ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ iPhone 5S แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ iPhone 5S แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

จับเข่าคุยกันเล่นๆ ว่า iPhone 6s จะมา 9 ก.ย.จริงรึป่าวแล้ว iPad Pro มาเมื่อไหร่?

พบกับคอลัมน์ใหม่กับ MacThai Weekly บทความในลักษณะ "คุยข่าว" โดยรวบรวมข่าวคราวที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ ซึ่งจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับแอปเปิลก็ได้ แต่เป็นเรื่องที่สาวกน่าจะสนใจ
ซึ่ง MacThai Weekly นี้จะมาในทุกวันอาทิตย์ ช่วงวันที่ไม่ค่อยจะมีข่าวอะไรใหม่ เราก็จะใช้เวลามาสรุปข่าวกัน ติดตามกันได้ทุกสัปดาห์นะจ๊ะ <3


iPhone 6s จะมา 9 กันยายนจริงอ๊ะป่าว ?
ข่าวฮ็อตสุดในรอบสัปดาห์ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของวันเปิดตัว iPhone 6s ที่หลุดออกมาว่าน่าจะเป็นวันที่ 9 กันยายน หรืออีกไม่กี่สิบวันหลังจากนี้แล้ว ถามว่าจริงหรือเปล่า ก็ต้องรอแอปเปิลออกมาคอนเฟิร์มนั่นแหล่ะครับ แต่จากสถิติที่ผ่านมาคือ
  • iPhone 5 : พุธ 12 ก.ย. 2012
  • iPhone 5s : อังคาร 10 ก.ย. 2013
  • iPhone 6 : อังคาร 9 ก.ย. 2014
  • iPhone 6s : พุธ 9 ก.ย. 2015 ???
คือถ้าดูจากสถิติปีก่อนๆ วันเปิดตัวไอโฟนก็จะตกช่วงวันที่ 9-12 ก.ย.มาโดยตลอด ซึ่งปีนี้ดูแล้วก็ไม่น่าต่างจากเดิม
ส่วนวันขายตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ก็จะเป็นวันศุกร์ต่อจากวันเปิดตัวนั่นเอง ซึ่งปีนี้ก็จะตกวันที่ 18 ก.ย.นั่นเอง ส่วนกลุ่ม Tier 2, 3, 4 ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะมาไทยวันที่เท่าไหร่นะจ๊ะ (แต่ได้ยินมาว่าน่าจะมีข่าวดี)
ฟันธง : iPhone 6s โอกาสเปิดตัว 9 ก.ย. สูงถึง 90%
iPad Pro จะมาเมื่อไหร่
ข่าวลือหนาหูสำหรับ iPad รุ่นจอใหญ่พิเศษ หรือ iPad Pro ที่เดากันว่าอาจจะมาพร้อมงานเปิดตัว iPhone 6s เลยหรือเปล่านะ แต่ข่าวลือล่าสุดก็คิดว่าน่าจะไปเปิดตัวช่วงตุลาคมโน่นเลย
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ตามธรรมเนียม แอปเปิลเองก็มักจะจัดงานในช่วงปลายปีแค่ 2 งาน คือเปิดตัว iPhone ช่วงเดือนกันยายน และงานเปิดตัว iPad ในช่วงเดือนตุลาคม เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว เพราะงั้นปีนี้ก็น่าจะไม่แตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่
iPad Pro เป็นสินค้าที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง เพราะเราแทบไม่รู้อะไรข้างในเลย ถือว่าเก็บความลับได้ค่อนข้างดี ซึ่งก็มีหลายฝ่ายเดากันว่าอาจจะมาพร้อมปากกา (Apple Pen ?) หรือคีย์บอร์ดแบบเดียวกับ Surface คงต้องรอดูกันต่อไป ช่วงเดือนหน้าความชัดเจนน่าจะมากขึ้น
ฟันธง : iPad Pro ไม่น่าเปิดตัวพร้อม iPhone 6s แต่จะเผยโฉมในเดือนตุลาคม
แอปเปิลออกโปรแกรมเปลี่ยนกล้อง iPhone 6 Plus ฟรี
ข่าวฮือฮาที่สุดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ คือการที่แอปเปิลเปิดให้ผู้ใช้ iPhone 6 Plus ซึ่งเปิดขายในล็อตแรกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีปัญหากล้องเบลอ โฟกัสไม่ติด สามารถเปลี่ยนกล้องถ่ายภาพได้ฟรี
ขั้นตอนและวิธีการสามารถอ่านได้จากข่าว -> Apple ประกาศเปลี่ยนกล้องหลัง iPhone 6 Plus ที่มีปัญหาภาพเบลอให้ฟรี!
แต่จากข่าวนี้ ก็สามารถมองได้หลายมุม ตามความเห็นของผมคือ
  • ข่าวร้าย : แอปเปิลพบว่าสินค้ามี Defect ในล็อตแรก คือที่ขายตั้งแต่กันยายน 2014 ถึง มกราคม 2015 ช่วยตอกย้ำความเข้าใจที่ว่า "สินค้าล็อตแรกอาจจะมีปัญหาได้นะ"
  • ข่าวดี : แอปเปิลรับผิดชอบ และเปิดให้เข้ามาเปลี่ยนได้ฟรี ไม่ใช่รอให้ลูกค้าเข้ามาโวยวาย หรือโพสต์ Pantip แล้วค่อยออกมาซ่อมทีละรายไป
  • ข้อสังเกต : การออกโปรแกรมเปลี่ยนหรือซ่อมให้ฟรีของแอปเปิล มักเกิดกับสินค้ารุ่นแรกที่ทำ เช่น iPhone 5 เปลี่ยนแบต, iPhone 6 Plus เปลี่ยนกล้อง เพราะงั้นถ้าใครที่ชอบซื้อรุ่น S น่าจะปลอดภัยสุด เช่น iPhone 6s ที่กำลังจะออกนะจ๊ะ
สำหรับแฟนๆ แมคไทย ติดตามคอลัมน์ MacThai Weekly ได้ทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ทีมงานจะวนเวียนมาเล่าเรื่องที่มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างในสไตล์คุยข่าวนะจ๊ะ ติดตามกันได้ 
รายงานโดย @Khajochi
สนับสนุนเนื้อหา: www.macthai.com

