สรุป ราคา iPhone 6 / iPhone 6 Plus เครื่องศูนย์
หลังจากที่ทางฝั่งโอเปอร์เรเตอร์ของไทย อย่าง TrueMove H, dtac และ AIS ได้เปิดพรีออเดอร์ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus อย่างเป็นทางการแล้ว ล่าสุด Apple Online Store ประเทศไทย ได้เผยราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกมาแล้วครับ โดยจะเปิดให้สั่งซื้อในวันที่ 31 ตุลาคม 2557 นี้
พร้อมกับการวางจำหน่ายเครื่องศูนย์ของทางโอเปอร์เรเตอร์ในไทยนั่นเอง โดยสรุปราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เทียบกับราคาจากโอเปอร์เรเตอร์ เป็นดังนี้ครับ
ราคา iPhone 6 / iPhone 6 Plus เครื่องศูนย์ เครื่องหิ้ว อัพเดททุกสัปดาห์
ราคา iPhone 6 / iPhone 6 Plus จาก TrueMove H
ทาง TrueMove H ได้เปิดพรีออเดอร์ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus อย่างเป็นทางการแล้วครับ พร้อมประกาศราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกมาด้วยเช่นกัน เริ่มต้นที่ 24,840 บาท สำหรับรุ่นความจุ 16 GB (เครื่องพร้อมแพ็กเกจ) โดยสรุปราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จาก TrueMove H เป็นดังนี้ครับ
ราคา iPhone 6 จาก TrueMove H
• ความจุ 16 GB : เครื่องเปล่า 25,525 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 24,840 บาท
• ความจุ 64 GB : เครื่องเปล่า 29,480 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 28,725 บาท
• ความจุ 128 GB : เครื่องเปล่า 33,435 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 32,610 บาท
• ความจุ 64 GB : เครื่องเปล่า 29,480 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 28,725 บาท
• ความจุ 128 GB : เครื่องเปล่า 33,435 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 32,610 บาท
ราคา iPhone 6 Plus จาก TrueMove H
• ความจุ 16 GB : เครื่องเปล่า 29,480 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 28,725 บาท
• ความจุ 64 GB : เครื่องเปล่า 33,435 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 32,610 บาท
• ความจุ 128 GB : เครื่องเปล่า 37,390 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 36,495 บาท
• ความจุ 64 GB : เครื่องเปล่า 33,435 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 32,610 บาท
• ความจุ 128 GB : เครื่องเปล่า 37,390 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 36,495 บาท
ราคา iPhone 6 / iPhone 6 Plus จาก dtac
สำหรับราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จากค่ายสีฟ้าอย่าง dtac เรียกได้ว่า เคาะราคาออกมาถูกกว่า TrueMove H เล็กน้อย อีกทั้ง ยังมีแพ็กเกจให้เลือกใช้หลายแบบด้วยเช่นกัน สรุปได้ดังนี้
ราคา iPhone 6 จาก dtac
• ความจุ 16 GB : เครื่องเปล่า 25,500 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 24,600 บาท
• ความจุ 64 GB : เครื่องเปล่า 29,450 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 28,550 บาท
• ความจุ 128 GB : เครื่องเปล่า 33,400 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 32,400 บาท
• ความจุ 64 GB : เครื่องเปล่า 29,450 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 28,550 บาท
• ความจุ 128 GB : เครื่องเปล่า 33,400 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 32,400 บาท
ราคา iPhone 6 Plus จาก dtac
• ความจุ 16 GB : เครื่องเปล่า 29,450 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 28,550 บาท
