iPad mini 4 เปิดราคาในไทยอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นที่ 13,400 บาท พร้อมวางจำหน่ายเร็วๆนี้

       หลังจาก Apple จัดงานเปิดตัวขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา (วันที่ 10 กันยายนตามเวลาในประเทศไทย) ก็มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่อัปเกรดประสิทธิภาพให้ผู้บริโภคฮือฮากันอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นสมาร์ท โฟนยอดนิยมอย่าง iPhone 6s และ iPhone 6s Plus หรือ iPad Pro แท็บเล็ตจอยักษ์ที่มาพร้อมกับ Apple Pencil และ RAM 4GB ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น

       แต่ว่ายังมีอีกหนึ่งแท็บเล็ตรุ่นเล็กอย่าง iPad mini 4 ที่เปิดตัวไปแบบเงียบๆ แต่กระแสตอบรับก็ค่อนข้างดีไม่ใช่น้อย โดยแท็บเล็ตรุ่นดังกล่าวปรับปรุงประสิทธิด้านการประมวลผล และการทำงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผล 64-bit Apple A8 ความเร็วในการประมวลผล 1.5GHz และหน่วยความจำแรม (RAM) ที่เพิ่มขนาดขึ้นมาเป็น 2GB จากเดิมมีเพียงแค่ 1GB เท่านั้น

       ล่าสุดทางเว็บไซต์ Apple Thailand ก็ได้ประกาศราคาวางจำหน่าย iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีให้เลือก 3 สี คือ สีทอง, สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ โดยมีราคาดังต่อไปนี้

-  iPad mini 4 ความจุ 16GB Wi-Fi ราคา 13,400 บาท
-  iPad mini 4 ความจุ 64GB Wi-Fi ราคา 16,900 บาท
-  iPad mini 4 ความจุ 128GB Wi-Fi ราคา 20,400 บาท

       ราคาของ iPad mini 4 ที่ประกาศออกมานี้เป็นราคาเดียวกันกับที่ใช้ในตอนเปิดตัว iPad mini 2 และiPad mini 3 รุ่น Wi-Fi และแน่นอนว่าเมื่อมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เข้ามาวางจำหน่าย Apple ก็มักจะปรับราคาของผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าลดลง โดย iPad mini 2 และ iPad mini 3 ก็ได้ปรับราคาลงแล้ว ดังนี้

-  iPad mini 2 Wi-Fi 16GB  ปรับราคาลงเหลือ 9,900 บาท (ราคาเดิม 10,400 บาท) (ราคาเปิดตัว 13,400 บาท)
-  iPad mini 2 Wi-Fi 32GB  ปรับราคาลงเหลือ 11,700 บาท (ราคาเพิม 12,200 บาท) (ราคาเปิดตัว 16,900 บาท)

-  iPad mini 2 Wi-Fi+Cellular 16GB ปรับราคาลงเหลือ 14,400 บาท (ราคาเดิม 14,900 บาท)
-  iPad mini 2 Wi-Fi+Cellular 32GB ปรับราคาลงเหลือ 16,200 บาท (ราคาเดิม 16,700 บาท)

-  iPad mini 3 Wi-Fi 16GB ปรับราคาลงเหลือ 11,600 บาท (ราคาเดิม 13,400 บาท) (ราคาเปิดตัว 13,400 บาท)
-  iPad mini 3 Wi-Fi 64GB ปรับราคาลงเหลือ 14,400 บาท (ราคาเดิม 16,900 บาท) (ราคาเปิดตัว 16,900 บาท)
-  iPad mini 3 Wi-Fi 128GB ปรับราคาลงเหลือ 17,900 บาท (ราคาเดิม 20,400 บาท) (ราคาเปิดตัว 20,400 บาท)

-  iPad mini 3 Wi-Fi+Cellular 16GB ปรับราคาลงเหลือ 16,100 บาท (ราคาเดิม 17,900 บาท)
-  iPad mini 3 Wi-Fi+Cellular 64GB ปรับราคาลงเหลือ 18,900 บาท (ราคาเดิม 21,400 บาท)
-  iPad mini 3 Wi-Fi+Cellular 128GB ปรับราคาลงเหลือ 22,400 บาท (ราคาเดิม 24,900 บาท)