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

จะตรวจสอบได้อย่างไรว่า iPhone ที่ซื้อมานั้น เป็นเครื่องศูนย์ไทย หรือเครื่องหิ้ว (เครื่องนอก)?

     สำหรับช่องทางการซื้อ iPhone มาใช้งานนั้น นอกจากจะสามารถสั่งซื้อแบบออนไลน์ผ่าน Apple Online Store หรือผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายในไทยแล้ว
     การซื้อ iPhone จากตัวแทนจัดจำหน่ายทั่วไป ก็ถือว่า เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยเฉพาะ ร้านตู้ ที่หลายๆ คนมองว่า มีราคาที่ถูกกว่า และสามารถหาซื้อ ไอโฟนมือสอง มาใช้งานได้ แต่ในบางครั้ง อาจจะโดนย้อมแมวด้วยการนำ เครื่องนอก มาขายให้แทน
     ซึ่งจะถือว่า มีปัญหาในด้านการเคลมอย่างแน่นอนครับ เนื่องจาก iPhone นั้น จะรับประกันตามประเทศที่ซื้อมา ต่างจาก iPad, iPod, Mac และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่รับประกันแบบ World Wide
     และเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องทำการตรวจสอบก่อนว่า iPhone ที่ซื้อมานั้น เป็นโมเดลของประเทศไทยหรือไม่ ด้วยการตรวจสอบจากเลข IMEI นั่นเอง โดยวิธีการค้นหาเลข IMEI บน iPhone สามารถทำได้ 2 แบบด้วยกัน
โดยวิธีแรก ให้เข้าไปที่ Settings > General > About > IMEI
ส่วนวิธีที่สองก็คือ กดหมายเลข *#06# ก็จะมีเลข IMEI ปรากฏขึ้นมาเช่นกัน
     เมื่อได้เลข IMEI แล้ว ให้นำเลขดังกล่าว ไปตรวจสอบได้ที่ http://iphoneimei.info ซึ่งด้านในจะมีข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ iPhone รุ่นนี้ ทั้ง Serial Number, ประเทศที่ซื้อ, วันหมดประกัน และสถานะการ Unlock ครับ
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ภาพคอนเซปท์ iPhone 6C ไอโฟนพลาสติก ราคาประหยัด

