ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ iphone 6 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ iphone 6 แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เปรียบเทียบภาพถ่าย ระหว่าง iPhone 6 และ iPhone 6S ทั้งกล้องหน้าและหลัง ต่างกันมากน้อยแค่ไหน

อย่างที่ทุกท่านทราบกันเป็นอย่างดีว่า iPhone 6S นี้ ถูกอัปเกรดให้ดีขึ้นจาก  ในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน, การประมวลผล รวมไปถึง กล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
ซึ่งในวันนี้ ทีมงานจะมาทดสอบใช้งานกล้องถ่ายรูปกัน
โดย iPhone 6S มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งอัปเกรดจาก 1.2 ล้านพิกเซลบน iPhone 6 นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับไฟแฟลชแบบ Retina Flash ที่กล้องด้านหน้าอีกด้วย พร้อมเพิ่มฟังก์ชัน Live Photo (ไอคอนสีเหลือง) ภาพแบบเคลื่อนไหวพร้อมเสียง โดยสามารถดูภาพเหล่านี้ได้ ด้วยการกดลงไปที่รูปภาพนั้นๆ ส่วนกล้องด้านหลัง มาพร้อมกับความละเอียด 12 ล้านพิกเซล อัปเกรดจาก 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดการถ่ายภาพ 6 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Time-Lapse, Slo-Mo, Video, Photo, Square และ Pano
ทดสอบการใช้งานกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ภาพจากกล้องด้านหน้าบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
มาเริ่มทดสอบการถ่ายภาพด้วยกล้องด้านหน้ากันก่อน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ภาพจาก iPhone 6S นั้น นอกจากจะมีความคมชัดมากกว่าแล้ว ยังให้สีสันที่สวยสดกว่าด้วย
ภาพจากกล้องด้านหน้าบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
มาลองถ่ายภาพกลางแจ้งกันบ้าง จะเห็นได้ว่า ภาพจากกล้องด้านหน้าของ iPhone 6S ยังให้สีสันที่สวยกว่าเหมือนเช่นเคย แต่คนที่ชอบถ่ายภาพแนวฟรุ้งฟริ้ง อาจจะไม่ถูกใจนัก เพราะตัวแอปฯ กล้องบน iPhone 6S ไม่สามารถปรับความเนียนของใบหน้าได้ ยกเว้น ปรับความสว่าง หรือใส่ฟิลเตอร์เท่านั้น
ทดสอบการใช้งานกล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
สำหรับกล้องด้านหลัง ได้ปรับความละเอียดเพิ่มขึ้น จากเดิม 8 ล้านพิกเซล เป็น 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับปรับเซ็นเซอร์ใหม่, โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพใหม่ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยขึ้นกว่าเดิมครับ
ทดสอบการถ่ายภาพตอนกลางคืน
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
สำหรับการรีวิวในครั้งนี้ เป็นการทดสอบการใช้งานกล้องถ่ายรูปแบบทั่วๆ ไปกันก่อน ซึ่งในครั้งหน้า ทีมงานจะเจาะลึกฟีเจอร์ในนั้น ต้องติดตามกันให้ดีครับ
บทความโดย : techmoblog.com

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

รีวิว iPhone 6S Plus แล้วคุณจะเห็นมุมต่าง ที่ชัดเจน (เวอร์ชั่นคนไทยรายแรกๆ ของประเทศ)

       เป็นประจำของทุกปีที่ช่วงเดืองนี้ที่หลายๆประเทศได้วางจำหน่าย iPhone รุ่นใหม่ซึ่งปีนี้ Apple ได้ปล่อย  และ iPhone 6S Plus มาด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นเหมือนปีก่อน แต่ปีนี้ที่พิเศษกว่าคือ Apple ได้ปล่อย iPhone สีใหม่ออกมาคือสี Rose Gold ออกมาด้วย ซึ่งเป็นตามธรรมเนียมว่าปีหน้าเราอาจจะได้เห็น iPad Mini และ iPad Air รุ่นใหม่สีนี้เช่นกัน

       วันนี้ผมจะนำทุกคนมาดู Review iPhone6S Plus และ ทำความรู้จักกับระบบใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามาใน iPhone6S ที่มาพร้อม iOS9 กันครับ ว่าจะเป็นยังไง และ ตอบโจทย์การทำงานกับกลุ่มใดมากที่สุด โดยที่ครั้งนี้ผมหยิบ iPhone6S Plus Rose Gold มาใช้ในการ Review เพราะตัว Hard Ware และ สเป็คทุกอย่างไม่ต่างจาก iPhone6S ครับ

          อุปกรณ์ที่ทาง Apple แถมมาในกล่องก็ยังเหมือนเดิมครับ ไม่มีอะไรเพิ่มเข้ามาเพราะ Dock จะต้องซื้อเพิ่มเองครับ ในกล่องจะประกอบด้วยสายชาร์ต USB Lighting 1 เส้น หูฟัง Ear Pod 1 กล่อง ปลั้กแบบ 3 ขา 1 ชิ้น คู่มือ และ ซองบรรจุคู่มือการใช้งาน 


          ฟิลม์กันรอย Case หรือ อุปกรณ์เสริมของ iPhone6 ทุกชนิดยังใช้งานได้บน iPhone6S ทุกอย่างครับ ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และ Case รุ่นต่างๆ ยังตำแหน่งเดิม และ ขนาดทั้งหมดเท่าเดิมอยู่ครับ สามารถใช้ได้ด้วยกัน 

       iPhone6S , iPhone6S Plus Space Display Size : iPhone6S 4.7" iPhone6S Plus 5.5"

       ความละเอียด 6S : 1920 x 1080 401 PPI 1300:1 contrast ratio Full sRGB standard ความละเอียด 6S Plus : 1334 x 750 326 PPI 1400:1 contrast ratio Full sRGB standard


CPU : Apple A9 แบบ 64Bit Ram : 2GB GPU : M9 


       Camera Back : 12MP พร้อม iSight 1.22µ ช่องรับแสง ƒ/2.2 รองรับการถ่าย VDO แบบ 4K ป้องกันการสั่นไหวของภาพเวลาถ่าย พร้อมแฟลชแบบทูโทน Panorama สูงสุด 63MP พร้อมทั้งรองรับการจัดแสง และ สีบนภาพดีกว่ารุ่นก่อน รองรับการถ่าย VDO Slo-mo Mode ที่ความละเอียด 1080P 120FPS และ 720P 240FPS


