[Tip & Trick] ใช้ iPhone อย่างไร ให้ประหยัดแบตสุดๆ
ปัญหากวนใจ สำหรับผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่ ก็คือ แบตเตอรี่ไม่พอใช้งานในแต่ละวัน เนื่องจากความจุของแบตเตอรี่ในตัวเครื่องที่ให้มาน้อยเกินไป แต่สำหรับผู้ใช้ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus คงจะเบาใจไปได้บ้าง เนื่องจากความจุแบตเตอรี่ที่ให้มา มากกว่า iPhone รุ่นอื่นๆ แต่ล่าสุด บน iOS 8 มีผู้ใช้บางราย เริ่มสังเกตได้ว่า หลังจากอัพเดทไปแล้ว มีการสูบแบตเตอรี่มากกว่าแต่ก่อน นั่นเป็นเพราะว่า iOS 8 มีฟีเจอร์และลูกเล่นใหม่ๆ ที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
![](http://p4.isanook.com/hi/0/ud/278/1392009/1.jpg)
และในวันนี้ ทีมงานมีเคล็ดลับดีๆ สำหรับผู้ใช้ iPhone ใช้งานอย่างไร ให้ประหยัดแบตเตอรี่ ด้วยการปิดฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่จำเป็นนั่นเอง โดยทริคนี้ นอกจากจะใช้กับ iOS 8 ได้แล้ว ยังสามารถนำไปใช้กับเวอร์ชันอื่นๆ ได้อีกด้วย
เช็คให้ชัดๆ ว่าแอปฯ ไหนกินแบตที่สุด
วิธีนี้ ทางทีมงาน ได้เคยสอนวิธีเปิดใช้งานกันไปแล้ว กับการตรวจสอบว่า แอปพลิเคชันไหน กินแบตเตอรี่มากที่สุด ด้วยการเปิดฟังก์ชัน Battery Usage นั่นเอง ด้วยการเข้าไปที่ Settings > General > Usage > Battery Usage โดยในนั้น จะมีข้อมูลระบุว่า แอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่ แอปฯ ใด ใช้พลังงานเยอะ และถ้าหากมีแอปฯ ที่ไม่ได้ใช้งาน ก็สามารถปิดเพื่อประหยัดพลังงานได้เช่นกัน
![](http://p4.isanook.com/hi/0/ud/278/1392009/2.jpg)
ปิดฟังก์ชัน Background App Refresh
ปกติ บน iOS 7 และ iOS 8 จะมีการเปิดฟังก์ชัน Background App Refresh ไว้เป็น Default อยู่แล้ว ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าว จะทำการรีเฟรชตลอดเวลา เมื่อมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือเครือข่าย โทรศัพท์มือถือ เพื่ออัพเดทข้อมูลใหม่ๆ และทุกครั้งที่มีการรีเฟรช จะใช้พลังงานแบตเตอรี่เช่นกัน ฉะนั้น แอปพลิเคชันไหนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ Background App Refresh ก็ปิดไป จะช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้ระดับหนึ่งครับ
ปิดใช้งาน Parallax
Parallax เป็นลูกเล่นอย่างหนึ่งบน iOS 7 และ iOS 8 ครับ โดยใช้เทคนิคของ MEMS gyroscope และ Accelerometer Sensor ในการทำให้ภาพแบ็คกราวน์ เคลื่อนไหวไปตามทิศทางที่เรามอง แต่ทราบกันหรือไม่ว่า ลูกเล่นดังกล่าว กินพลังงานแบตเตอรี่พอสมควร อีกอย่าง Parallax ไม่ได้ทำให้ตัวเครื่องประมวลผลเร็วขึ้นแต่อย่างใด แค่ทำให้ดูมีอะไรแปลกใหม่เท่านั้น ฉะนั้น การปิดฟังก์ชัน Parallax จะช่วยทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้เช่นกัน ด้วยการเข้าไปที่ Settings > General > Accessibility and switch Reduce Motion และเลือกเป็น OFF
ปิด Location Services
จริงๆ แล้ว Location Services เป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน Find My iPhone หรือ Find My Friend แต่การเปิดใช้งาน Location Services เป็นสาเหตุหลักทำให้แบตเตอรี่ลดลงมากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งในทีนี้ ไม่ได้ต้องการให้ผู้ใช้ปิดฟังก์ชัน Location Services นะครับ เพียงแต่ให้ปิดการ Track พิกัด ในบางแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น ด้วยการเข้าไปที่ Settings > Privacy > Location Services เพียงแค่นี้ จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปได้มากทีเดียว
ปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม
ความสว่างของหน้าจอแสดงผล เป็นปัจจัยหนึ่งที่กินพลังงานแบตเตอรี่บนตัวเครื่อง ฉะนั้น ผู้ใช้ควรจะปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ณ ตอนนั้น ไม่ควรเปิดใช้งานแบบ Auto-Brightness ครับ แต่ควรปรับแบบ manual แทน
ไม่ควรตั้งค่าให้รีเฟรชอีเมลตลอดเวลา
จริงอยู่ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่อยากจะพลาดอีเมลสำคัญ โดยเฉพาะอีเมลจากเจ้านาย ครอบครัว หรือเพื่อนฝูง แต่ทราบกันหรือไม่ครับ การรีเฟรช mailbox ในแต่ละครั้ง ก็ใช้พลังงานแบตเตอรี่มากพอสมควรเช่นกัน แต่เราสามารถตั้งค่าให้รีเฟรชอีเมลใหม่แบบ manual ได้ ด้วยการปิดใช้งาน Fetch New Data ครับ แล้วหันมา รีเฟรชอีเมลใหม่ในช่วงเวลาที่ต้องการก็พอครับ
![](http://p4.isanook.com/hi/0/ud/278/1392009/3.jpg)
สำหรับเทคนิคการประหยัดแบตเตอรี่บน iPhone ข้างต้นนี้ สามารถนำไปปรับใช้กับ iPhone ได้ทุกรุ่นครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น