ภาพคอนเซปท์  ไอโฟนพลาสติก ราคาประหยัด ดีไซน์เดียวกับ iPhone 6
     แม้จะไม่มีใครทราบว่า แอปเปิล จะยังคงมีแผนเปิดตัว iPhone ราคาประหยัด ที่เป็นรุ่นสานต่อของ iPhone 5C ไอโฟนพลาสติกหลากสีหรือไม่ อีกทั้งเมื่อปีที่ผ่านมา การเปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ยังไม่มีวี่แวว iPhone 6C เผยโฉมออกมา
     แต่ล่าสุดทาง 3D Future ได้เผยภาพ คอนเซปท์ iPhone 6C ออกมาให้ชมกันที่เรียกได้ว่า ถอดแบบมาจาก iPhone 6 ทุกประการ เพียงแต่กรอบตัวเครื่องเป็นพลาสติกเท่านั้น
     โดยจากภาพจะเห็นได้ว่า คอนเซปท์ iPhone 6C จาก 3D Future นั้นก็คือ iPhone 6 นั่นเองไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องที่บางลง, ขอบโค้ง, ปุ่มปรับระดับเสียงดีไซน์ใหม่ รวมไปถึงกล้องด้านหลังที่นูนออกมาเล็กน้อย อีกทั้ง ยังมีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว เท่า iPhone 6 อีกด้วย แต่สิ่งที่แตกต่างกันไปก็คือ ฝาหลังเป็นพลาสติกที่มีสีสันให้เลือกมากมาย
     แต่งานนี้คงยากที่จะได้เห็น รุ่นต่อยอด ของ iPhone 5C อย่าง iPhone 6C เพราะคาดว่าแอปเปิลคงไม่หันกลับไปทำไอโฟนพลาสติกอีกต่อไป เนื่องจากกระแสตอบรับของ iPhone 5C ตอนเปิดตัวนั้นไม่ดีกว่าที่คาดไว้นั่นเอง
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