       Camera Front : 5MP ช่องรับแสง ƒ/2.2 aperture มี Retina Flash บันทึก VDO ความละเอียดแบบ 720P ใช้ Facetime Camera ได้


       Battery : iPhone6S 1,715mAh ใช้งานต่อเนื่อง 10 ช.ม. เล่น 3G 10 ช.ม. WIFI 11 ช.ม.ต่อเนื่อง Battery : iPhone6S Plus 2,750mAh ใช้งานต่อเนื่อง 24ช.ม. เล่น 3G 12ช.ม. WIFI 12 ช.ม.ต่อเนื่อง


       Network : GSM/EDGE , UMTS/HSPA+ , DC-HSDPA , CDMA EV-DO Rev. A Touch Screen : 3D Touch (Force Touch) Touch ID : ระบบใหม่ที่ให้ความเร็วมากกว่ารุ่นเก่า WIFI : 802.11a/b/g/n/ac Wi‑Fi with MIMO LTE : LTE Advanced Bluetooth : 4.2 VoLTE : Yes NFC : Yes Sim : Nano-simcard 
แรกสัมผัส[Hand On]


       เป็นครั้งแรกของชีวิตเลยดีกว่าที่ผมมาใช้ Smart-Phone สีหวานขนาดนี้เพราะว่าเมื่อก่อนใช้แต่สีขาว สีดำแล้วก็มายุคสีทอง ครั้งแรกที่ได้เห็นตัวเป็นๆ
       ยอมรับครับว่าเป็น iPhone ที่ถูกใจเรื่องสีมากที่สุดเพราะ Apple มักจะทำสีที่คาดไม่ถึง และทำออกมาสวยงามก่อนค่ายใดๆเสมอ (2ปีก่อนสีทอง) ซึ่งสีนี้เป็นทีเด็ดมาก ถูกใจสาวๆแน่นอน ประกอบกับวัสดุเกรด Aluminum7000
       ทำให้่เป็น iPhone ที่มีความแข็งแรงกว่ารุ่นก่อนมาก จะมาง้อง่ายๆแบบเดิมคงไม่มีแล้วครับ และ วัสดุชนิดนี้ให้ผิวที่จับถนัดมือ ไม่มีส่วนเงาใดๆหลังเครื่องเป็นแต่ด้านๆ แบบ Mac เวลาใช้งานมือเดียวจะคล่อง


       หน้าตาของ iOS9 หลายๆคนคงเคยใช้งานไปก่อนหน้านี้แล้วดังนั้นส่วนนี้ผมจะไม่ขอพูดถึง จะไปโฟกัสรวมๆุถึงสิ่งที่เข้ามาเพิ่มทำให้มีความน่าสนใจของ iPhone6S กันดีกว่าครับ
มีอะไรที่ใหม่ใน iPhone6S , iPhone6S Plus
       หน้าจอที่รองรับแบบ 3D Touch การทำงานของมันต่างไปจากของเดิมๆในรุ่นก่อนๆโดยสิ้นเชิงคุณสามารถเข้าถึง หรือ เลือกการเข้าถึงภายในฟังชั่นต่างๆของ App ที่เราใช้งานได้ด้วยการออกแรงกดของหน้าจอเมื่อเราสัมผัสลงไปได้นั้นเอง เพียงแค่กดเบาๆจะเป็นการเข้า App
       โดยปกติทั่วไป แต่ถ้าออกแรงกดในอีก 1 ระดับจะเป็นการเลือกทางลัดต่างๆใน App นั้นๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นจากระบบหน้าจอแบบ 3D Touch ครับ และยังมี Topic Engine สำหรับเตือนเวลาเราทำการกด 3D Touch หรือกดแรงไปมันจะสั่นเตือนเราทันที 
       Touch ID แบบใหม่ที่มาบน iPhone6S นั้นมีการออกแบบ Sensor ตัวใหม่ของ Apple ที่ทำให้การบันทึกค่า และ การตรวจจับนั้นทำได้รวดเร็วขึ้นและแม่นยำขึ้นถึง 2 เท่า ดังนั้นผู้ใช้ก่อนหน้านี้อาจจะเคยเจอปัญหาที่ว่าเวลาสแกนนิ้วมือแล้วอาจจะเพี้ยนต้องสแกนใหม่บ่อยๆ ปัญหานี้จะลดลงไปได้ครับ
       วัสดุเกรด Aluminum 7000 ถ้าหากไม่เข้าใจความแข็งแรงของมันให้มองไปที่ยานอวกาศครับ ความแข็งแรงที่ทาง Apple แจ้งไว้เกรดเดียวกับวิศวกรรมด้านยานอวกาศครับ ทาง Apple บอกว่าวัสดุชิ้นนี้จะทำให้ iPhone6S นั้นไม่หักงอง่ายเหมือนแต่ก่อนแล้ว และมีน้ำหนักที่เบา
       4K VDO และ Live Photo ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่บน iPhone6S ซึ่ง 4K VDO จะเป็นการบันทึกความละเอียดของ VDO ที่ 3840 x 2160 ที่เราเรียกกันคุ้นหูว่า 4K และ Live Photo ก็จะช่วยให้เราเวลาถ่ายภาพนิ่งนั้น จะมีเสียงและการเคลื่อนไหวภายในภาพช่วงระยะเวลาสั่นๆด้วย
       กล้องทั้งหน้า และ หลังถูกอัพเกรดใหม่หมด กล้องหลังมาพร้อมความละเอียด 12 Mega Pixel พร้อมการประมวลผลภาพด้วย iSight 1.22µ ประกอบกับมีการประมวลผลร่วมจาก Software ตรงที่ช่วยปรับพื้นที่ของสีภายในภาพให้ความสว่าง และ สมจริง ส่วนกล้องหน้าถูกจัดมาใหม่เป็นแบบ 5 Mega Pixel พร้อมใช้ LED Flash ซึ่งเป็นการใช้จอภาพเป็น Flash สำหรับถ่ายภาพ จะให้ภาพที่ค่อนข้างนวลเวลาถ่ายใบหน้าของเราเอง
       CPU A9 และ GPU M9 มาพร้อม Ram ให้ใช้ 2GB ถ้วนมีการอัพเกรดจากของเดิมไปมาก เพราะสเป็คนี้ความเร็วนั้นสูงกว่า iPhone6 ถึง 70% รองรับการใช้งาน 3D หรือ App ที่เป็น 3D แบบเต็มรูปแบบเพราะการประมวลผลที่เร็วและสมบูรณ์กว่ารุ่นเดิมถึง 90%
ใช้งานจริง iPhone6S 

