ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

พรีวิว Nikon D5500 พร้อมหน้าจอสัมผัสตัวแรกของนิคอน

      เปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ  กล้องแบบ DX ของ Nikon ที่มีขนาดเล็กและเบาที่สุดของนิคอนในตอนนี้ Nikon D5500 มีขนาดเพียง 124 มม. (กว้าง) x 97 มม. (สูง) x 70 มม. (ลึก) และหนักเพียง 420 กรัม
     พร้อมกับโชว์จุดเด่นนั้นเป็นกล้อง DSLR ที่เล็กที่สุดเบาที่สุดและบางที่สุดในโลกนั้นเองนอกจากนี้ยังเป็นกล้องตัวแรกที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสหรือแบบ(Touchscreen) นั้นเอง
     
      วันนี้ทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้มีโอกาสสัมผัสตัวจริงของกล้องรุ่นนี้พร้อมทั้งทำพรีวิวเล็กๆ มาฝากกันนิดหน่อยครับ คือต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่ค่อยได้พรีวิวกล้องบ่อยนักทำให้บทความนี้ไม่ได้เจาะลึกมากเรื่องการตั้งค่าต่างๆ ของเครื่องมาก โดยหลักจะเขียนในลักษณะของผู้ใช้คนนึงเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขอออกตัวล่วงหน้าไว้ตรงนี้ครับ คิดว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันครับ มาเริ่มกันดีกว่า
สำหรับสเปกของ D5500 มีดังนี้
  • เซ็นเซอร์รับภาพความละเอียด 24 ล้านพิกเซลแบบไม่มี OLPF (Optical Low Pass Filter) ตัวเดิม
  • ขนาดจอ 3.2″ ความละเอียด 1 ล้านพิกเซลเท่าเดิม
  • Viewfinder ขอบเขตภาพ 95% กำลังขยาย 0.82x อย่างเดิม
  • ระบบโฟกัสอัตโนมัติ Multi-CAM 4800DX มีจุดโฟกัส 39 AF และ 9 จุดเป็นแบบ cross-type ตัวเดิม
  • หน่วยประมวลผล Expeed 4 รุ่นเดิม
  • ถ่ายวิดีโอได้ 1080p 60 fps เท่าเดิม
  • ใช้แฟลชหัวกล้องเป็น Master ควบคุมแฟลชตัวอื่นไม่ได้เหมือนเดิม
  • ไม่มีมอเตอร์ในตัวกล้องอย่างเดิม (กล้องรุ่นเริ่มต้นคงจะไม่มีไปตลอด)
  • ถ่ายต่อเนื่องได้ 5 FPS เท่าเดิม
  • เชื่อมต่อ Wifi ได้เหมือนเดิม
      เริ่มจากตัวบอดี้ของ Nikon D5500 กันก่อนเลย ต้องบอกว่าความรู้สึกแรกนั้นประทับใจพอสมควร ด้วยดีไซน์ภายนอกตัวกล้องนั้นค่อนข้างผลิตได้หรูหรา ตัวเลครื่องสีดำ คาดเส้นด้วยสีทอง โด่ดเด่น ทั้งยังผสมผสานวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแรงทนทานแต่น้ำหนักเบา ซึ่งเป็นพื้นฐานโครงสร้างไร้รอยต่อที่ล้ำสมัยที่นำมาใช้งานกล้องรุ่นนี้นั้นเอง
      กล้อง D5500 สามารถจับภาพที่สวยงามน่าประทับใจได้ด้วยกล้อง 24.2 ล้านพิกเซล โดยไม่มี low-pass filter (OLPF) ช่วงไดนามิกกว้าง (ISO 100 - 25600) และสัญญาณรบกวนต่ำแม้ในที่ความไวแสง (ISO) สูงให้ภาพที่ไล่ระดับสีที่สมบูรณ์และการแสดงภาพที่ให้สีคมชัดในทุกๆ ช็อต
      Nikon D5500 มาพร้อมหน้าจอแบบทัชสกรีน จอภาพอเนกประสงค์หน้าจอขนาดใหญ่ 3.2 นิ้ว เซ็นเซอร์ภาพ 24.2 ล้านพิกเซลที่ไม่มี low-pass filter (OLPF) มาพร้อมเครื่องประมวลผลภาพ EXPEED 4 ที่ทรงพลัง ช่วยในเรื่องความสะดวกในการถ่ายภาพมุมต่างๆได้ดี
      โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของ Nikon ที่มาพร้อมจอภาพ LCD จอภาพระบบสัมผัส LCD แบบปรับมุมได้พร้อมมุมมองการมองเห็น 170° เพื่อให้คุณสนุกและสร้างสรรค์การถ่ายภาพได้อย่าง ไร้ขีดจำกัดและจับได้ถนัดมือ
      เพียงแค่แตะจุดที่คุณต้องการโฟกัสแล้วถ่ายภาพ เซนเซอร์ตรวจจับสายตาอย่างเป็นธรรมชาติปิดการแสดงผลข้อมูลการถ่ายภาพ เมื่อคุณมองตรงช่องมองภาพ
 
