ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ iPad mini 4 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ iPad mini 4 แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

iPad mini 4 เปิดราคาในไทยอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นที่ 13,400 บาท พร้อมวางจำหน่ายเร็วๆนี้

       หลังจาก Apple จัดงานเปิดตัวขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา (วันที่ 10 กันยายนตามเวลาในประเทศไทย) ก็มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่อัปเกรดประสิทธิภาพให้ผู้บริโภคฮือฮากันอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นสมาร์ท โฟนยอดนิยมอย่าง iPhone 6s และ iPhone 6s Plus หรือ iPad Pro แท็บเล็ตจอยักษ์ที่มาพร้อมกับ Apple Pencil และ RAM 4GB ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น
       แต่ว่ายังมีอีกหนึ่งแท็บเล็ตรุ่นเล็กอย่าง iPad mini 4 ที่เปิดตัวไปแบบเงียบๆ แต่กระแสตอบรับก็ค่อนข้างดีไม่ใช่น้อย โดยแท็บเล็ตรุ่นดังกล่าวปรับปรุงประสิทธิด้านการประมวลผล และการทำงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผล 64-bit Apple A8 ความเร็วในการประมวลผล 1.5GHz และหน่วยความจำแรม (RAM) ที่เพิ่มขนาดขึ้นมาเป็น 2GB จากเดิมมีเพียงแค่ 1GB เท่านั้น

       ล่าสุดทางเว็บไซต์ Apple Thailand ก็ได้ประกาศราคาวางจำหน่าย iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีให้เลือก 3 สี คือ สีทอง, สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ โดยมีราคาดังต่อไปนี้

-   ความจุ 16GB Wi-Fi ราคา 13,400 บาท
-  iPad mini 4 ความจุ 64GB Wi-Fi ราคา 16,900 บาท
-  iPad mini 4 ความจุ 128GB Wi-Fi ราคา 20,400 บาท
       ราคาของ iPad mini 4 ที่ประกาศออกมานี้เป็นราคาเดียวกันกับที่ใช้ในตอนเปิดตัว iPad mini 2 และiPad mini 3 รุ่น Wi-Fi และแน่นอนว่าเมื่อมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เข้ามาวางจำหน่าย Apple ก็มักจะปรับราคาของผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าลดลง โดย iPad mini 2 และ iPad mini 3 ก็ได้ปรับราคาลงแล้ว ดังนี้

-  iPad mini 2 Wi-Fi 16GB  ปรับราคาลงเหลือ 9,900 บาท (ราคาเดิม 10,400 บาท) (ราคาเปิดตัว 13,400 บาท)
-  iPad mini 2 Wi-Fi 32GB  ปรับราคาลงเหลือ 11,700 บาท (ราคาเพิม 12,200 บาท) (ราคาเปิดตัว 16,900 บาท)

-  iPad mini 2 Wi-Fi+Cellular 16GB ปรับราคาลงเหลือ 14,400 บาท (ราคาเดิม 14,900 บาท)
-  iPad mini 2 Wi-Fi+Cellular 32GB ปรับราคาลงเหลือ 16,200 บาท (ราคาเดิม 16,700 บาท)

-  iPad mini 3 Wi-Fi 16GB ปรับราคาลงเหลือ 11,600 บาท (ราคาเดิม 13,400 บาท) (ราคาเปิดตัว 13,400 บาท)
-  iPad mini 3 Wi-Fi 64GB ปรับราคาลงเหลือ 14,400 บาท (ราคาเดิม 16,900 บาท) (ราคาเปิดตัว 16,900 บาท)
-  iPad mini 3 Wi-Fi 128GB ปรับราคาลงเหลือ 17,900 บาท (ราคาเดิม 20,400 บาท) (ราคาเปิดตัว 20,400 บาท)