วิธีเช็ดทำความสะอาดหน้าจอ iPhone ด้วยน้ำยาล้างจาน

ช่วงหลังมานี้มีงานวิจัยหลายตัวที่ออกมาบอกว่าหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหรือคราบสกปรกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากมือของเราที่ไปจับของรอบตัวแล้วก็มาเล่นมือถือต่อ สุดท้ายเอามาทาบหน้า สิวขึ้นตามกันไป
วันนี้ทีมงาน MacThai ขอนำเสนอวิธีทำความสะอาดหน้าจอ iPhone แบบประหยัดสุดๆ ด้วยน้ำยาล้างจาน !!
ทำไมต้องใช้น้ำยาล้างจาน
- ส่วนตัวผู้เขียนใช้ iPhone มาตั้งแต่รุ่นแรก ด้วยคำแนะนำจากเพื่อนชาวต่างชาติ ว่ากระจกหน้าจอไอโฟนใช้น้ำยาล้างจานเช็ดแล้วสะอาดดี สะดวกด้วย จึงใช้วิธีนี้มาตลอดหลายปี ยังไม่พบปัญหาใดๆ กับเครื่อง
- แน่นอนว่าสเปรย์หรือน้ำยาทำความสะอาดหน้าจอ ย่อมได้ผลที่ดีกว่า และเราก็ขอแนะนำให้ซื้อน้ำยาทำความสะอาดที่ตรงจุด
แต่ถ้าต้องการทดลองวิธีประหยัดและสะดวก .. ก็มาลองกันเถอะ #ฮา
วิธีทำความสะอาดจอ iPhone ด้วยน้ำยาล้างจาน
อุปกรณ์ที่ใช้
1. น้ำยาล้างจาน ยี่ห้ออะไรก็ได้
2. ทิชชู่
3. น้ำเปล่า
ขั้นตอนทำความสะอาด
- ถอดเคสของเครื่องออก
หน้าจอ iPhone ที่ใช้กันปกติ จะเห็นว่าคราบมันเพียบเลย >_<
- ปิดเครื่อง iPhone หรือ iPad ก่อนทำความสะอาด (กดปุ่ม Power ค้างไว้ แล้ว Slide หน้าจอเพื่อปิด)
- นำทิชชู่มาห่อมือ แนะนำให้ใช้ทิชชู่กล่อง
- เทน้ำยาล้างจานลงไปบนทิชชู่ 1-2 หยด
- ผสมน้ำลงไปอีก 5-6 หยดเพื่อเจือจาง
- นำทิชชู่ไปเช็ดหน้าจอ
- ถูไปมาให้ทั่ว (เว้นบริเวณปุ่ม Home) จะเริ่มเห็นคราบสีขาวมันโผล่ขึ้นมา
- นำทิชชู่ด้านที่แห้งเช็ดคราบออกอีกครั้ง
- นำทิชชู่แผ่นใหม่ ผสมน้ำ 5-6 หยดให้เปียกชุ่ม แล้วนำไปเช็ดหน้าจออีกครั้ง
- นำทิชชู่ด้านที่แห้งเช็ดคราบออก
- แค่นี้ก็ได้หน้าจอ iPhone, iPad ที่สะอาดสวยเหมือนใหม่แล้ว
นี่ก็ถือเป็นวิธีทำความสะอาดหน้าจอ iPhone แบบง่ายๆ ที่เอามาแชร์กัน หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างไม่มากก็น้อย ถ้าชอบอย่าลืมแชร์กันด้วยนะจ๊ะ

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

รีวิวซ่อม ไอโฟน 4s อาการสัญญาณ wifi อ่อนเน็ตหลุดบ่อย

รีวิวซ่อม ไอโฟน 4s อาการสัญญาณ wifi อ่อน เน็ตหลุดบ่อย
     วันนี้เรามารีวิวการซ่อม ""  จากอาการสัญญาณ wifi อ่อนเน็ตหลุดบ่อย และนี้เป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนไอซีของไอโฟน
     ซึ่งแตกต่างจากเครื่องจีนมากเพราะว่าอุปกรณ์เล็กมากๆ และใส่กาวด้วย จึงยากต่อการถอด แต่ว่าบอร์ดของไอโฟนทนความร้อนได้ดี ถ้าเป็นบอร์ดจีน ผมเป่าอุปกรณ์หลุดไปหมดแล้ว แต่นี้ยังคงสภาพดีหมด เรามาเริ่มกันเลย
     1.ขั้นตอนแรกเลย ก็ต้องหาความรู้ก่อนครับว่า อาการนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรและวิธีแก้ไขทำอย่างไรก็ได้หาข้อมูลในกูเกิลรวมทั้งในพันทิป บอกไว้ว่าไอซี wifi  เสีย การแก้ไขมีหลายวิธี เช่น ห่อกระดาษเอาไปแช่ช่องฟรีซตู้เย็นหรือ การใช้ไดร์เป่าผมเป่าที่บริเวณหูฟัง
     แต่ละวิธีล้วนเป็นการแก้ไขเฉพาะหน้า ซึ่งบางเครื่องก็หาย บางเครื่องก็ไม่หาย และบางเครื่องก็กลับมาเป็นอีก
     ซึ่งจากข้อมูลที่หาได้ตามช่างต่างๆ แนะนำให้เปลี่ยนไอซี รับลองหายขาด ผมก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนไอซี ซึ่งเครื่องเป่าลมร้อน หรือหลักการถอดไอซีก็พอมีประสบการณ์อยู่ ก็เลยลงมือทำ
     ขั้นแรกก็ถอดน็อตออก โดยจดให้ละเอียดว่าน็อตแต่ละตัวอยู่ตรงไหน อุปกรณ์ไหนหลุดมาบ้าง จดให้หมด