       สิ่งที่ผมกำลังนำเสนอต่อไปนี้ ผมจะเขียนจากสิ่งที่ผมใช้งานหลักในชีวิตประจำวัน และ การใช้งานรองลงไปในส่วนของ App ต่างๆรวมถึง Game และ กล้อง โดยที่ส่วนใหญ่ๆจะเป็นการใช้งานผ่าน 3G นะครับถ้าติดตรงไหนเพิ่มเติมรบกวนส่งมาไว้ที่คอมเม้นท์ได้เลยครับ

       หน้าตา iOS9 ใน iPhone6S ไม่ได้แตกต่างอะไรจาก iPhone6 ครับยังเหมือนเดิมทุกๆอย่าง ยกเว้น 3D Touch ครับ และ การใช้งานส่วนใหญ่ๆของ 3D Touch ก็ไม่ต่างอะไรจากการกด Shotcut บน App ที่เรากำลังจะใช้นั้นเอง

       ส่วนตัวแล้วชอบคีย์บอร์ทของ Apple มากกว่าเพราะการจัดเรียง หรือ การวางปุ่มต่างๆค่อนข้างจะมีระเบียน และ มองง่าย หรือ เป็นเพราะว่า Apple มีแค่แพทเทิ้ลเดียวมั้งเลยทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปปรับแต่ง หรือ ติดตั้งอะไรเพิ่ม เพียงแค่เลือกภาษา หรือ ใช้ Emoji เท่านั้น

       การฟังเพลงผ่าน Music ก็ยังคงรูปแบบเดิมไม่ว่าจะฟังผ่าน Apple Music หรือ เราจะ Sync ลงไปเองผ่าน iTune ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย คุณภาพเสียงปรับแต่งเหมือนเดิมผ่าน EQ ใน Setting เหมือนเดิม ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ส่วนคุณภาพเสียงไม่แตกต่างอะไรจากรุ่นก่อนๆครับ 


       การเล่นเกมส์ไม่ว่าจะ 3D หรือ 2D ทุกอย่างเล่นได้ราบรื่นมาก เพราะ CPU ใหม่และ Ram ที่ให้มากกว่าเดิมเป็น 2GB แน่นอนว่าจะเกมส์ที่ใช้พลังงานการประมวลผลสูงๆทั้ง CPU , GPU ก็รันได้สบายครับลื่นและไหลมาก ไม่มีสะดุด 


       คุณภาพกล้องใหม่ที่ทำออกมานั้นอยู่ในระดับที่ชัดเจน ไม่มี Noise ในภาพเวลากลางวัน แต่กลางคืนนั้น Noise กระจาย 55+ เพราะว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับที่จะเอา iPhone มาถ่ายรูปกลางคืนออกมาจะไม่ชัด ตรงนั้นตัดออกไปก่อน เอากลางวันถ่ายรูป
       อย่างที่ผมกล่าวไปเพราะกล้องใหม่ 12MP แถมยังมีการพัฒนา iSight อย่างที่บอกไปว่าการจับภาพ และการจัดแสงสีต่างๆ iSight ทำหน้าที่ออกมาได้สมบูรณ์ครบทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นการไล่โทรสี หรือ การจัดแสงและสีต่างๆ ดีกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งความเร็วของกล้องที่เพิ่มเข้ามาด้วย ทำให้เรากดถ่ายได้แบบไม่ต้องรอดีเลย์แต่อย่างใด  

สรุป iPhone6S , iPhone6S Plus 


       ถ้าพูดตามตรงแบบที่ผมเคยบอกกล่าวๆไปเมื่อสักกลางปีว่า Apple เป็นค่ายเดียวที่ไม่แข่งขันกับใครในด้านสเป็ค ไม่ว่าจะส่วนใดๆก็ตามแต่ ทุกส่วน Apple ตามหลัง Android อยู่ ในระดับที่เรียกว่าหลายขุมเลยทีเดียว แต่สิ่งเดียวที่ Apple เอาชนะใจสาวกทั่วโลกได้ทุกครั้งที่เปิดตัวรุ่นใหม่ๆ จะเป็นที่ระบบ iOS นั้นเองที่ชนะใจคนทั่วโลกได้สบายเพราะเป็นระบบปิดที่ทำออกมาสมบูรณ์แบบในทุกๆด้านของการทำงาน

       สิ่งแรกที่ผมอยากจะบอกผมคาดหวังกับกล้องใหม่ของ iPhone 6S ไว้มากว่าในเมื่อมันมาใหม่แบบ 12MP นี้มันจะต้องชัดกว่าเดิมแน่นอน แต่ผิดคาดครับ มันไม่ได้ชัดกว่าเดิมซะทีเดียว มันก็ชัดขึ้นมาจิดเดียว
       ด้วยอารมณ์ทางความรู้สึกที่ดูด้วยตาล้วนๆเลย ไม่ได้ต่างอะไรจาก iPhone 6 เลยดีกว่า แต่เรื่องของการจัดองค์ประกอบของสีที่ผมทำ VDO ให้ดูไปนับว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะ Apple ไม่ค่อนจะเน้นสเป็คแบบที่บอกไป
       แต่เน้นที่ใช้ยังไงให้คุ้มที่สุดมากกว่า ส่วนไอ้เรื่อง VDO 4K ที่ทำมาทั้งทีก็ยัดมา 30FPS คือแบบมันไม่ได้ต่างอะไรกับ 1080P เลยดีกว่า เพราะการรันภาพต่อ 1 เฟรมมันไม่ได้ช่วยให้ดูลื่นหรือไหลขึ้นเลย ถ้าดูใน iPhone ที่ถ่ายโอเคนะมันลื่นมันดูดี แต่ถ้าเอาไปดูกับ TV บอกเลยยังห่างกับพวก Sony , Note5 มาก

       แต่สิ่งที่ผมชอบในตัวนี้คือ ผมชอบวัสดุที่เพิ่มเข้ามาใหม่เป็น Aluminum 7000 เกรดนี้แหละครับที่ชอบมาก เพราะความแข็งแกร่งและทนของมันนี้แหละ ทำให้เครื่องมันไม่บิดงอ หรือ หักได้ง่ายๆแบบคราวที่แล้วแน่นอน แต่ยังไงก็ยังเจอปัญหาเวลานั้งทับแล้วจอแตกอยู่ดี และมีน้ำหนักที่หนักขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย แต่จับๆถือๆดูจะรู้สึกได้ทันทีครับ
พูดตรงๆละนะแบบVDO HD ชัดเจน