-  iPad mini 3 Wi-Fi+Cellular 16GB ปรับราคาลงเหลือ 16,100 บาท (ราคาเดิม 17,900 บาท)
-  iPad mini 3 Wi-Fi+Cellular 64GB ปรับราคาลงเหลือ 18,900 บาท (ราคาเดิม 21,400 บาท)
-  iPad mini 3 Wi-Fi+Cellular 128GB ปรับราคาลงเหลือ 22,400 บาท (ราคาเดิม 24,900 บาท)

ก่อนหน้านี้มีผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ iPad mini 4 เผยแพร่ออกมาด้วยว่า iPad mini 4 มีประสิทธิภาพเป็นรองเพียง iPad Air 2 เท่านั้น อีกทั้งยังมีความเร็ว และแรงกว่า iPhone 6 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย (รายละเอียดเพิ่มเติม - คลิก)

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ทาง Apple ประกาศราคาออกมาเฉพาะรุ่น Wi-Fi เท่านั้น ส่วน iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi+Cellular อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และขออนุญาตจาก กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) อีกทั้งกำหนดการวางจำหน่ายในประเทศไทยก็ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม ทางทีมงานจะรีบนำมาอัปเดตให้ทราบทันที

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

3 เหตุผลที่ทำให้ iPad mini 4 เป็น iPad ที่น่าซื้อ! น่าเสียเงิน! มากที่สุด!

       หลายคนอาจ จะกำลังรอโอกาสซื้อแท็บเล็ตซักเครื่องเพื่อที่จะนำมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิงรวมไปถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งต้องยิมรับว่าถ้าจะซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานซักเครื่องนั้น ต้องนึกถึง iPad เป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน แต่จะซื้อ iPad รุ่นไหนนั้นคงต้องดูอีกทีว่าลักษณะการใช้งานของเราเป็นอย่างไร ถึงจะมาดูกันว่า iPad Air หรือ iPad mini ที่ตอบโจทย์ แล้วจะซื้อรุ่นใหม่ล่าสุด หรือที่ตกรุ่นไปแล้วนั้นก็ต้องมาดูงบประมาณกันอีกทีหนึ่ง
images_14418709182

สเปก iPad mini 4

  • หน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว แบบ Retina Display
  • ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล (326 ppi)
  • ชิปประมวลผล Apple A8 แบบ 64-bit พร้อมชิปเซ็ต Apple M8 ชิปประมวลผลร่วม
  • หน่วยความจำแรมขนาด 2GB
  • Touch ID รองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/2.2
  • กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/2.4
  • รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
  • รองรับ Wi‑Fi (802.11a/b/g/n/ac) และ MIMO
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 9
       โดยล่าสุดอย่างที่เราทราบกันไปแล้วว่า iPad Air 3 ยังไม่ออก และ iPad Pro ก็อาจจะเกินตัวไปหน่อย (ทั้งขนาดหน้าจอและราคา) ทำให้ iPad mini 4 ที่เป็น iPad mini รุ่นใหม่ซึ่งเพิ่งวางขายกันไปนั้น มีความน่าสนใจกันอยู่ไม่น้อยเลย จากสเปกที่อัพเดทล่าสุดแล้วให้ความแรงพอๆ กับ iPhone 6 อีกทั้งยังมาพร้อมแรม 2GB และราคาก็เป็นมิตรด้วยที่ 13,400 บาทเท่านั้น สำหรับรุ่น 16GB ในบทความนี้เราเลยจะมาให้เหตุผลกันเสียหน่อย
images_14418706943

1. เพราะ iPad mini 4 เป็น iPad ของ Apple

       ด้วยความที่เป็น iPad แน่นอนว่าระบบปฏิบัติการต้องเป็น iOS ที่ทุกคนไว้ใจในเรื่องของประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล และมีความสเถียรสูง เรียกได้ว่าไม่มีอาการค้างหรืออึดให้เห็นกันง่ายๆ รวมไปถึงยังมาพร้อมกับ App Store ที่เต็มอิ่มไปด้วยแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีคุณภาพ ผ่านการคัดสรรจากทาง Apple มาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งถ้าใครใช้งาน iPad กับแท็บเล็ตที่เป็น Android แล้ว ก็คงพอทราบกันบ้างว่า แอพพลิเคชั่นมีเหมือนกันก็จริง แต่ให้อารมณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน

2. หน้าจอใหญ่ สเปกแรง แต่ราคาถูกกว่า

       สำหรับหลายๆ คนที่อยากได้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS ในขนาดที่พอพกพาไปได้ในขนาดที่หน้าจอไม่เล็กจนเกินไป นาทีนี้คงต้องนึกถึง iPhone 6 Plus ซึ่งแน่นอนล่ะ มันเป็นอุปกรณ์ที่ดีแต่มีราคาที่สูง ฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเราใช้งาน iPad mini ซึ่งที่ผ่านมา iPad mini 3 อาจจะยังไม่ตอบความต้องการของใครหลายคนที่สเปกไม่ค่อยแรงนัก อย่างไรก็ตามคราวนี้กับ iPad mini 4 มาพร้อมสเปกใหม่ แถมมาในราคาที่ถูกกว่า iPhone 6 Plus เยอะด้วย

3. สเปกครบเครื่อง ราคาคุ้มค่า

       อย่างที่กล่าวไปแล้วตั้งแต่ต้นว่า iPad mini 4 รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมานี้ Apple จัดเต็มจริงๆ ในส่วนของสเปก ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A8 และ M8 เหมือนอย่างที่ใช้บน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ส่งผลให้เวลาที่เราไปใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมไปถึงเล่นเกมที่กราฟิกสวยๆ ก็ตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี แน่นอนทั้งกล้องหรืออะไรต่างๆ ก็ดีขึ้น ส่วนที่ดีอยู่แล้วอย่าง Touch ID ก็คงดีเช่นเดิม สำคัญสุดคือราคาเริ่มต้น ที่ 13,400 บาทเท่านั้น ทำให้เราจับต้องกันง่ายยิ่งขึ้น
Screen Shot 2558-09-22 at 09.38.43
       เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 3 เหตุผลให้หาเรื่องเสียเงิน เวลาไปซื้อ iPad mini 4 จะได้อ้างได้ง่ายๆ ว่ามันดีขึ้นอย่างงั้นอย่างงี้ หวังว่าคงเป็นตัวช่วยได้ไม่มากก็น้อยล่ะ ส่วนใครเล็งๆ ว่าจะซื้ออยู่แล้ว และไม่ติดปัญหาอะไร ก็รอจัดได้เลย เรียกได้ว่าเป็น iPad mini ที่น่าซื้อที่สุดตั้งแต่มี iPad mini มาก็ว่าได้เลย
       iPad mini 4 มีให้เลือก 3 ขนาดความจุด้วยกัน ได้แก่ 16GB, 64GB และ 128GB พร้อม 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีเงิน, สีทอง และสีเทา Space Gray โดยราคาของแต่ละรุ่น เป็นดังนี้
  • iPad mini 4 16 GB Wi-Fi ราคา 13,400 บาท
  • iPad mini 4 64 GB Wi-Fi ราคา 16,900 บาท
  • iPad mini 4 128 GB Wi-Fi ราคา 20,400 บาท
  • iPad mini 4 16 GB Wi-Fi + Cellular ราคา $529
  • iPad mini 4 64 GB Wi-Fi + Cellular ราคา $629
  • iPad mini 4 128 GB Wi-Fi + Cellular ราคา $729
       ส่วนวันวางจำหน่าย คงต้องรอ Apple แจ้งอีกครั้งครับ ซึ่งน่าจะพร้อมบอกราคาของตัว Wi-Fi + Cellular ด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

Apple ทำกันได้ ผลิตอุปกรณ์ประหยัดพลังงานออกมา แต่ลดปริมาณแบตเตอรี่เพื่อให้ระยะเวลาในการใช้งานเท่าเดิม!!