ก่อนหน้านี้มีผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ iPad mini 4 เผยแพร่ออกมาด้วยว่า iPad mini 4 มีประสิทธิภาพเป็นรองเพียง iPad Air 2 เท่านั้น อีกทั้งยังมีความเร็ว และแรงกว่า iPhone 6 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย (รายละเอียดเพิ่มเติม - คลิก)

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ทาง Apple ประกาศราคาออกมาเฉพาะรุ่น Wi-Fi เท่านั้น ส่วน iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi+Cellular อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และขออนุญาตจาก กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) อีกทั้งกำหนดการวางจำหน่ายในประเทศไทยก็ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม ทางทีมงานจะรีบนำมาอัปเดตให้ทราบทันที

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1399497/

3 เหตุผลที่ทำให้ iPad mini 4 เป็น iPad ที่น่าซื้อ! น่าเสียเงิน! มากที่สุด!

       หลายคนอาจ จะกำลังรอโอกาสซื้อแท็บเล็ตซักเครื่องเพื่อที่จะนำมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิงรวมไปถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งต้องยิมรับว่าถ้าจะซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานซักเครื่องนั้น ต้องนึกถึง iPad เป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน แต่จะซื้อ iPad รุ่นไหนนั้นคงต้องดูอีกทีว่าลักษณะการใช้งานของเราเป็นอย่างไร ถึงจะมาดูกันว่า iPad Air หรือ iPad mini ที่ตอบโจทย์ แล้วจะซื้อรุ่นใหม่ล่าสุด หรือที่ตกรุ่นไปแล้วนั้นก็ต้องมาดูงบประมาณกันอีกทีหนึ่ง

สเปก iPad mini 4

• หน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว แบบ Retina Display
• ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล (326 ppi)
• ชิปประมวลผล Apple A8 แบบ 64-bit พร้อมชิปเซ็ต Apple M8 ชิปประมวลผลร่วม
• หน่วยความจำแรมขนาด 2GB
• Touch ID รองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/2.2
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/2.4
• รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
• รองรับ Wi‑Fi (802.11a/b/g/n/ac) และ MIMO
• มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 9

       โดยล่าสุดอย่างที่เราทราบกันไปแล้วว่า iPad Air 3 ยังไม่ออก และ iPad Pro ก็อาจจะเกินตัวไปหน่อย (ทั้งขนาดหน้าจอและราคา) ทำให้ iPad mini 4 ที่เป็น iPad mini รุ่นใหม่ซึ่งเพิ่งวางขายกันไปนั้น มีความน่าสนใจกันอยู่ไม่น้อยเลย จากสเปกที่อัพเดทล่าสุดแล้วให้ความแรงพอๆ กับ iPhone 6 อีกทั้งยังมาพร้อมแรม 2GB และราคาก็เป็นมิตรด้วยที่ 13,400 บาทเท่านั้น สำหรับรุ่น 16GB ในบทความนี้เราเลยจะมาให้เหตุผลกันเสียหน่อย

1. เพราะ iPad mini 4 เป็น iPad ของ Apple

       ด้วยความที่เป็น iPad แน่นอนว่าระบบปฏิบัติการต้องเป็น iOS ที่ทุกคนไว้ใจในเรื่องของประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล และมีความสเถียรสูง เรียกได้ว่าไม่มีอาการค้างหรืออึดให้เห็นกันง่ายๆ รวมไปถึงยังมาพร้อมกับ App Store ที่เต็มอิ่มไปด้วยแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีคุณภาพ ผ่านการคัดสรรจากทาง Apple มาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งถ้าใครใช้งาน iPad กับแท็บเล็ตที่เป็น Android แล้ว ก็คงพอทราบกันบ้างว่า แอพพลิเคชั่นมีเหมือนกันก็จริง แต่ให้อารมณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน

2. หน้าจอใหญ่ สเปกแรง แต่ราคาถูกกว่า

       สำหรับหลายๆ คนที่อยากได้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS ในขนาดที่พอพกพาไปได้ในขนาดที่หน้าจอไม่เล็กจนเกินไป นาทีนี้คงต้องนึกถึง iPhone 6 Plus ซึ่งแน่นอนล่ะ มันเป็นอุปกรณ์ที่ดีแต่มีราคาที่สูง ฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเราใช้งาน iPad mini ซึ่งที่ผ่านมา iPad mini 3 อาจจะยังไม่ตอบความต้องการของใครหลายคนที่สเปกไม่ค่อยแรงนัก อย่างไรก็ตามคราวนี้กับ iPad mini 4 มาพร้อมสเปกใหม่ แถมมาในราคาที่ถูกกว่า iPhone 6 Plus เยอะด้วย

3. สเปกครบเครื่อง ราคาคุ้มค่า

       อย่างที่กล่าวไปแล้วตั้งแต่ต้นว่า iPad mini 4 รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมานี้ Apple จัดเต็มจริงๆ ในส่วนของสเปก ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A8 และ M8 เหมือนอย่างที่ใช้บน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ส่งผลให้เวลาที่เราไปใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมไปถึงเล่นเกมที่กราฟิกสวยๆ ก็ตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี แน่นอนทั้งกล้องหรืออะไรต่างๆ ก็ดีขึ้น ส่วนที่ดีอยู่แล้วอย่าง Touch ID ก็คงดีเช่นเดิม สำคัญสุดคือราคาเริ่มต้น ที่ 13,400 บาทเท่านั้น ทำให้เราจับต้องกันง่ายยิ่งขึ้น

       เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 3 เหตุผลให้หาเรื่องเสียเงิน เวลาไปซื้อ iPad mini 4 จะได้อ้างได้ง่ายๆ ว่ามันดีขึ้นอย่างงั้นอย่างงี้ หวังว่าคงเป็นตัวช่วยได้ไม่มากก็น้อยล่ะ ส่วนใครเล็งๆ ว่าจะซื้ออยู่แล้ว และไม่ติดปัญหาอะไร ก็รอจัดได้เลย เรียกได้ว่าเป็น iPad mini ที่น่าซื้อที่สุดตั้งแต่มี iPad mini มาก็ว่าได้เลย

       iPad mini 4 มีให้เลือก 3 ขนาดความจุด้วยกัน ได้แก่ 16GB, 64GB และ 128GB พร้อม 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีเงิน, สีทอง และสีเทา Space Gray โดยราคาของแต่ละรุ่น เป็นดังนี้

• iPad mini 4 16 GB Wi-Fi ราคา 13,400 บาท
• iPad mini 4 64 GB Wi-Fi ราคา 16,900 บาท
• iPad mini 4 128 GB Wi-Fi ราคา 20,400 บาท
• iPad mini 4 16 GB Wi-Fi + Cellular ราคา $529
• iPad mini 4 64 GB Wi-Fi + Cellular ราคา $629
• iPad mini 4 128 GB Wi-Fi + Cellular ราคา $729

       ส่วนวันวางจำหน่าย คงต้องรอ Apple แจ้งอีกครั้งครับ ซึ่งน่าจะพร้อมบอกราคาของตัว Wi-Fi + Cellular ด้วย

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1399377/

Apple ทำกันได้ ผลิตอุปกรณ์ประหยัดพลังงานออกมา แต่ลดปริมาณแบตเตอรี่เพื่อให้ระยะเวลาในการใช้งานเท่าเดิม!!

แกะเครื่อง iPad mini 4 พบแรม 2GB และแบตเตอรี่ความจุน้อยกว่าเดิม !

     iPad mini 4 แท็บเล็ตรุ่นเล็กจาก Apple ที่ได้ประกาศเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 6s ล่าสุดทีมงาน iFixit ได้เครื่องมาแกะแล้วพบว่าภายในมีความจำแรมขนาด 2GB และแบตเตอรี่ความจุน้อยกว่าเดิม

     iPad mini 4 มีหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ LED-backlit กับเทคโนโลยี IPS ภายในใช้ชิปประมวลผล Apple A8 SoC รุ่นที่ 2 สถาปัตยกรรม 64‑bit กับชิปประมวลผลความเคลื่อนไหว M8 โดยมีเลนส์กล้องหลังขนาด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์กล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล

     จุดน่าสนใจคือขนาดความจำแรม 2GB LPDDR3 SDRAM เพิ่มจากเดิม 1GB ซึ่งก็เท่ากันกับ iPad Air 2 และพบว่าแบตเตอรี่ของ iPad mini มีพลังงานไฟฟ้า 19.1 Wh ขนาดความจุ 5124 mAh ซึ่งน้อยกว่าแบตเตอรี่ของiPad mini 3 ที่มีแบตเตอรี่ขนาดความจุ 6471 mAh

     สำหรับคะแนนในการแกะซ่อมได้ 2 เต็ม 10 คะแนน ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งซ่อมยาก นั่นคือซ่อมยากมาก

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1399341/

คอนเฟิร์ม!! iPhone 6s Plus มีแบตเตอรี่ขนาด 2,750 mAh น้อยกว่าเดิมเล็กน้อย

      หลังจากที่มีข่าวหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่า iPhone 6s และ 6s Plus จะมีขนาดของแบตเตอรี่ลดลงเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ก็มีเว็บไซต์ไต้หวัน AppleClub [Google Translate] ได้ออกมาเผยรูปแบตเตอรี่ iPhone 6s Plus ตัวจริง

      โดยความจุของแบตเตอรี่ของ iPhone 6s Plus อยู่ที่ 2,750 mAh ซึ่งน้อยกว่า iPhone 6 Plus (2,915 mAh) เล็กน้อย อย่างไรก็ตามแอปเปิลก็ยังยืนยันว่าจำนวนชั่วโมงที่สามารถใช้งานไอโฟนได้จะ ยังคงเท่าเดิม ถึงแม้ความจุแบตเตอรี่จะน้อยลง

      ส่วน iPhone 6s นั่นก็มีข่าวออกมายืนยันเหมือนกันว่าแบตเตอรี่น้อยลงเช่นกัน อยู่ที่ 1,715 mAh โดย iPhone 6 มีความจุ 1,810 mAh

      สาเหตุที่ทำให้ใช้งานได้นานเท่าเดิมอาจจะมาจากชิป A9 ตัวใหม่ที่คาดว่าจะประหยัดพลังงานมากขึ้น แถมใน iOS 9 ยังมีโหมดประหยัดพลังงานมาให้อีกด้วย

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1399337/

สงสัยไหมว่าทำไม Apple ไม่พูดถึง iPad mini 4 ? (พร้อมสรุปสเปค ราคา และวันวางขาย)

      ถ้าพูดถึง iPad ตัวใหม่ที่ทาง Apple ไม่ได้ออกมานำเสนอต่อก็มีอยู่ 2 ตัวด้วยกันนะครับ นั่นคือ iPad mini 4 และ iPad Air 3 (รุ่นต่อจาก iPad Air 2 ซึ่งตัวนี้ไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่มา) เนื่องจากเหตุผลบางประการซึ่งจะมาอธิบายให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันต่อไปครับ

      iPad mini 4 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ที่ Apple ไม่ถึงพูดถึงบนเวทีงานเปิดตัว iPhone 6s โดยบอกเพียงราคาและวันวางจำหน่ายเท่านั้น มาดูกันว่าแท็บเล็ตจอเล็กรุ่นใหม่นี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง

 ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล

      iPad mini 4 ถอดแบบมาจาก iPad Air 2 ทั้งหมด แล้วลดขนาดลงมา ซึ่งมีความบางเพียง 6.1 มม. น้ำหนัก 304 กรัม (รุ่น Wi-Fi + Cellular) มีหน้าจอแสดงผลขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 1536 x 2048 พิกเซล เท่าเดิมกับ iPad mini 3 แต่เสริมหน้าจอด้วยการเคลือบสารกันแสงสะท้อน และเป็นจอภาพแบบ Full Lamination เหมือนกับ iPad Air 2