แบบอ่านชัดเจน
       คือแบบไอ้เรื่องกั้กสเป็คนี้เข้าใจอยู่ เพราะว่า iOS ไม่ต้องการสเป็คที่แรงโอเวอร์แบบฝั้ง Android หรอกแต่ถ้าพูดตามตรง 1 ปีออก 1 รุ่น ทำไมไม่ทำอะไรให้มันแบบ ไม่เหมือนเดิมสักทีอะ คือแบบทำมาแบบว่า 1 ปีเปลี่ยนทั้งรูปแบบ รูปร่างสเป็ค
       กล้องก็ไหนๆทำมาใหม่แล้ว ไม่เห็นอะไรที่แตกต่างเลย แล้วยัดมาทำไม 12MP ถ้างั้นเอา 8MP แบบเดิมแต่เปลี่ยน iSight เป็นตัวนี้แทนได้มั้ยละ8MP ประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลยเวลาถ่ายรูปเยอะๆ เพราะคุณภาพรูปแทบไม่ต่างกัน Noise ยังกระจ่ายเลย
       แถมด้วยว่าถ่ายกลางคืนหลายค่ายเขาทำกันออกมาเยอะแล้ว iPhone ยังไม่เห็นทำไรมาสู้เลย VDO 4K เอาเข้าจริงๆก็ถ่ายได้ดูชัดดูดีใน iPhone ที่ถ่ายนั้นแหละ พอเอามาลง Youtube หรือ ดูใน PC โหคุณภาพยังกับ 1080P เลยไม่ต่างอะไรเลยดีกว่า 
       ที่สำคัญ เรื่องความเร็ว ความแรงอันนี้ยอมรับว่าจริงเห็นผลทันตามากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Multitask ที่สลับได้ไวมาก แถมไม่ต้องรอโหลดใน App ที่กลับเข้าไปใหม่อีกรอบด้วย ชอบตรงนี้มาก และ ที่ชอบมากอีกอันคือ 3D Touch ตรงนี้ออกแรงกด เพื่อเข้าทางลัดใน App ไม่ต้องไปเสียเวลากดใน App นั้นอีก แต่ก็ยังไม่รองรับทุก App ต้องรอการอัพเดทใหม่ในอนาคตอีกถึงจะได้ทุก App รวมๆนอกนั้นโอเคหมด ติดแค่เรื่องที่บ่นไปข้างบนเท่านั้น
       ถ้าถามความคุ้มค่า ถ้าจะเปลี่ยนจาก iPhone 6 ไป iPhone 6S ผมบอกตรงๆส่วนตัวถ้าชอบ Apple จริงเปลี่ยนได้เลยเพราะลูกเล่นโอเค และ อย่างอื่นดีขึ้นจริงๆ ถ้าหากไม่ได้ชอบจริงๆ หรือ ยัง
       ไม่สะดุดตาอะไรเท่าไร ก็อย่าเพิ่งเปลี่ยนรอ ไปรอปีหน้าที่ iPhone 7 ออกมาก็ยังไม่สาย เพราะน่าจะแก้ไขอะไรหรือเพิ่มอะไรมาเยอะกว่าตอนนี้แน่นอน เพียงแต่ตอนนี้เหมือนเอา iPhone 6 มาเพิ่มฟังชั่นเท่านั้นเอง
คะแนนถ้าให้รวมๆ 8.5/10 คะแนนครับ โดยเหตุผลตามนี้
ความคุ้มค่า : 27400 บาท สำหรับ iPhone 6S Plus เอาไป 8/10 คะแนน
ฟังชั่นการทำงาน : สำหรับ iPhone 6S Plus เอาไป 8.5/10 คะแนน
กล้อง : สำหรับ iPhone 6S Plus 8/10 คะแนน เสียง : สำหรับ iPhone 6S Plus  8/10 คะแนน
วัสดุ : สำหรับ iPhone 6S Plus 9/10 คะแนน


       สำหรับคนที่คิดว่าจะกำลังจะหาซื้อ iPhone 6S  iPhone 6S Plus ผมมีข่าวข้างในรายงานมาอีกทีนึงว่า เดือน ตุลาคมช่วงกลางๆเดือนจะมีการเปิดจองผ่านหน้าเว็ปของ Apple และจะมีผู้ให้บริการเครือข่ายค่ายสีส้มรายใหญ่ของไทยเปิดให้จองพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน และ รับเครื่องล็อตแรกภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป
       แต่ถ้าหากจองไม่ทัน จะมีการเปิด Walk in เข้าไปซื้อที่ iStudio ช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป ข่าวลื่อผมไม่ต้องเชื่อก็ได้ครับ แต่ไม่ค่อยจะมั่ว

เขียนโดย: Werapat Kumud

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

3 เหตุผลที่ทำให้ iPad mini 4 เป็น iPad ที่น่าซื้อ! น่าเสียเงิน! มากที่สุด!

       หลายคนอาจ จะกำลังรอโอกาสซื้อแท็บเล็ตซักเครื่องเพื่อที่จะนำมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิงรวมไปถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งต้องยิมรับว่าถ้าจะซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานซักเครื่องนั้น ต้องนึกถึง iPad เป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน แต่จะซื้อ iPad รุ่นไหนนั้นคงต้องดูอีกทีว่าลักษณะการใช้งานของเราเป็นอย่างไร ถึงจะมาดูกันว่า iPad Air หรือ iPad mini ที่ตอบโจทย์ แล้วจะซื้อรุ่นใหม่ล่าสุด หรือที่ตกรุ่นไปแล้วนั้นก็ต้องมาดูงบประมาณกันอีกทีหนึ่ง
images_14418709182

สเปก iPad mini 4

  • หน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว แบบ Retina Display
  • ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล (326 ppi)
  • ชิปประมวลผล Apple A8 แบบ 64-bit พร้อมชิปเซ็ต Apple M8 ชิปประมวลผลร่วม
  • หน่วยความจำแรมขนาด 2GB
  • Touch ID รองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/2.2
  • กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/2.4
  • รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
  • รองรับ Wi‑Fi (802.11a/b/g/n/ac) และ MIMO
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 9
       โดยล่าสุดอย่างที่เราทราบกันไปแล้วว่า iPad Air 3 ยังไม่ออก และ iPad Pro ก็อาจจะเกินตัวไปหน่อย (ทั้งขนาดหน้าจอและราคา) ทำให้ iPad mini 4 ที่เป็น iPad mini รุ่นใหม่ซึ่งเพิ่งวางขายกันไปนั้น มีความน่าสนใจกันอยู่ไม่น้อยเลย จากสเปกที่อัพเดทล่าสุดแล้วให้ความแรงพอๆ กับ iPhone 6 อีกทั้งยังมาพร้อมแรม 2GB และราคาก็เป็นมิตรด้วยที่ 13,400 บาทเท่านั้น สำหรับรุ่น 16GB ในบทความนี้เราเลยจะมาให้เหตุผลกันเสียหน่อย
images_14418706943