http://f.ptcdn.info/463/028/000/1423990463-2-o.jpg

     2.ถอดซ็อกเก็ตต่างๆ ด้วยความระมัดระวัง เพื่อที่จะเอาบอร์ดออกจากโครง

http://f.ptcdn.info/463/028/000/1423990589-4-o.jpg

     3.เมื่อถอดบอร์ดออกมาแล้วก็วิ่งไปคลองถมซื้อไอซี โดยไปบอกว่า ไอซี wifi  iPone4s จะมีราคาตั้งแต่ 450-600บาท แต่ที่ซื้อมาได้ 550บาท

http://f.ptcdn.info/463/028/000/1423990729-5-o.jpg

     4.ทำการปิดฟิล์มทนความร้อนให้กับอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการเสียหายลุกลาม

http://f.ptcdn.info/463/028/000/1423990791-6-o.jpg

     5.และไอซี wifi ที่ซื้อมาใหม่จะต้อง บอลขาก่อนเพราะว่าไม่มีขา หรือว่าไม่มีตะกั่วนั้นเอง การบอลขาทำโดยการเอาแบบขาของไอซีนั้น มาทาบกับตัวไอซี
     เมื่อขากับแผ่นเพลทตรงกันแล้ว เราก็เอาเทปทนความร้อนปิดด้านหลังไอซีให้ติดกับแผ่นเพลท เพื่อไม่ให้ไอซีขยับ แล้วเราก็ใช้ตะกั่วเหลวรีดไปตามรูเพลท ให้เต็มทุกรูเช็ดส่วนเกินออก
     ใช้ลมร้อนเป่าที่แผ่นเพลทบริเวณที่เรารีดตะกั่วเข้าไป เมื่อตะกั่วสุกหรือร้อนได้ที่จะละลายเป็นน้ำไหลลงหาไอซี นั้นก็หมายถึงขาไอซีจะมีน้ำตะกั่วร้อนๆอยู่ เราก็ปล่อยทิ้งสัก1นาที ตะกั่วจะเริ่มแข็งตัว เราก็แงะไอซีออกจากแผ่นเพลท ทีนี้เราก็จะได้ขาไอซีที่พร้อมใช้งาน
http://f.ptcdn.info/463/028/000/1423991206-7-o.jpg
     6.ทำความสะอาดบอร์ดที่ถอดไอซีไปแล้ว พร้อมกับใช้ลมร้อนเป่าตรงที่แกะไอซีออก เพื่อแกะกาวใต้ไอซีออก จะทำให้ขาไอซีชิดกับบอร์ดมากขึ้น

http://f.ptcdn.info/463/028/000/1423991360-8-o.jpg
     7.กลังจากเปลี่ยนไอซีไปแล้ว ก็ทำการทดสอบผลปรากฏว่า wifi ไม่สามารถเปิดได้ แต่บลูทูธใช้ได้ปกติ

http://f.ptcdn.info/463/028/000/1423991497-3-o.jpg
     8.แกะเครื่องออกมา วิเคราะห์อีกครั้งสังเกตเห็น R หายไป2ตัว นึกในใจหายไปตอนไหนหว่า...สงสัยหายไปตอนที่เอาบัดกรี ทำความสะอาดตะกั่วที่บอร์ดแน่เลย
http://f.ptcdn.info/463/028/000/1423991606-9-o.jpg
     9.มาเทียบกับระหว่าง R ที่หายไปกับเม็ดน้ำตาลทราย มันเล็กมาก
http://f.ptcdn.info/463/028/000/1423991667-10-o.jpg