และเอาใจสาวก Selfie สาวๆ อ่ะครับจอพลิกกลับมาถ่ายตัวเองได้ครับ
      ฟังก์ชันใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้คือ Touch Function ทำให้คุณสามารถใช้การตั้งค่าออโตโฟกัสและรูรับแสงได้ด้วยระบบสัมผัส  และด้วยการแสดงผลข้อมูลหกรูปแบบที่มีให้เลือกใช้ คุณจึงสามารถปรับภาพบนจอภาพของคุณได้อย่างที่ต้องการ
      ส่วนบนด้านขวาของตัวเครื่องนั้นเป็นตำแหน่งของวงแหวนปรับโหมดการถ่ายภาพ ปุ่มต่างๆ ในการเลือกโหมดใช้งานส่วนปุ่มอื่นๆ ก็จะมีระบบวัดแสง ปุ่มชดเชยแสง และปุ่มบันทึกวีดีโอ และก้านสำหรับปุ่ม Live View ส่วนตำแหน่งของปุ่มชัตเตอร์และสวิตซ์เปิด-ปิดก็ยังคงเหมือนเดิม
      สำหรับผมไม่ค่อยได้ทดลองเล่นส่วนนี้เท่าไร ด้วยได้เครื่องมาไม่นาน และอีกอย่างระดับฝีมือในการถ่ายภาพเป็นเพียงมือสมัครเล่นเท่านั้น แล้วแต่ละปุ่มทำไรได้บ้างผมขอไม่ลงรายละเอียดละกันนะครับ ด้วยระยะเวลาที่ได้กล้องมาเล่นนิดเดียว เลยไม่ได้ทำการบ้านส่วนนี้เท่าไร เน้นถ่ายอย่างเดียว
      แฟลชในตัวสามารถเรียกใช้งานได้หากแสงไม่พอ เรียกใช้งานได้ทั้งระบบออโต้ และกดปุ่มลัดได้เลยหากต้องการใช้งาน
ส่วนบนมีไมโครโฟนรับเสียงแบบสเตอริโอและช่องติดแฟลช
      ต่อมาเป็นตำแหน่งของปุ่มปลดล็อคเลนส์ตามด้วยก้านเลือกโหมดโฟกัสของเลนส์ ส่วนนี้มักไม่ได้ใช้งานเท่าไรนัก ปรับให้อยู่ในตำแหน่งอัตโนมัติโลด!!
      ตำแหน่งของปุ่ม (Fn) เพื่อการเข้าถึงการตั้งค่าสำคัญ เช่น การเลือกจุดโฟกัส, รูรับแสง, ความไวแสง (ISO), โหมดการเลือกพื้นที่โฟกัส นั้นอยู่ในตำแหน่งที่สามารถใช้งานได้ถนัดมือครับ
      สำหรับด้านหลังของตัวเครื่องนั้นมีปุ่มควบคุมกล้องหลักๆ ในการเข้าถึงเมนูต่างๆ นอกจากนี้ยังมีปุ่มของการลบภาพด้วย
พอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครับจัดเต็มทั้ง USB, HDMI, ไมโครโฟน และ หูฟัง
 แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบรีชาร์จ
 Nikon D5500 ที่ได้มาทำรีวิวนั้นมาพร้อมเลนส์ Kit 18-140 VR
ซูมกันให้เห็นกันชัดๆ นี่คือตัวเลนส์ที่มาพร้อมกันเครื่อง
กล้อง + เลนส์ชุด เที่ยวทั่วโลก
ลองถอดเลนส์ออก
สรุปเรื่องการดีไซน์ของ Nikon D5500 เบื้องต้น
      โดยทั่วไปนั้นเรียกได้ว่า Nikon D5500 รุ่นใหม่นั้นในส่วนของการดีไซน์ ถือว่ายังไม่มีอะไรตื่นเต้นมากนัก การออกแบบยังคงไม่ได้แปลกใหม่หรือทำให้รู้สึกว๊าวววว....จาก Nikon D5300 เท่าไรนัก แต่จะโดดเด่นในเรื่องของ Size เพราะมันกระทัดรัดน่าพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ด้วยมันหนักเพียง 420 กรัมเท่านั้น
ลองมาชมตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้อง Nikon D5500 กันครับสำหรับภาพดังกล่าวทางทีมงานไม่ได้มีการปรับหรือแต่งภาพแต่อย่างใด