แกะเครื่อง iPad mini 4 พบแรม 2GB และแบตเตอรี่ความจุน้อยกว่าเดิม !

     iPad mini 4 แท็บเล็ตรุ่นเล็กจาก Apple ที่ได้ประกาศเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 6s ล่าสุดทีมงาน iFixit ได้เครื่องมาแกะแล้วพบว่าภายในมีความจำแรมขนาด 2GB และแบตเตอรี่ความจุน้อยกว่าเดิม
iPad mini 4 Tear Down 1
     iPad mini 4 มีหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ LED-backlit กับเทคโนโลยี IPS ภายในใช้ชิปประมวลผล Apple A8 SoC รุ่นที่ 2 สถาปัตยกรรม 64‑bit กับชิปประมวลผลความเคลื่อนไหว M8 โดยมีเลนส์กล้องหลังขนาด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์กล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล
iPad mini 4 Tear Down 2
     จุดน่าสนใจคือขนาดความจำแรม 2GB LPDDR3 SDRAM เพิ่มจากเดิม 1GB ซึ่งก็เท่ากันกับ iPad Air 2 และพบว่าแบตเตอรี่ของ iPad mini มีพลังงานไฟฟ้า 19.1 Wh ขนาดความจุ 5124 mAh ซึ่งน้อยกว่าแบตเตอรี่ของiPad mini 3 ที่มีแบตเตอรี่ขนาดความจุ 6471 mAh
     สำหรับคะแนนในการแกะซ่อมได้ 2 เต็ม 10 คะแนน ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งซ่อมยาก นั่นคือซ่อมยากมาก

คอนเฟิร์ม!! iPhone 6s Plus มีแบตเตอรี่ขนาด 2,750 mAh น้อยกว่าเดิมเล็กน้อย

      หลังจากที่มีข่าวหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่า iPhone 6s และ 6s Plus จะมีขนาดของแบตเตอรี่ลดลงเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ก็มีเว็บไซต์ไต้หวัน AppleClub [Google Translate] ได้ออกมาเผยรูปแบตเตอรี่ iPhone 6s Plus ตัวจริง
      โดยความจุของแบตเตอรี่ของ iPhone 6s Plus อยู่ที่ 2,750 mAh ซึ่งน้อยกว่า iPhone 6 Plus (2,915 mAh) เล็กน้อย อย่างไรก็ตามแอปเปิลก็ยังยืนยันว่าจำนวนชั่วโมงที่สามารถใช้งานไอโฟนได้จะ ยังคงเท่าเดิม ถึงแม้ความจุแบตเตอรี่จะน้อยลง
iphone 6s plus battery
      ส่วน iPhone 6s นั่นก็มีข่าวออกมายืนยันเหมือนกันว่าแบตเตอรี่น้อยลงเช่นกัน อยู่ที่ 1,715 mAh โดย iPhone 6 มีความจุ 1,810 mAh
      สาเหตุที่ทำให้ใช้งานได้นานเท่าเดิมอาจจะมาจากชิป A9 ตัวใหม่ที่คาดว่าจะประหยัดพลังงานมากขึ้น แถมใน iOS 9 ยังมีโหมดประหยัดพลังงานมาให้อีกด้วย

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

สงสัยไหมว่าทำไม Apple ไม่พูดถึง iPad mini 4 ? (พร้อมสรุปสเปค ราคา และวันวางขาย)

      ถ้าพูดถึง iPad ตัวใหม่ที่ทาง Apple ไม่ได้ออกมานำเสนอต่อก็มีอยู่ 2 ตัวด้วยกันนะครับ นั่นคือ iPad mini 4 และ iPad Air 3 (รุ่นต่อจาก iPad Air 2 ซึ่งตัวนี้ไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่มา) เนื่องจากเหตุผลบางประการซึ่งจะมาอธิบายให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันต่อไปครับ