• ความจุ 64 GB : เครื่องเปล่า 33,400 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 32,400 บาท
• ความจุ 128 GB : เครื่องเปล่า 37,300 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 36,300 บาท
• ความจุ 64 GB : เครื่องเปล่า 33,400 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 32,400 บาท
• ความจุ 128 GB : เครื่องเปล่า 37,300 บาท / เครื่องพร้อมแพ็กเกจ 36,300 บาท
สรุปสเปค และฟีเจอร์เด่น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 6 (ไอโฟน 6) ซึ่งในปีนี้ เปิดตัวทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว โดยในเรื่องของดีไซน์นั้น ไม่ต่างจากภาพหลุดแม้แต่น้อยครับ ไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องบางลง, ปุ่มปรับระดับเสียงดีไซน์ใหม่, ปุ่ม Power ย้ายมาอยู่ด้านข้าง ส่วนกล้องด้านหลัง มีลักษณะนูนเล็กน้อย นอกจากนี้ ในงาน ยังเปิดตัว Apple Watch หรือ iWatch ที่เรารู้จักกันดีอีกด้วย เรียกได้ว่า 2 ชั่วโมงของงานเปิดตัวในวันนี้ คุ้มค่าและเต็มอิ่มกันอย่างแน่นอน
โดยในปีนี้ iPhone 6 พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 5S ถึง 8 หัวข้อใหญ่ๆ ด้วยกัน หลักๆ ก็เป็นเรื่องของ ดีไซน์, ชิป Apple A8, กล้องด้านหลัง, Wi-Fi, รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD, รัน iOS 8 และรองรับ NFC มาดูกันที่แต่ละหัวข้อครับว่า iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus จะน่าสนใจกันอย่างไรบ้าง
ไม่ใช่แค่หน้าจอใหญ่ แต่ยังบางกว่าเดิม
iPhone 6 มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว แบบ Retina HD Display ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (348 ppi) แม้ว่าหน้าจอจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เนื่องจากตัวเครื่องบางลงนั่นเอง โดย iPhone 6 บางเพียง 6.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วน iPhone 6 Plus มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ Retina HD Display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล หรือ Full HD บาง 7.1 มิลลิเมตรครับ
มาดูกันที่ดีไซน์รอบๆ ตัวเครื่องกันบ้าง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ผลิตจาก Anodized Aluminum, Stainless Steel และกระจก ที่ช่วยทำให้ตัวเครื่องหรูหรา แข็งแรง ทนทาน ซึ่งฝาด้านหลัง ผลิตให้เป็นชิ้นเดียวกัน (Unibody) ส่วนกล้องด้านหลัง มีลักษณะนูนเล็กน้อย และขอบตัวเครื่อง โค้งมนกว่าเดิม
แรงขึ้นด้วยชิป Apple A8 แบบ 64-bit
iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกับชิป Apple A8 แบบ 64-bit ซึ่งประมวลผลได้เร็วขึ้น (CPU) 25% ส่วนหน่วยประมวลผลภาพ (GPU) แรงขึ้น 50% นอกจากนี้ ยังมีชิป Apple M8 coprocessor คำนวณด้านการเคลื่อนไหวผ่านทางเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้ง Accelerometer, Compass, Gyroscope และ Barometer (วัดความกดอากาศ)
กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 MP เท่าเดิม แต่ปรับปรุงเซ็นเซอร์ใหม่
คาดหวังให้ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลใช่หรือไม่? งานนี้ต้องบอกเลยว่า ผิดหวังไปตามๆ กันครับ เพราะ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เท่าiPhone 5S แต่ได้ปรับปรุงเซ้นเซอร์ใหม่ ให้ถ่ายรูปได้สวยงามขึ้นกว่าเดิม ส่วนรูรับแสง กว้างสูงสุดที่ F/2.2