1. เพราะ iPad mini 4 เป็น iPad ของ Apple

       ด้วยความที่เป็น iPad แน่นอนว่าระบบปฏิบัติการต้องเป็น iOS ที่ทุกคนไว้ใจในเรื่องของประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล และมีความสเถียรสูง เรียกได้ว่าไม่มีอาการค้างหรืออึดให้เห็นกันง่ายๆ รวมไปถึงยังมาพร้อมกับ App Store ที่เต็มอิ่มไปด้วยแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีคุณภาพ ผ่านการคัดสรรจากทาง Apple มาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งถ้าใครใช้งาน iPad กับแท็บเล็ตที่เป็น Android แล้ว ก็คงพอทราบกันบ้างว่า แอพพลิเคชั่นมีเหมือนกันก็จริง แต่ให้อารมณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน

2. หน้าจอใหญ่ สเปกแรง แต่ราคาถูกกว่า

       สำหรับหลายๆ คนที่อยากได้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS ในขนาดที่พอพกพาไปได้ในขนาดที่หน้าจอไม่เล็กจนเกินไป นาทีนี้คงต้องนึกถึง iPhone 6 Plus ซึ่งแน่นอนล่ะ มันเป็นอุปกรณ์ที่ดีแต่มีราคาที่สูง ฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเราใช้งาน iPad mini ซึ่งที่ผ่านมา iPad mini 3 อาจจะยังไม่ตอบความต้องการของใครหลายคนที่สเปกไม่ค่อยแรงนัก อย่างไรก็ตามคราวนี้กับ iPad mini 4 มาพร้อมสเปกใหม่ แถมมาในราคาที่ถูกกว่า iPhone 6 Plus เยอะด้วย

3. สเปกครบเครื่อง ราคาคุ้มค่า

       อย่างที่กล่าวไปแล้วตั้งแต่ต้นว่า iPad mini 4 รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมานี้ Apple จัดเต็มจริงๆ ในส่วนของสเปก ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A8 และ M8 เหมือนอย่างที่ใช้บน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ส่งผลให้เวลาที่เราไปใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมไปถึงเล่นเกมที่กราฟิกสวยๆ ก็ตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี แน่นอนทั้งกล้องหรืออะไรต่างๆ ก็ดีขึ้น ส่วนที่ดีอยู่แล้วอย่าง Touch ID ก็คงดีเช่นเดิม สำคัญสุดคือราคาเริ่มต้น ที่ 13,400 บาทเท่านั้น ทำให้เราจับต้องกันง่ายยิ่งขึ้น
Screen Shot 2558-09-22 at 09.38.43
       เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 3 เหตุผลให้หาเรื่องเสียเงิน เวลาไปซื้อ iPad mini 4 จะได้อ้างได้ง่ายๆ ว่ามันดีขึ้นอย่างงั้นอย่างงี้ หวังว่าคงเป็นตัวช่วยได้ไม่มากก็น้อยล่ะ ส่วนใครเล็งๆ ว่าจะซื้ออยู่แล้ว และไม่ติดปัญหาอะไร ก็รอจัดได้เลย เรียกได้ว่าเป็น iPad mini ที่น่าซื้อที่สุดตั้งแต่มี iPad mini มาก็ว่าได้เลย
       iPad mini 4 มีให้เลือก 3 ขนาดความจุด้วยกัน ได้แก่ 16GB, 64GB และ 128GB พร้อม 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีเงิน, สีทอง และสีเทา Space Gray โดยราคาของแต่ละรุ่น เป็นดังนี้
  • iPad mini 4 16 GB Wi-Fi ราคา 13,400 บาท
  • iPad mini 4 64 GB Wi-Fi ราคา 16,900 บาท
  • iPad mini 4 128 GB Wi-Fi ราคา 20,400 บาท
  • iPad mini 4 16 GB Wi-Fi + Cellular ราคา $529
  • iPad mini 4 64 GB Wi-Fi + Cellular ราคา $629
  • iPad mini 4 128 GB Wi-Fi + Cellular ราคา $729
       ส่วนวันวางจำหน่าย คงต้องรอ Apple แจ้งอีกครั้งครับ ซึ่งน่าจะพร้อมบอกราคาของตัว Wi-Fi + Cellular ด้วย