      กล้อง D5500 คือกล้องรูปแบบ DX รุ่นแรกที่มีการควบคุมขอบมืดที่ช่วยชดเชยการลดแสงรอบนอกเพื่อให้ได้ความ สว่างที่สมดุลดีเยี่ยม ให้จินตนาการของคุณนำทางด้วยโหมดเอ็ฟเฟ็กต์พิเศษที่ทำให้คุณสามารถเพิ่มความ งดงามของภาพผ่านสี ความสว่าง และสไตล์ที่มีศิลปะ คุณยังสามารถปรับรายละเอียดต่างๆ เช่น ไวต์บาลานซ์ และ Picture Control ในระหว่างไลฟ์วิวได้จากจอภาพ
มาถึงบทสรุปของการใช้งาน Nikon D5500
      เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับการพรีวิว Nikon D5500 กล้องซี่รีย์ DSLR รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจุดขายอย่างหน้าจอสัมผัสตัวแรกของนิคอน อีกทั้งยังสามารถถ่ายได้ถึง 820 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Built in Wi-Fi ในตัวอีกทำให้ส่งภาพไปยังเครือข่ายสังคมได้ไม่สะดุด
      ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น WirelessMobile Utility ที่มีให้ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งแบบ iOS หรือ Android และนี้คือฟังก์ชั่นใหม่ที่ทำออกมาเพื่อรองรับกระแสโซเชียลต่างๆ ที่มักนิยมถ่ายเสร็จมักโพสอวดกันเดียวนั้น
      และเรื่องหน้าจอแบบสัมผัสนั้นเรียกได้ว่าถูกใจมากจริงๆ ครับเพราะมันทำให้สามารถใช้งานได้รวดเร็ว และง่ายส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้ทาง Nikon เค้าเพราะ Nikon D5500 เป็นกล้องรุ่นแรกที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสนั้นเอง(คู่แข่งเค้ามีกันไปตั้งนานแล้ว)
      คือกล้องแต่ละยี่ห้อ มันก็มีข้อดีข้อเด่นแตกต่างกันไป ว่าใครเก่งด้านใหน ถนัดยังไงเลือกใช้แบบที่ตัวเองถนัดจะดีกว่าครับ แต่หากต้องการกล้องที่เหมาะแก่การพกไปเที่ยวและสามารถช่วยให้เราพัฒนาเรื่องการถ่ายภาพได้เรื่อยๆ ผมว่าเจ้า Nikon D5500 นี้แหละครับถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลวเลย!!
      เสียดายผมไม่มีภาพกล้องเมื่อได้ลองใส่ "กริป" หากได้ใส่ผมเชื่อว่า Nikon D5500 คงหล่อไม่เบาเชียว
      ตอนนี้นั้น Nikon D5500 ได้วางขายในประเทศไทยแล้วครับ โดยมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 คือสีแดงและสีดำ ราคาจำหน่ายที่ต่างประเทศพร้อมเลนส์ kit 18-55 mm VR II อยู่ที่ประมาณ 999$  และชุดพร้อมเลนส์ 18-140 mm VR อยู่ที่ 1199.95$ กล้อง D5500 มีให้เลือกทั้งสีดำคลาสสิคและสีแดง
ราคาจำหน่ายของ Nikon D5500 แบ่งออกเป็น 3 แบบดังต่อไปนี้

- Nikon D5500 เฉพาะบอดี้ ราคา 899 ดอลลาร์ หรือประมาณ 29,200 บาท
- Nikon D5500 พร้อม 18-55mm VR II ราคา 999 ดอลลาร์ ประมาณ 34,000 บาท
- Nikon D5500 พร้อม 18-140mm VR ราคา 1199 ดอลลาร์ ประมาณ 39,000 บาท

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1394637/

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น