 ชิปประมวลผล

      iPad mini 4 อัปเกรดไปใช้ชิป A8 ตัวเดียวกับ iPhone 6 สถาปัตยกรรม 64 บิต ซีพียู Dual-core 1.5GHz เร็วขึ้น 1.3 เท่า และกราฟิกเร็วขึ้น 1.6 เท่า เมื่อเทียบกับ A7 บน iPad mini 3 นอกจากนี้ก็มาพร้อมโปรเซสเซอร์ร่วม M8 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว

 กล้องถ่ายรูป

      กล้องหลังของ iPad mini 4 ไปใช้ตัวเดียวกับ iPad Air 2 คือความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย 5 ชิ้นเลนส์ ค่ารูรับแสง f/2.4 มีโหมดโหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง และสามารถบันทึกวิดีโอสโลว์โมชั่นได้ จากเดิมบน iPad mini 3 มีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล และไม่รองรับโหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซลเท่าเดิม รองรับโหมดโหมดภาพถ่ายต่อเนื่องเช่นกัน

 การเชื่อมต่อ

      iPad mini 4 รองรับWi‑Fi (802.11a/b/g/n/ac), สองช่องความถี่ (2.4GHz และ 5GHz), Bluetooth 4.2, 3G, 4G LTE และใช้ซิมขนาด Nano SIM (รองรับ Apple SIM) ส่วนเซ็นเซอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือ บารอมิเตอร์ สำหรับวัดความดันบรรยากาศ จากเดิม iPad mini 3 ไม่มีเซ็นเซอร์ตัวนี้

      จะเห็นว่า iPad mini 4 เรียกได้ว่าเป็น iPad Air 2 แต่ขนาดเล็กลง ทำให้ Apple ไม่พูดถึงสเปคและฟีเจอร์ใด ๆ เพราะไม่มีอะไรใหม่ ในขณะที่ iPad mini 3 ยกเลิกจำหน่ายบน Apple Online Store เรียบร้อยแล้ว โดยจะวางจำหน่ายเฉพาะ iPad Pro, iPad Air, iPad Air 2 และ iPad mini 3 ส่วน iPad Air 3 ก็ไร้วี่แววตามคาดเพื่อปูทางให้กับ iPad Pro รุ่นใหม่แทนนั่นเอง

iPad mini 4 เริ่มวางจำหน่ายแล้วในสหรัฐอเมริกา มีราคาดังนี้

• รุ่น Wi-Fi ความจุ 16GB ราคา $399 หรือประมาณ 14,400 บาท
• รุ่น Wi-Fi ความจุ 64GB ราคา $499 หรือประมาณ 18,000 บาท
• รุ่น Wi-Fi ความจุ 128GB ราคา $599 หรือประมาณ 21,600 บาท
• รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 16GB ราคา $529 หรือประมาณ 19,100 บาท
• รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 64GB ราคา $629 หรือประมาณ 22,700 บาท
• รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 128GB ราคา $729 หรือประมาณ 26,400 บาท

สำหรับประเทศไทย เตรียมวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ครับ รอติดตามกันต่อไป

ที่มา : Apple

เนื้อหาข่าว: http://hitech.sanook.com/1398965/

เผยคลิปวีดีโอ เปรียบเทียบขนาด iPad 4 vs iPad 5 ต่างกันอย่างไร ?

เผยคลิปวีดีโอ เปรียบเทียบขนาด iPad 4 vs iPad 5 ต่างกันอย่างไร ?

[1-ตุลาคม-2556] อัพเดทข่าว iPad 5 (ไอแพด 5) โดยทีมงาน techmoblog ในวันนี้ เมื่อเว็บไซต์ sw-box.com ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนในประเทศจีน ได้เผย คลิปวีดีโอ เปรียบเทียบความแตกต่างของบอดี้ ระหว่าง iPad 4 และ iPad 5 (ipad 4 vs ipad 5) ออกมาให้ชมกัน นอกจากนี้ ยังมี ipad mini รุ่นปัจจุบัน เปรียบเทียบให้ชมกันอีกด้วย