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

ถ้ายังไม่อยากหงุดหงิด ก็อย่าพึ่งคิดอัพ iOS 9

      หลังจาก Apple ปล่อยอัพเดต OS บน iDevice ทั้งหลายอย่าง iOS 9 นั้นทำให้หลายคนบอกว่ามันควรจะติดตั้งกับเครื่องทันที จนแย่งกันทำให้นอกจาก Server จะล่มแล้ว ยังมีปัญหากวนใจตามมาอีกจนหงุดหงิดกันไปตาม ๆ กัน และทำไมถึงต้องบอกว่า ถ้าไม่อยากหงุดหงิด อย่าพึ่ง  เพราะอะไร Sanook! Hitech รวบรวมมาบอกเล่าให้ฟันกันในบทความนี้
OS ใหม่กับปัญหาที่แอบซ่อนอยู่
      ถ้าใครเคยเห็นนักพัฒนาทำงาน และปล่อยของออกมาเร็วตามกำหนด คุณอย่าพึ่งคิดว่ามันจะดีที่สุด เพราะบางครั้งการปล่อยออกมาแล้วคิดว่ามัน OK สุด อาจจะมีปัญหาตามมา เช่นเดียวกับ iOS 9 ที่ปัญหาหลัก ๆ ที่เจอนั้น ส่วนมากจะเกิดในเรื่องการใส่รหัสผ่านที่มีอาการช้าโดยประมาณ, รวมถึง Apps ที่ยังไม่เสถียรกับระบบปฏิบัติการนี้ ซึ่งคุณใช้ไปอาจจะหลุดออกเองได้ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้านึกภาพไม่ออกแล้ว ต้องย้อนไปช่วยการอัพเดต iOS 6 มา 7 ครั้งนั้นผมว่าเลวร้ายที่สุดครับ ส่วนอุปกรณ์ที่ควรโหลดนั้นผมมองว่า iPhone 6 ขึ้นไปยังไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าต่ำกว่า iPhone 6 อาจจะมีปัญหามากกว่านั้น
อีกไม่นานก็ออก iOS 9.1 ที่เสถียรกว่าแน่นอน
     หลังจากที่ iOS9 ออกแค่ไม่กี่วัน ยังมีข่าวของการพัฒนา iOS9.1 ออกตามมาค่อนข้างติด ๆ เหมือนจะรู้โดยทันทีว่าจะต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นกับระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด หรือไม่ก็ยังใส่ของเล่นที่ไม่ครบ หรือแก้ปัญหาความเสถียรของ Apps ที่เปิดให้โหลดก็เป็นได้
บางคนโหลดยังใช้เวลาหลายชั่วโมง
     เป็นกระแสที่เกิดบนโลกออนไลน์อย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ใช้ iPhone หรือ iPad ทั้งหลายที่มีการอัพเดตนานหลายชั่วโมง บางก็ 10 ชั่วโมงขึ้นไป บ้างก็ 7 ชั่วโมง (ส่วนตัวผู้เขียนโดนนานสุด 8 ชั่วโมงครึ่ง ใน iPod Touch) ถือว่านานกว่าอัพเดตของมือถือยี่ห้ออื่น ๆ ซะอีก แต่ถ้ามันหยุดโหลดไปดื้อ ๆ แล้วถ้าคุณพยายามติดมัน อาจจะเกิดความเสียหายได้มากกว่า
     ฉะนั้นแล้วบางครั้งการอัพเดต OS ใหม่กับบางอุปกรณ์ก็ยังไม่มีความจำเป็นในตอนนี้ มันแค่เรียกกระแสว่ามีของใหม่และได้ใช้งานจริงมากกว่า สุดท้ายขึ้นอยู่กับตัวคุณว่าต้องการ OS ใหม่เร็วมากน้อยแค่ไหนครับ แต่ถ้าเป็นผมเอง ขอดูไปสักเดือนนึงก่อนดีกว่าแล้วค่อยติดตั้งลงครับ

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558

รวมสิ่งที่คาดว่าคุณจะพบใน iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ที่กำลังจะเปิดตัว

     สำหรับบทความนี้อาจจะเอาใจคนที่สนใจไอโฟนรุ่นใหม่ทั้งหลาย ซึ่งเราจะรวบรวมสิ่งที่ใหม่จริง ๆ ใน iPhone 6s ที่ตื่นเต้น และน่าใช้กันสุดยอดบ้าง หมายเหตุ!! สิ่งเหล่านี้เป็นการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลและนำมาเขียนวิเคราะห์และใส่ความเห็นของผู้เขียนลงไป ยังไม่ใช่กันฟันธง 100% ฉะนั้น อ่านแล้วคิดพิจารณาเองก่อนลงความเห็นนะครับ
1.จอละเอียดขึ้น
     ต้องเข้าใจว่า iPhone 6s จะเป็นรุ่นการพัฒนาขึ้นจาก iPhone 6 เดิม ฉะนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและขนาดหน้าจอได้ แต่ความละเอียดที่มากกว่าเดิม โดย iPhone 6s จะมีความละเอียดที่มากกว่าเดิมอยู่ประมาณ 30% ฉะนั้น ถ้าเรามองที่จอของ iPhone 6s จะละเอียดขึ้นและแสดงผลภาพสวยงามใช้ได้เลยทีเดียว ถ้าเป็น iPhone 6s Plus ก็จะมากขึ้นไปอีก แต่ยังไม่เท่า Android รุ่นใหม่ในระดับ 2K นะครับ ความเป็นไปได้ที่ผมให้ 80% ล่ะกัน

2.CPU ใหม่และแรงขึ้น
     ของใหม่ต้องแรงขึ้นเป็นธรรมดา จากแหล่งข่าวที่พึ่งหลุดมาพูดถึงเรื่องสเปคเครื่องว่าจะมีการใช้ CPU A9 ใหม่ที่มีความแรง 1.8 GHz แรงกว่าเดิมแน่นอน และไม่ต้องพูดถึงการทดสอบ Benchmark ว่าจะได้เท่าไหร่ เอาเป็นว่ายังไงก็ไหลไปดีขึ้นล่ะกัน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการกินไฟนี่แหล่ะ แม้ว่าจะใช้สถาปัตยกรรม 14 นาโนเมตรก็ตาม ความเป็นไปได้ ความเป็นได้ที่ผมให้มาเต็มที่ 80% เท่ากับข้างบน

3.RAM มากขึ้น
     แน่นอนว่าผมก็เป็นอีกคนที่บ่นว่า RAM ของ iPhone 6 น้อยไปเพราะให้มาเพียง 1GB เท่านั้น Apple คงฟังเสียงบ่นแล้ว ผลคือไอโฟนใหม่อย่าง iPhone 6s จะเพิ่ม RAM เป็น 2GB นั่นเอง ฉะนั้นการเปิดโปรแกรมค้างไว้บ่อย หรือจะเล่นเกมแล้วกลัวลื่นไม่พอ หมดห่วงนะครับ ความเป็นไปได้ผมให้ 77% ล่ะกัน

4.กล้องชัดขึ้น
     iPhone รุ่นเดิมเป็นมีกล้องหน้าและหลังที่เรียกว่า ล้าหลังจากคู่แข่งมาพอสมควร ฉะนั้นการเพิ่มความละเอียดกล้องนั้นจึงต้องเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอน โดยเพิ่มกล้องหน้าที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล และถ่ายวีดีโอได้ระดับ 4K แม้ว่าพิกเซลจะเพิ่ม แต่จะคมชัดหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไป ความเป็นไปได้ คาดว่า 70% (เผื่อใจไว้ก่อน)

