เสียงตอบรับจากการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่จาก Apple มีทั้งชอบและไม่ชอบ และเป็นธรรมดาที่จะถูกยกมาเปรียบเทียบกับมือถือค่ายอื่นๆ ในท้องตลาด คำถามว่า ควรซื้อ iPhone 6 มั้ย ก็ตอบได้ทั้งควรซื้อและไม่ควรซื้อ แล้ว iPhone 6 จะประสบความสำเร็จขายดีหรือไม่นั้น ก็ต้องบอกว่า คนที่ยังชื่นชอบในมือถือ Apple ยังไม่คิดเปลี่ยนไปใช้ Android นั้น มีอยู่ไม่น้อย และพร้อมจะเปลี่ยนใช้รุ่นใหม่ หากรุ่นเก่าเริ่มล้าสมัยไปแล้ว ขนาดที่เคยมีการทำสำรวจอันหนึ่งว่า ทำไมคนถึงซื้อ Android และทำไมคนถึงซื้อ iPhone 6 เหตุผลสำหรับการซื้อมือถือ Android มีหลากหลายข้อ แต่สำหรับ iPhone แล้ว มีเพียงไม่กี่คำตอบ หนึ่งในนั้นให้เหตุผลที่เหมือนกันว่า "เพราะมันเป็น Apple ไง"
แน่นอนว่า ภาพรวมของมือถือจอใหญ่ขึ้นของ Apple ครั้งนี้ แทบจะไม่มีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นของใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน เพราะทั้งหมดที่เติมเข้าไปในรุ่นที่ 6 นี้ มีอยู่แล้วในท้องตลาดแทบทั้งสิ้น ทั้งเรื่องจอใหญ่ หน้าตาการดีไซน์แบบใหม่ ระบบกล้องที่พัฒนาเพิ่มขึ้น เทคโนโลยี NFC ไม่มีสิ่งที่อะไรน่าตื่นเต้น ถ้ามองในแค่รูปลักษณ์และฟีเจอร์ของเครื่อง แต่จุดแข็งในความเป็น iPhone มองเพียงแค่นั้นไม่ได้ สิ่งที่ทำให้ iPhone 6 ถึงแม้จะไม่มีอะไรใหม่ในแง่ด้าน Hardware แต่เหตุผลที่ยังขายได้คือ ความเป็น Apple ที่บรรดาสาวกบอกกันคือจุดแข็งที่ใครๆ ยังไงก็สู้ไม่ได้ อาจมองว่า แบรนด์ Apple เต็มไปด้วยความแข็งแรงหลากหลายมุม ทั้งแง่ของภาพลักษณ์ความเป็นคนรุ่นใหม่ มีความทันสมัย ไม่ใช่ผู้ชายใส่สูทดูอึมครึมเต็มไปด้วยความเป็นระเบียบ เหมือนที่ Apple สื่อสารมาตลอด ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การใช้งานมือถือที่ถูกออกแบบมาอย่างดี และบริการที่เรียกว่า ได้ใจคนดิจิทัลอย่าง iTunes เพลงคุณภาพจากศิลปินทั่วโลก และ Application ที่มีคุณภาพกว่า Android ทำให้ภาพความแข็งแรงในความเป็น Apple ทางการตลาดจะพูดเสมอๆ ว่า Ecosystem (ระบบนิเวศ สภาพแวดล้อม) ในการใช้งานนั้นยังเป็นที่หนึ่งอย่างที่ไม่มีใครล้มได้ และคนจำนวนมากติดงอมแงม แต่ที่ผมจั่วหัวไว้ดูเหมือนเป็นเรื่องเลวร้าย ไม่ได้เลวร้ายในมุมของผมหรือผู้อ่านเท่าไหร่ แต่ที่เลวร้ายคือ หลายบริษัทด้านไอทีต้องร้อนหนาวๆ จากงานเปิดตัว iPhone 6 ที่ผ่านมาเรียกว่า ถ้าไม่ทำอะไรเลยอาจจะต้องผิดบริษัทหรือต้องรองรับภาวะรายได้ที่ลดลง