     10.ได้ใช้ความพยายามที่จะบัดกรีต่อสายทองแดงออกมาเพื่อนใส่ค่าr แต่ไม่สำเร็จเพราะว่ามันเล็กเกิน
     วันนี้จึงเดินไปคลองถมเพื่อหาซากไอโฟน เอามาหาค่าR เดินๆไปเจออยู่แผงนึงมีบอร์ดไอโฟนรุ่นเราสภาพเหมือนรถทับมา จอไม่มีมีแต่บอร์ดกับเครสเบี๊ยวๆ ถามราคาไป คนขายบอกว่า 800บาทครับ ก็เลยต่อราคาไป 600บาท เขาก็ขายให้ เราก็เอากลับมาหา R ที่ต้องการซึ่งมีหลายจุดที่สามารถใช้งานได้ ก็ทำการถอดจากบอร์ดที่ซื้อมาใส่บอร์ดที่ซ่อม
    ผลปรากฏว่า wifi สามารถเปิดใช้งานได้ สัญญาณที่ตรวจจับเจอเยอะกว่าเก่า และได้ลองฟังเพลงในดู YouTube ไม่มีกระตุกหรือหลุดแต่อย่างใด นี้ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ภูมิใจและอยากถ่ายทอดให้เพื่อนๆได้รับความ รู้ครับ  ^_^
http://f.ptcdn.info/464/028/000/1423992108-11-o.jpg
บทความโดย: ช่างไฟวังหลวง
ถ้าเป็นผมคงไม่ได้ซ่อมเองเด็ดขาด ยิ่งเป็น iPhone ด้วยแล้วมีปัญหาเข้าศูนย์โลด...เพราะว่าเราไม่เรียนมาสายช่างนี่นา 555+

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ชำแหละ! 10 เรื่องน่ารู้สำหรับคนใช้ iPhone ที่เมื่อคุณรู้ชีวิตจะดีขึ้น

เมื่อเล่น  มาตั้งนานแต่เราอาจจะไม่รุ้อะไรที่สำคัญกับมันเลย สิ่งสำคัญนั้นคืออะไร? มาดู!
1.ถ้าใช้ตัวชาร์ตของ iPad มาชาร์ต iPhone แบตจะเต็มเร็วกว่า
2.เมื่อคุณมีปัญหาแบตหมด เรามีทางแก้ไขปัญหาให้คุณได้โดยไปตั้งค่า Settings >> General >> Accessibility >> เปิดโหมด Grayscale
3.แบตหมดเร็วเหรอ? เรามีวิธีเช็คง่ายๆว่าตัวไหนทำเป็นต้นเหตุ(iOS 8 ขึ้นไป) เข้าไปที่ Settings >> General >>Usage >> Battery Usage รอโหลดสักครู่ แล้วจะเห็นว่า app ตัวไหนผลาญแบตเรา
4.สร้าง "shortcuts"ง่ายๆเพียงแค่กด Add to home screen
5.ปุ่ม + ใน Safari นอกจากจะเป็นปุ่มสำหรับ New Page ใหม่แล้ว เมื่อกดค้างไว้ยังจะช่วยให้คุณตามหาหน้าเพจที่คุณเผลอปิดไปได้อีกด้วย
6.โทรหาคุณหมอส่วนตัวได้ทันที เพียงตั้งค่าใน App. "Health" ให้เรียบร้อย (iOS 8)
7.คุณสามารถซ่อนภาพของคุณได้นะแต่รูปยังคงอยู่ และ Unhide ได้ในหน้า Albums
8.ตรวจสอบสุขภาพทุกการเคลื่อนไหวได้เมื่อคุณซิงค์กับแอปพลิเคชั่นการออกกำลังกายอย่าง MyFitnessPal
9.รู้หรึป่าว?พวกนักช๊อปว่าคุณสามารถสแกนบัตรเครดิตได้อย่างไวเลยในsafari
10.ชัตเตอร์รัวๆไปเลย 10 ภาพเพียงแค่กดปุ่มถ่ายค้างไว้
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

9 เหตุผลที่ว่ากันว่า iPhone ดีกว่ามือถือ Android จริงจริ๊ง !!