5. Body แข็งแรงขึ้น
     ปัญหาของ iPhone 6 ที่ออกมาและเป็นคนที่ต้องบ่นมากมายคือ เครื่องงอง่าย (อาจจะเพราะนั่งกดทับมา) ฉะนั้นแล้ว iPhone 6s และ iPhone 6s Plus จะเปลี่ยนวัสดุข้างหลังเป็นอลุมิเนียม เกรด 7,000 ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับ Samsung Galaxy Note 5 ที่แข็งแรงกว่าเดิม แต่ตกยังไงก็บุบอยู่ดีขึ้นอยู่กับมุม แน่นอนว่าการเพิ่มเกรดอลุมิเนียม ฉะนั้นความหนาจะเพิ่มขึ้น ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ แต่ความเห็นผมแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ได้เสียหายสกเท่าไหร่ เพราะความหนาของมันจะเพิ่มระดับ 0.x มิลลิเมตร มันไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่ครับ

6.สีชมพู สุดมุ้งมิ้ง
     หลุดมาแล้วมากมายสำหรับประเด็นสีชมพู Pink Gold ที่สวยงามมากมาย แต่ด้วยภาพที่หลุดออกมามันก็มีความเป็นไปได้อยู่บ้าง และมันก็เอาใจผู้หญิงพอสมควรเพราะสีที่มุ้งมิ๊งมากมาย ความเป็นไปได้ผมว่า 90% ล่ะกัน


7.จอ Force Touch
     เป็นเทคโนโลยีที่ Apple เหมือนจะตั้งใจให้ออกมาเพราะว่า หน้าจอ Force Touch ซึ่งเป็นจอที่ต้องใช้แรงกดในการสั่งงานที่แตกต่างจากเดิม หรือเรียกได้ว่าจอจะรู้ถึงแรงกดระดับเท่าไหร่ได้เช่นกัน ซึ่งเทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นแล้วกับ Apple Watch และ Huawei Mate S ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่จะใช้งานกับฟังก์ชั่นอะไรนั้น ต้องรอดูต่อไป ผมว่าต้องใส่มาเลยเพราะว่ามันเด็ดพอสมควรเลย ส่วนนี้ความเป็นไปได้สัก 75%

8.iOS 9
     เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาออกมาบอกว่าใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่า และมีลูกเล่นใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น Multi Tasking, Keyboard ที่สามารถตั้งค่า Shortcut ใช้งานได้ง่ายขึ้น, และอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้มันดูน่าใช้กว่าเดิม แน่นอนว่า มันจะมาใส่กับ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus อย่างแน่นอน ความเป็นไปได้ 98%

9.ราคาในไทยที่ต่างจากเดิม
     เมื่อเป็นของใหม่มา ยังไงก็ราคาแพงขึ้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งยังไงซะราคาก็คาดว่ามากกว่าเดิมอยู่ดี แต่มากกว่าระดับไหน ต้องรอดูว่าแต่ละผู้ให้บริการนั้นจะตั้งราคาที่เท่าไหร่กันต่อไป และโปรโมชั่นคงไม่บอกดีกว่า ความเป็นไปได้ 95%

10.รังสีเปล่งประกายเพราะความสดใหม่ของมัน
     ข้อสุดท้ายนี้ ทำไมถึงต้องเป็นรังสีเปล่งประกายเพราะมันใหม่ และสร้างความอิจฉาริษยากับคนที่ใช้รุ่นเดิมได้พอสมควร แต่ถ้าคนที่ไม่ได้เกิดอาการดังกล่าวคงเป็นเพราะ ต้องการรอไอโฟนรุ่นต่อไป ... ก็เป็นได้ ความเป็นไปได้เอาไปเลย 100% เลย
     สุดท้ายนี้ นี่คือความคิดเห็นและการคาดคะเนและความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง แต่อย่างไรก็ดี คงไม่มีสิ่งใดที่หยุดความใหม่ล่าสุดของ iPhone 6s หรือ iPhone 6s Plus ใหม่ได้ นอกจาก เงินและความต้องการของคุณเอง แต่ส่วนตัวผู้เขียนนั้น ขอรอดูรุ่นหน้าไปก่อนจนกว่าไอโฟนเดิมจะพังก่อนวัยอันควรก็แล้วกัน ที่เหลือนั้นก็รอดูว่าสิ่งที่เผยนั้นเป็นจริงหรือไม่ในคืนวันที่ 9 กันยายนนี้

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558

คาดการณ์ราคา iPhone 6s ในไทยเริ่มต้น 24,900 บาท

       หลังจากมีรายงานเกี่ยวกับราคา iPhone 6s และ iPhone 6s Plus จากฝั่งยุโรปที่มีราคาเท่ากับตอนเปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จึงมีความเป็นไปได้ว่าราคา iPhone รุ่นใหม่ในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยจะเท่าเดิม
iPhone 6s Price in Thailand
       แม้ว่า iPhone รุ่นใหม่หรือ iPhone 6s จะยังไม่เปิดตัว แต่สำหรับราคานั้นคาดว่าเท่าเดิมกับ iPhone ด้วยดีไซน์ต่าง ๆ ซึ่งตามข่าวก่อนหน้านี้ต่างก็ให้ข้อมูลว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก แต่จะมีการปรับสเปคในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานและกล้องถ่ายรูปให้ดีกว่า เดิม
       หากราคา iPhone 6s มีราคาเท่าเดิม ก็จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 24,900 บาทในรุ่นความจุ 16GB ซึ่งเป็นราคาบน Apple Online Store ส่วน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ก็จะปรับราคาลงมาตามลำดับ
iPhone 6 and iPhone 6 Plus Prices in Thailand
       เมื่อย้อนกลับดูราคา iPhone 6 เทียบกับ iPhone 5s แล้วก็พบว่า iPhone 6 เปิดราคาสูงกว่าเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ทั้งวัสดุ ดีไซน์ ขนาดตัวเครื่อง และสเปค แต่สำหรับ iPhone 6s แล้วยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิม และขนาดก็น่าจะใกล้เคียง iPhone 6 ตามที่มีข่าวออกมาขณะนี้
       อย่างไรก็ตาม ราคาดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์ล่วงหน้าและความเป็นไปได้เท่านั้น ส่วนข้อมูลและราคาอย่างเป็นทางการต้องรอติดตามดูกันต่อไปครับ
สนับสนุนเนื้อหา: www.iphone-droid.net
ติดตาม ข้อมูลข่าวสารไอทีได้ที่นี่: http://hitech.sanook.com/

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

มาทำความรู้จักกับ iPhone 6s ก่อนเปิดตัวกันเถอะ!!