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ของกล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล บน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้แก่
• Focus Pixels : ทำงานโดยอาศัยโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพชนิดใหม่ที่ออกแบบโดย Apple เซ็นเซอร์ที่มีข้อมูลภาพที่ถ่ายละเอียดขึ้นจะส่งผลให้ระบบออโต้โฟกัสทำงาน ได้ดีและเร็วขึ้น
• Face Detection : ระบบตรวจจับใบหน้า สามารถจดจำใบหน้าได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น แม้แต่ใบหน้าที่อยู่ไกลออกไปหรือในกลุ่มคนเยอะๆ พร้อมทั้งยังปรับปรุงระบบตรวจจับการกะพริบตาและรอยยิ้ม รวมถึงการเลือกใบหน้าในโหมดถ่ายภาพรัวต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถจับภาพที่ดีที่สุดได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย
• Exposure Control : การควบคุมค่าแสง ปรับภาพถ่ายหรือวิดีโอให้สว่างขึ้นหรือมืดลงในหน้าต่างตัวอย่างภาพได้ถึง 4 ระดับ f-stop ด้วยการเลื่อนนิ้วง่ายๆ
• Auto Stabilization : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ หมดปัญหาภาพเบลอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวหรือมือสั่น เพราะระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติจะถ่ายภาพที่ มีการเปิดรับแสงในระยะเวลาสั้นๆ จำนวน 4 ภาพติดกัน จากนั้นจะดึงส่วนที่ดีที่สุดของแต่ละภาพมารวมไว้ด้วยกัน เพื่อให้ได้ภาพที่มี noise, วัตถุเคลื่อนที่ หรือการสั่นที่เกิดจากการมือไหวน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
• Optical Image Stabilization : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (เฉพาะ iPhone 6 Plus) จะ ทำงานร่วมกับชิป Apple A8, Gyroscope และชิป M8 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว เพื่อตรวจวัดข้อมูลการเคลื่อนไหวและจะขยับชิ้นเลนส์อย่างแม่นยำเพื่อชดเชย อาการมือสั่นในสภาพแสงน้อย
• Photos App : แอปรูปภาพ เก็บช่วงเวลาที่น่าประทับใจ แล้วปรับแต่งในไม่กี่วินาทีด้วยเครื่องมือจัดองค์ประกอบภาพอัจฉริยะ ปุ่มปรับค่าต่างๆ และฟิลเตอร์ภาพถ่าย ในแอพรูปภาพ หรือถ้าแค่อยากถ่ายภาพง่ายๆ โดยไม่ต้องแต่งอะไร ก็สามารถทำได้โดยตรงจากหน้าจอล็อคโดยใช้รหัสผ่านหรือ Touch ID
• Panorama : สามารถถ่ายภาพแบบพาโนรามาด้วยความละเอียดสูงสุดถึง 43 เมกะพิกเซล
รองรับการถ่ายวีดีโอ ความละเอียดระดับ 1080p แล้ว
นอกจากกล้อง iSight จะปรับปรุงฟีเจอร์ด้านการใช้งานแล้ว ในส่วนของการถ่ายภาพวีดีโอ ยังรองรับที่ความละเอียดระดับ 1080p อีกด้วย ส่วนการถ่ายภาพแบบ Slo-Mo ยังเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ที่ 240 fps (จากเดิม 120 fps)
กล้อง FaceTime รับแสงได้มากขึ้นถึง 81%
นอกจากจะปรับปรุงกล้องด้านหลังแบบ iSight แล้ว ในส่วนของกล้อง FaceTime ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน โดยมาพร้อมกับความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/2.2 ที่ช่วยทำให้รับแสงได้มากขึ้นถึง 81% อีกทั้งยังตรวจจับใบหน้าได้แม่นยำกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมี โหมดถ่ายภาพรัวต่อเนื่องแบบใหม่ (Burst Mode) ที่จับภาพได้ถึง 10 ภาพต่อวินาที
Wi-Fi เร็วขึ้น 3 เท่า
iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกับระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi มาตรฐานแบบ 802.11ac ทำให้ได้ Wi-Fi ที่รวดเร็วกว่าแบบ 802.11n ถึง 3 เท่า ส่วนเครือข่าย LTE อัตราการรับส่งข้อมูล สูงสุดถึง 150 Mbps อีกทั้งรองรับ LTE ได้ถึง 20 ย่านความถี่ และ LTE-A รวมถึงใช้งาน VoLTE ได้ในตัวแล้ว
