเทอร์เน็ต ทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อส่งต่อหรือแชร์กันเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งกระทรวงไอซีทีและ คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ต้องรีบออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว พร้อมชี้แจงว่า ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลข่าวสารทางสื่อออนไลน์ เช่น แจ้งว่ามีการปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย ไลน์ ยูทูป ซึ่งบิดเบือนความจริง โปรดรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
          และในโอกาสนี้จึงขอแนะนำให้ชาวโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ตลอจนผู้ใช้งานทุกคนควรใช้วิจารณญาณทั้งด้านหลักฐานและการติดตามการแถลงข่าว มากกว่าจะตัดสินกันที่การส่งต่อหรือแชร์ข่าวเรื่อยมาทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในสถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี้ครับ !!!!

ภาพจาก Twitter : @Thairath_News
สนับสนุนเนื้อหา: Arip

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น