iPhone 6s ออกแบบมาเหมือนกับ iPhone 6 เลยเพียงแต่เพิ่มความหนาขึ้นมานิดนึง

        ถึงแม้ จะมีข่าวลือออกมาว่า iPhone 6S (ไอโฟน 6S) จะมีดีไซน์เหมือนกับ iPhone 6 ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่า อาจจะมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย เมื่อข่าวลือล่าสุด เผยว่า iPhone 6S จะหนาขึ้น จากเดิม 6.9 มิลลิเมตร เป็น 7.1 มิลลิเมตร ส่วนสาเหตุที่ทำให้ iPhone 6S หนาขึ้น เป็นเพราะเทคโนโลยี Force Touch นั่นเอง
        นอกจาก iPhone 6S จะมีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของ ชิปเซ็ต และกล้องด้านหลังแล้ว แหล่งข่าวยังเผยอีกว่า เทคโนโลยี Force Touch ถือว่า เป็นการเปลียนแปลงที่ใหญ่ที่สุดบนรุ่นนี้ แต่ก็ส่งผลให้ตัวเครื่องหนาขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนดีไซน์อื่นๆ ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
โดยเทคโนโลยี Force Touch นั้น จะช่วยทำให้สามารถแยกแยะแรงกดบนหน้าจอได้มากขึ้น ซึ่งถูกนำไปใช้บน Apple Watch แล้วนั่นเอง
สำหรับกำหนดการเปิดตัว iPhone 6S คาดว่า เป็นวันที่ 6 กันยายนนี้
ที่มา : cultofmac.com

ใช้บอดี้อะลูมิเนียมเกรด 7000 แบบเดียวกับ Apple Watch Sport รับประกันความแข็งแรง ไม่งอ

        ล่าสุด ทาง Economic Daily News จากประเทศไต้หวัน เผยว่า iPhone 6S และ iPhone 6S Plus จะเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตบอดี้ใหม่ เป็น อะลูมิเนียมอัลลอยด์เกรด 7000 ที่ใช้บน Apple Watch Sport ซึ่งมีความแข็งแรงกว่า อะลูมิเนียมทั่วๆ ไปถึง 60%
สำหรับสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ แอปเปิล ต้องเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตบอดี้ใหม่ เป็นเพราะว่า iPhone 6 นั้น เจอกระแส #bendgate หรือตัวเครื่องโค้งงอนั่นเอง ทำให้แอปเปิล หาวิธีที่จะเปลี่ยนบอดี้ใหม่ อย่างไรก็ดี แม้ว่า อะลูมิเนียมอัลลอยด์ จะมีความแข็งแกร่งไม่เท่า Stainless Steel แต่ก็มีน้ำหนักเบา, สามารถขึ้นรูปได้หลายสี และไม่มีผลกระทบต่อตัวรับสัญญาณในตัวเครื่องอีกด้วย
ส่วนข้อมูลนี้ จะเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน ต้องติดตามกันต่อไปนะคร้าบบบ
ที่มา : macrumors.com

        และสุดท้ายนี้ในส่วนของแบตเตอรี่ทาง Apple เค้าจะให้มาที่ความจุ 1715 mAh นะครับก็คิดว่าน่าจะพอใช้ได้ให้เกือบครบวันล่ะเนอะ อิอิ (ปกติเท่าที่ผมใช้อยู่ตอนนี้จะเป็น Note 4 ซึ่งแบตก็ถือว่าอึดพอสมควรเลยนะ ถ้าเล่นบ้างนิดหน่อย เรื่อยๆ โซเชียลบ้าง อ่านนิยายบ้าง ก็พอดีสำหรับช่วงกลางวันทั้งวันอ่านะ แต่ถ้าเล่นเกมส์หนักๆ ก็ไม่มีเครื่องไหนหรอกที่จะอยู่รอดทั้งวัน มันขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานทั้งนั้นแหละครับ!!)

        ปล. ปกติแล้วไอโฟนรุ่นใหม่จะออกรุ่นหลักมา จากนั้นรุ่นต่อไปจะตามด้วยรุ่นหลักแล้วเติม "S" เข้าไปต่อท้ายนะครับ เห็นมีคนเรียกผิดกันเยอะแยะเลย กลายเป็นว่าเรียกข้ามรุ่นไปยกตัวอย่างเช่นเมื่อปีที่แล้วทาง apple ออกไอโฟนใหม่มาโดยใช้ชื่อว่า iPhone 6 และ iPhone 6 plus ดังนั้นรุ่นที่จะออกในปีนี้ก็จะใช้ชื่อว่า iPhone 6s และ iPhone 6s plus นั่นเองจ้า ไม่ใช่ iPhone 7 นะฮะ ^^

ติดตาม ข่าวสารไอทีต่างๆ จากทางเราได้ที่: http://hitech.sanook.com/

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

ชมภาพเรนเดอร์ iPhone 6S สีชมพู Rose Gold สวยล้ำ น่าใช้

หลังจากที่มี "ข่าวลือ" ออกมาว่า iPhone 6S (ไอโฟน 6S) จะมาพร้อมกับสีใหม่ นั่นก็คือ สีชมพู Rose Gold นั้น ล่าสุด Martin Hajek นักออกแบบชื่อดัง ก็ไม่รอช้า เผยภาพเรนเดอร์  Rose Gold ออกมาให้ชมกันแล้ว
โดยสีทองชมพู Rose Gold นั้น เป็นสีหนึ่งที่อยู่บน Apple Watch Edition รุ่นแพงที่สุดของ Apple Watch นั่นเอง ซึ่งทาง Martin Hajek นักออกแบบคนดัง คาดว่า ถ้าหาก iPhone 6S มีสีชมพูตามข่าวลือจริง ก็น่าจะมีสีสันประมาณนี้ ซึ่งหลังจากทำภาพเรนเดอร์ออกมาแล้ว ต้องบอกเลยว่า สวยและน่าใช้มากเลยทีเดียว
งานนี้ คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า แอปเปิล จะเปิดตัว iPhone 6S สีชมพู Rose Gold ตามข่าวลือหรือไม่ -cultofmac.com
ลือล่าสุด iPhone 6S (ไอโฟน 6S) จะมีสีชมพูให้เลือกด้วย
ยังคงมีข่าวอัพเดทอย่างต่อเนื่อง สำหรับ iPhone 6S (ไอโฟน 6S) ที่นอกจากจะอัพเกรดตัวเครื่องให้แรงขึ้น ด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB พร้อมกับหน้าจอสัมผัสแบบใหม่แล้ว ล่าสุด ทาง Wall Street Journal เผยว่า iPhone 6S จะมีสีชมพูให้เลือกเพิ่มอีก 1 สี

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1395329/