iPhone 6 และ iPhone 6 Plus รองรับ NFC แล้ว กับ Apple Pay
สำหรับเทคโนโลยี NFC นั้น แอปเปิล ได้นำมาพัฒนาในชื่อของ Apple Pay ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินแบบใหม่ ที่ใช้งานง่ายขึ้น และสะดวกขึ้น ง่ายๆ ด้วยการนำ iPhone 6 ไปจ่อกับเครื่องอ่าน แล้วแตะที่ Touch ID ไว้ซักครู่ เพียงแค่นี้ ก็
สามารถชำระเงินได้แล้ว รวดเร็วมากทีเดียว
ส่วนความครอบคลุมของ Apple Pay ตอนนี้รองรับเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น ซึ่งมีพันธมิตรเข้าร่วมหลายรายแล้ว ไม่ว่าจะเป็น MasterCard, VISA, American Express รวมไปถึงร้านอาหารอย่าง Subway กับ McDonalds อีกด้วย ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานจริง ต้นเดือนตุลาคมนี้
iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ไม่มีรุ่นความจุ 32 GB แล้ว
ข่าวร้ายสำหรับท่านที่เล็งรุ่นความจุ 32 GB ครับ เพราะบน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ไม่มีรุ่นความจุ 32 GB อีกต่อไป โดยมีให้เลือก 3 ขนาดความจุด้วยกัน ได้แก่ 16 GB, 64 GB และ 128 GB แต่ข่าวดีก็คือ รุ่นความจุ 64 GB ราคาเท่ากับ 32 GB นั่นหมายความว่า จ่ายถูกลง แต่ได้หน่วยความจำภายในเพิ่มขึ้น
iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จำหน่ายในไทย 31 ตุลาคมนี้
ล่าสุด แอปเปิล ได้ประกาศวันวางจำหน่าย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในไทยแล้ว นั่นก็คือ วันที่ 31 ตุลาคม 2557 นี้ โดยโอเปอร์เรเตอร์ 3 ค่ายในไทย ได้แก่ dtac, AIS และ TrueMove H เตรียมเปิดพรีออเดอร์ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไปครับ แต่ยังไม่มีการประกาศราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกมาครับว่า เริ่มต้นที่เท่าใด (อัพเดท : 23 ต.ค.2557)
เทียบสเปค iPhone 6 Plus vs iPhone 6 vs Galaxy Note 4
แม้ว่า iPhone 6 Plus จะเป็นไอโฟนหน้าจอใหญ่ที่สุดในบรรดา มือถือไอโฟน แต่เมื่อเทียบกับ มือถือเรือธง แบรนด์อื่นๆ ยังถือว่า เล็กกว่าอยู่ดี โดยเฉพาะ คู่ปรับตัวเอกอย่าง Samsung Galaxy Note 4 ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.7 นิ้ว แต่บางครั้ง มือถือที่หน้าจอใหญ่กว่า ก็ใช่จะดีที่สุดเสมอไป เพราะ สุดท้ายแล้ว ผู้ที่จะตัดสินได้ว่า รุ่นไหนดี? คือผู้ใช้นั่นเองครับ บางท่านอาจจะชอบมือถือหน้าจอใหญ่ เพราะมีพื้นที่การใช้งานที่มาก สัมผัสได้สะดวก มองเห็นได้ชัดเจน แต่บางท่าน ไม่ชอบมือถือหน้าจอใหญ่ เนื่องจากพกพาลำบาก อันนี้ก็แล้วแต่ความชื่นชอบส่วนตัวครับ
มาดูกันว่า ถ้าเรานำ iPhone 6 Plus และ iPhone 6 มาเทียบสเปคกับ Samsung Galaxy Note จะเห็นความแตกต่างอะไรกันบ้าง มาดูกัน
iPhone 6 vs Galaxy S5 vs HTC One M8 รุ่นไหนเร็วกว่า มาดูกัน!
การทดสอบในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการทดสอบ งอเครื่อง หรือ Bend Test นะครับ ล่าสุด ทีมงาน TechBuff ได้นำ iPhone 6 มาทดสอบความเร็วในการเปิดแอปพลิเคชัน กับ มือถือแอนดรอยด์รุ่นเรือธง 2 รุ่นยอดนิยม ได้แก่ Samsung Galaxy S5และ HTC One M8 เพื่อลองตรวจสอบว่า รุ่นไหน จะประมวลผลได้เร็วกว่ากัน
โดยทั้ง Samsung Galaxy S5 และ HTC One M8 มาพร้อมกับ RAM 2 GB ในขณะที่ iPhone 6 มาพร้อมกับ RAM 1 GB เท่านั้น แถมใช้คนละระบบปฏิบัติการกันอีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่า ทั้ง 3 รุ่น รุ่นไหนประมวลผลได้เร็วกว่า
สนับสนุนเนื้อหา: http://hitech.sanook.com/1392373
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น