ระหว่าง iPhone และมือถือ  ใครดีกว่า ? ยังเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับสาวก Apple กับสาวก Android ที่คลั่งไคล้แบรนด์ที่ตัวเองรักจนเข้าเส้นเลือดใหญ่ ที่ไม่ว่าจะเถียงกันด้วยเหตุผลใดตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่อาจหาข้อสรุปได้ งั้นคราวนี้ลองมาดูกันไหมว่าเว็บไซต์ต่างประเทศอย่าง Business Insider จะยกเหตุผลอะไรมากล่าวอ้างว่า iPhone นั้นดีกว่ามือถือ Android
1. iPhone จะเป็นอุปกรณ์ที่รองรับแอพพลิเคชันที่ดีที่สุด
9-001
อย่างที่หลายท่านทราบดีว่าสัดส่วนผู้ใช้ Android ทั่วโลก มีจำนวนมากถึง 80% ซึ่ง Apple ยังมีสัดส่วนที่เป็นรองอยู่มาก แต่ทว่านักพัฒนากลับเลือกเขียนแอพฯ สำหรับ iPhone เป็นลำดับแรก เนื่องจาการพัฒนาแอพฯ บน Android มีต้นทุนที่สูงในการพัฒนาคุณสมบัติต่างๆ และการออกแบบที่ทำได้ยากสำหรับอุปกรณ์ Android ที่มีความหลากหลายทั้งแบรนด์ รุ่น และขนาด รวมทั้งรายได้จากการพัฒนาแอพฯ บน iPhone ยังสูงกว่า Android อีกนั่นเอง
2. การออกแบบที่ดึงดูดผู้ซื้อได้มากกว่า
9-002
การเปิดตัว iPhone 6/6 Plus ก่อให้เกิดกระแสและความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ประกอบดีไซน์ที่เปลี่ยนไปชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่าหากวางเทียบกับมือถือ Android ในหลายๆแบรนด์iPhone ต้องเป็นอุปกรณ์แรกๆ ที่ดึงดูดให้หลายท่านได้มาหยิบจับหรือทดลองใช้ก่อนซื้อใช้งานอย่างแน่นอน
3. การมาของ Apple Pay ส่งผลให้ iPhone มีระบบการชำระเงินด้วยมือถือที่ดีที่สุดไปแล้ว
9-003
แม้ Apple Pay หรือระบบการชำระเงินบน iPhone จะยังอยู่ที่ช่วงเริ่มต้น แต่จากการประกาศพันธมิตรที่ร่วมกับApple ที่อยู่กว่า 700 แห่ง แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและสนับสนุนระบบดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
4. การบริการจาก Apple Store
9-004
สำหรับประเทศไทยยังไม่มี Apple Store มาเปิดสาขา แต่ในหลายประเทศ Apple Store เป็นที่ยอมรับด้านการบริการเป็นอย่างยิ่ง โดยหากผู้ใช้ iPhone ต้องการคำแนะนำหรือความช่วยเหลือด้านการใช้งานหรืออื่นๆ พนักงานสามารถให้คำแนะนำได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งก็หวังว่าในอนาคต Apple จะขยายสาขาของ AppleStore มาในไทยเช่นกัน
5. ในอนาคตอันใกล้ iPhone จะเชื่อมการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน
9-005
แพลตฟอร์ม HomeKit ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 8 เป็นที่ชัดเจนว่า Apple ให้ความสำคัญกับการเชื่อมการใช้งานระหว่าง iPhone กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งผู้ผลิตจำนวนมากต่างตอบรับต่อแพลตฟอร์ม HomeKit ทำให้ในอนาคตอันใกล้เราน่าจะได้เห็นการเปิดตัวอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายใน บ้านที่สามารถควบคุม สั่งการ ได้ผ่าน iPhone มากขึ้น
6. พ่อแม่มีบทบาทมากขึ้นในควบคุมแอพฯ สำหรับลูกๆ
9-006
หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 8 ที่เรียกว่า Family Sharing ช่วยให้คุณแบ่งปันสิ่งที่ซื้อจาก iTunes, iBooks และ App Store ภายในครอบคัวได้มากถึง 6 คน โดยไม่ต้องใช้บัญชีเดียวกัน ช่วยให้คุณสามารถจำกัดการใช้แอพพลิเคชัน บางอย่างที่ไม่เหมาะสมสำหรับลูกๆ ที่ยังมีอายุน้องได้อย่างสะดวก
7. เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ Android ยังไม่สามารถทำได้ดีกว่า Touch ID ของ Apple
9-007
แม้ Samsung และ HTC หรืออีกหลายแบรนด์จะพยายามอย่างหนักที่จะพัฒนาและผลักดันให้เซนเซอร์มสแกน ลายนิ้วมือให้เป็นหนึ่งคุณสมบัติที่สร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้ แต่ความแม่นยำยังอาจไม่อาจสู้กับ Touch ID ของApple ได้ ซึ่งประเด็นที่ส่งผลต่อคุณภาพของการสแกนลายนิ้วมือบน iPhone 5s/ 6 /6 Plus หรือ iPad Air 2 คือการเข้าซื้อกิจการบริษัท Authentec ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือที่ดีสุดของโลก เข้า,kเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยและให้ความเป็นส่วนตัว แก่อุปกรณ์ของ Apple
8. กล้องที่ยอดเยี่ยมของ iPhone ส่งผลต่อภาพถ่ายที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้ 
9-008
แม้ในตลาดมือถือ Android ส่วนหนึ่งมีการแข่งขันในด้านจำนวนพิกเซลของกล้อง ยิ่งรุ่นใหม่ๆ หลายท่านพอจะคาดเดาได้ก่อนล่วงหน้าว่าอย่างน้อยกล้องหลังมีจำนวนพิกเซลที่ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่สำหรับ iPhone เป็นประเภทอินดี้ ! ไม่ขอตามกระแส ต่อให้มือถือ Android หลายรุ่นจะมีกล้องหลายสิบล้านพิกเซล ส่วนตอนนี้iPhone ขอหยุดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล (กล้องหลัง)ใช้การเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ ให้มีสามารถถ่ายและให้ภาพที่มีคุณภาพได้
9. การอัพเกรดซอฟต์แวร์
9-009
Google เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Android รุ่นใหม่ประมาณปีละครั้ง เช่นเดียวกับ iOS ของ Apple แต่ผู้ใช้ Android จำนวนมากกลับไม่สามารถรับซอฟต์แวร์ล่าสุด จนกว่าพวกเขาจะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ หรืออาจต้องรอนานนับเดือนกว่าผู้ผลิตจะปล่อยซอฟต์แวร์อัพเกรดมาให้ใช้
ซึ่งก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่ามือถือ Android ที่ท่านถืออยู่จะได้รับอัพเกรดซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุด สวนทางกับiPhone ที่รุ่นเก๋าอย่าง iPhone 4s ก็ยังมีโอกาสได้รับการอัพเกรดไปใช้ iOS รุ่นใหม่ ตาม iPhone 6/ 6 Plus ด้วยเช่นกัน เพียงแต่จะถูกตัดบางฟีเจอร์ไปเท่านั้น
จากทั้ง 9 ข้อที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการรวบรวมมาจากเว็บไซต์ Business Insider โดยส่วนตัวแล้วมองว่าไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android มีดีแตกต่างกันไป
ลองคิดดูนะครับว่า แค่ชื่อก็เขียนไม่เหมือนกันแล้ว เพราะฉะนั้นการทำงานหรือคุณสมบัติต่างๆ ก็ย่อมต่างไปด้วย ซึ่งใครจะชอบหรือไม่ชอบอะไรก็สุดแท้แต่จะพิจารณากันล่ะครับ แต่เชื่อว่าทุกท่านที่อ่านคงมีความเชื่อและใช้ความคิดไตร่ตรองเพื่อเลือก สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและเลือกไม่ผิดแน่นอนครับ
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com