สิ่งที่น่ากลัวที่สุด เกิดขึ้นแล้ว จากการเปิดตัว iPhone 6 คือบริการจ่ายเงินผ่านมือถือด้วยบริการ Apple Pay จ่ายเงินง่ายๆ แค่เอา iPhone แตะกับเครื่องจ่ายเงินก็ตัดบัตรเครดิตทันที ด้วยตัวชิพ NFC ที่ทำหน้าที่ในการส่งข้อมูลระยะสั้นๆ กับเครื่องอ่าน (เครื่องคิดตังค์ นึกภาพเครื่องแตะบัตรจ่ายตังค์ในเซเว่นฯ) เสมือนเป็นกระเป๋าตังค์ที่ใส่บัตรเครดิตหลายใบไว้ได้ในมือถือเครื่องเดียว พร้อมเพิ่มการยืนยันความปลอดภัยด้วยการสแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันการจ่ายเงิน บริการ Apple Pay ชูจุดเด่นอยู่ 6 ส่วนครับ เรื่องการใช้งานที่สะดวกแทนการพกกระเป๋าเงินได้เลย ความง่ายทั้งการจ่ายเงินได้แค่แตะและจ่ายผ่านเว็บไซต์ซื้อขายของที่เป็นพันธมิตรเมื่อเปิดผ่าน iPhone ได้ การรองรับการใส่ข้อมูลบัตรเครดิตที่ง่ายไม่ยุ่งยาก ความปลอดภัย และพันธมิตรบริษัทด้านการเงิน และร้านค้าจำนวนมากกว่า 220,000 ร้าน ที่เข้าร่วม และการจ่ายเงินผ่าน App ที่ง่ายขึ้น
จริงอยู่ครับว่า การจ่ายเงินผ่านมือถือมีบริษัทหลายบริษัทที่พยายามผลักดันธุรกรรมผ่านมือถือมาหลายปี แต่ยังไม่เป็นที่นิยม อาจเป็นเพราะความยุ่งยากในการใช้งานและร้านค้าที่รองรับระบบการจ่ายเงินรูปแบบนี้ยังมีน้อย กว่าที่จะทำให้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนไปใช้แม้จะสะดวกในการจ่ายก็จริง แต่ร้านค้าที่รองรับน้อยเกินกว่าที่จะหันมาใช้มือถือแทนกระเป๋าเงินอย่างจริงจัง แต่เมื่อเป็น iPhone จึงต่างออกไป สิ่งที่ทำให้แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ เลยก็คือ ความแข็งแรงของ Apple คือผู้ใช้ iPhone ทั่วโลกที่มีอยู่จำนวนหลักร้อยล้านคน และโดยส่วนมากจะมี Account บริการ iTunes สำหรับการซื้อ Application และสื่อบันเทิงเพลงหนัง ที่มีข้อมูลบัตรเครดิตอยู่ราวๆ 800 ล้านใบ ในบัญชีผู้ใช้ iTunes ถือเป็นฐานผู้ใช้ที่ใหญ่มากในการเริ่มพา Apple เข้าสู่ระบบการจ่ายเงินผ่านมือถือของ Apple เอง
การเปิดตัว Apple Pay จึงทำให้กลายเป็นระบบจ่ายเงินโดยสมบูรณ์ของ Apple ซึ่งมีความแข็งแรงที่สุดตั้งแต่มีมา ทำเอางานนี้ผู้ให้บริการรูปแบบเดียวกันนี้ อย่าง Google Wallet, Softcard, Paypal น่าจะต้องร้อนหนาวไปตามๆ กัน ต้องรอสักระยะกว่าร้านค้าใหญ่ในระดับโลกจะเปิดให้บริการระบบนี้ในบ้านเรา แต่ที่แน่ๆ ที่อเมริกาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และร้านค้าชั้นนำอย่าง McDonald, Subway, ร้านค้าอาหารจานด่วนจะทยอยใช้ระบบนี้กันในอนาคตแน่ๆ แต่ที่ใกล้ตัวเราก็คือ หลาย Application ใน iPhone และเว็บไซต์ขายของออนไลน์จะเชื่อมการใช้ Apple Pay ให้เราเห็นแน่นอนเร็วๆ นี้ครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น