ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

คลื่นสัญญานมือถือจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสมองหรือไม่

จะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสมองหรือไม่
ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือส่งผลให้ปัจจุบันสามารถทำหน้าที่แบบคอมพิวเตอร์แบบพกพา ดังนั้นการขยายการติดตั้งเสาส่งสัญญานให้ครอบคุลมทั่วประเทศ เพื่อรองรับการใช้งานอย่างทั่วถึง จึงกลายเป็นความวิตกกังวลของประชาชานว่าเสาส่งสัญญานโทรศัพท์มือถือจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่
ทุกวันนี้รอบๆตัวเราก็มีการแผ่คลื่นต่างๆมากมาก แต่ยังไม่เคยมีการวิจัยใดระบุว่าคลื่นเหล่านี้เป็นอันตรายต่อมนุษย์แต่ในทางกลับกันพบว่าคลื่นสัญญานเหล่านี้มีประโยชน์ในการสื่อสาร แม้กระทั่งในกรณีที่เกิดภัยพิบัติต่างๆซึ่งสามารถเร่งระดมช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที แต่หากไม่มีคลื่นสัญญานเหล่านี้อาจเกิดความเสียหายมากมายเช่นกันซึ่งได้มีผู้ที่เกี่ยวข้องได้ออกมาร่วมแสดงความคิดเห็น ดังนี้
ทางศาสตราจารย์ ดร.ถวิล พึ่งมาผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมโทรคมนาคมได้กล่าวว่าเสาส่งสัญญานของมือถือมีแค่ 100 วัตต์ แต่100 วัตต์ของมือถือมีการควบคุม นั่นก็แปลว่าสัญญานที่มาถึงตัวเราน้อยมาก
ส่วนผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิรศิลป์ จยาวรรณผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาด้านการสื่อสาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้กล่าวว่าสัญญานคลื่นโทรศัพท์มือถือจะส่งผลกระทบต่อสมองหรือระบบประสาทนั้นขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากหน่วยงานใด
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์เลขาธิการ กสทช กสทช กล่าวว่าการติดตั้งและการแผ่คลื่นความถี่ของผู้ประกอบการอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช.ซึ่งถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ดังนั้นคลื่นที่ส่งออกจากเสาส่งสัญญานมือถือ ไม่กระทบต่อสุขภาพแน่นอนอีกทั้งยังกล่างอีกว่า ก่อนที่จะมีการตั้ง ผู้ประกอบการจะต้องมาขออนุญาตกับทาง กสทช. ก่อนโดยทาง กสทช. เองก็จะต้องมีการประเมินความแรงของสนามแม่เหล็กและทำความเข้าใจกับประชาชนก่อน แต่ถ้าหลังจากติดตั้งไปแล้ว ประชาชนยังมีความกังวลใจอีก หลายคนร้องเรียนมาที่ กสทช.อีก ทางกสทช.อาจจะไปตรวจเองหรือหน่วยงานกลางไปตรวจสอบเรื่องนี้อีกทีนึง ถ้าเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของเราก็ให้ประชาชนสบายใจได้ว่ามันไม่ได้เป็นไปตามนั้น
ด้านคุณนุสรา ชูกูล ผู้อำนวยการกลุ่มงานมาตรฐานและเทคโนโลยีโทรคมนาคม กสทช. กล่าวว่าสาระสำคัญอยู่ที่สายอากาศ  เวลาที่ต่อจากเครื่องสถานีฐาน มองแค่จุดนั้นว่าถ้าหากคลื่นมันทำงานก็แสดงว่ามันมีการแพร่กระจายของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ออกมา แต่จุดนั้นคนทั่วไปไม่ได้เข้าไปหรอกค่ะ จะเป็นเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานภาคสนามมากกว่าที่เข้าไป
ทางกสทช. ยังมีสำนักงานมาตรฐานและเทคโนโลยีโทรคมนาคมในการกำกับดูแลความปลอดภัยต่อสุขภาพประชาชน จากการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยมีหลักเกณฑ์มาตรฐานกำกับดูแลผู้ประกอบการทั้งก่อนและหลังการจัดตั้งสถานีฐานซึ่งจะมีการตรวจวัดระดับความถี่ของการแผ่คลื่นสัญญานโทรศัพท์มือถือ
ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช.เองและเป็นไปตามข้อกำหนดของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ สามารถสร้างความมั่นใจได้ว่าเสาส่งสัญญานมือถือไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะคนในพื้นที่ที่อยู่ใกล้สถานีฐานนั้นจะได้คลายความวิตกกังวลและสามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้อย่างปลอดภัย
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น