      iPad mini 4 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ที่ Apple ไม่ถึงพูดถึงบนเวทีงานเปิดตัว iPhone 6s โดยบอกเพียงราคาและวันวางจำหน่ายเท่านั้น มาดูกันว่าแท็บเล็ตจอเล็กรุ่นใหม่นี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
 ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล
      iPad mini 4 ถอดแบบมาจาก iPad Air 2 ทั้งหมด แล้วลดขนาดลงมา ซึ่งมีความบางเพียง 6.1 มม. น้ำหนัก 304 กรัม (รุ่น Wi-Fi + Cellular) มีหน้าจอแสดงผลขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 1536 x 2048 พิกเซล เท่าเดิมกับ iPad mini 3 แต่เสริมหน้าจอด้วยการเคลือบสารกันแสงสะท้อน และเป็นจอภาพแบบ Full Lamination เหมือนกับ iPad Air 2
 ชิปประมวลผล
       อัปเกรดไปใช้ชิป A8 ตัวเดียวกับ iPhone 6 สถาปัตยกรรม 64 บิต ซีพียู Dual-core 1.5GHz เร็วขึ้น 1.3 เท่า และกราฟิกเร็วขึ้น 1.6 เท่า เมื่อเทียบกับ A7 บน iPad mini 3 นอกจากนี้ก็มาพร้อมโปรเซสเซอร์ร่วม M8 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว
 กล้องถ่ายรูป
      กล้องหลังของ iPad mini 4 ไปใช้ตัวเดียวกับ iPad Air 2 คือความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย 5 ชิ้นเลนส์ ค่ารูรับแสง f/2.4 มีโหมดโหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง และสามารถบันทึกวิดีโอสโลว์โมชั่นได้ จากเดิมบน iPad mini 3 มีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล และไม่รองรับโหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซลเท่าเดิม รองรับโหมดโหมดภาพถ่ายต่อเนื่องเช่นกัน
 การเชื่อมต่อ
      iPad mini 4 รองรับWi‑Fi (802.11a/b/g/n/ac), สองช่องความถี่ (2.4GHz และ 5GHz), Bluetooth 4.2, 3G, 4G LTE และใช้ซิมขนาด Nano SIM (รองรับ Apple SIM) ส่วนเซ็นเซอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือ บารอมิเตอร์ สำหรับวัดความดันบรรยากาศ จากเดิม iPad mini 3 ไม่มีเซ็นเซอร์ตัวนี้
      จะเห็นว่า iPad mini 4 เรียกได้ว่าเป็น iPad Air 2 แต่ขนาดเล็กลง ทำให้ Apple ไม่พูดถึงสเปคและฟีเจอร์ใด ๆ เพราะไม่มีอะไรใหม่ ในขณะที่ iPad mini 3 ยกเลิกจำหน่ายบน Apple Online Store เรียบร้อยแล้ว โดยจะวางจำหน่ายเฉพาะ iPad Pro, iPad Air, iPad Air 2 และ iPad mini 3 ส่วน iPad Air 3 ก็ไร้วี่แววตามคาดเพื่อปูทางให้กับ iPad Pro รุ่นใหม่แทนนั่นเอง

iPad mini 4
iPad mini 4 เริ่มวางจำหน่ายแล้วในสหรัฐอเมริกา มีราคาดังนี้
  • รุ่น Wi-Fi ความจุ 16GB ราคา $399 หรือประมาณ 14,400 บาท
  • รุ่น Wi-Fi ความจุ 64GB ราคา $499 หรือประมาณ 18,000 บาท
  • รุ่น Wi-Fi ความจุ 128GB ราคา $599 หรือประมาณ 21,600 บาท
  • รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 16GB ราคา $529 หรือประมาณ 19,100 บาท
  • รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 64GB ราคา $629 หรือประมาณ 22,700 บาท
  • รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 128GB ราคา $729 หรือประมาณ 26,400 บาท
สำหรับประเทศไทย เตรียมวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ครับ รอติดตามกันต่อไป
ที่มา : Apple
เนื้อหาข่าว: http://hitech.sanook.com/1398965/