โดยจากคลิปวีดีโอ จะเห็นได้ว่า บอดี้ระหว่าง iPad 4 และ iPad 5 มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ ถึงแม้ว่า ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมีขนาดหน้าจอที่เท่ากันก็ตาม โดย ipad 5 (ไอแพด 5) จะถูกออกแบบให้ใกล้เคียง iPad mini มากขึ้น

ส่วนกำหนดการเปิดตัว iPad 5 คาดว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ครับ - macrumors.com

สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com 

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

iPad mini 2 เพิ่มสีใหม่ สีเทา space grey

iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) อัพเดทข่าวเปิดตัว สเปค และราคา ล่าสุด : iPad mini 2 เพิ่มสีใหม่ สีเทา space grey

อัพเดทข่าว iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) โดยทีมงาน techmoblog ในวันนี้ กับภาพหลุด ipad mini 2 สีใหม่ นั่นก็คือสีเทา Space grey ส่วนตัวเครื่อง ยังคงเป็นอะลูมิเนียมเหมือนเช่นเคย

โดยภาพดังกล่าว เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่าง ระหว่างสีเงิน Silver และ สีเทา Space grey ซึ่งจะเห็นได้ว่า สีเทา Space grey นั้น มีโทนสีที่ทึบกว่า และโลโก้ Apple ด้านหลัง เป็นสีดำครับ

ส่วนกำหนดการเปิดตัว iPad mini 2 คาดว่า จะเป็นวันที่ 15 ตุลาคมนี้ พร้อม iPad 5 - phonearena.com

ภาพหลุด ฝาหลัง iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) ทำจากอะลูมิเนียม

ล่าสุด กับภาพหลุด ฝาหลัง ipad mini 2 รุ่น Wi-Fi + Cellular ซึ่งภาพดังกล่าว ยังไม่เผยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของ ฝาหลัง iPad mini 2 เมื่อเทียบกับ iPad mini รุ่นแรก โดย ยังคงเป็นฝาหลังแบบอะลูมิเนียม ส่วนปุ่มควบคุมการทำงาน เช่น ปุ่มปรับเสียง, ตำแหน่งของกล้อง, พอร์ตการเชื่อมต่อ ยังคงเหมือนเดิมเช่นกัน

ถึงแม้ iPad mini 2 ในภาพนี้ จะไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไปมาก แต่หลายๆ คนเชื่อว่า ipad mini 2 น่าจะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Retina display ครับ - phonearena.com

iPad mini 2 มาพร้อมหน้าจอแบบ Retina display

เรียกได้ว่า ข่าวเกี่ยวกับ iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) ที่ จะเปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบ Retina display มีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียว เมื่อทาง Richard Shim นักวิเคราะห์จากสถาบัน NPD DisplaySearch ได้ออกมาเผยว่า iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Retina display อย่างแน่นอน

ส่วน iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง นอกเหนือไปจากหน้าจอแบบใหม่ และระบบปฏิบัติการที่อัพเกรดเป็น iOS 7 ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดครับ

อย่างไรก็ดี Richard Shim ยังเผยว่า หลังจากที่เปิดตัว iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) ไปได้ไม่นาน Apple ก็อาจเปิดตัว iPad mini 3 (ไอแพด มินิ 3) เลยทันที คาดว่า เป็นช่วงไตรมาสแรกปี 2014 (อาจเป็นเดือนมีนาคม) และมีการอัพเกรดในส่วนของซีพียูครับ ซึ่ง Richard Shim เผยว่า เหตุการณ์แบบนี้ คล้ายกับตอนที่เปิดตัว iPad 3 และเปิดตัว iPad 4 ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน โดยมีการอัพเกรดบางอย่างเพิ่มขึ้นนั่นเอง

ส่วนคำวิเคราะห์ของ Richard Shim จะเป็นจริงมากแค่ไหน เร็วๆ นี้คงจะได้ทราบกันครับ - appleinsider.com

iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) หน้าจอละเอียดกว่าเดิม 4 เท่า !

โดยรายงานข่าวจาก BrightWire ได้เผยว่า ในขณะนี้ ผู้ผลิตชิ้นส่วนของจอแสดงผลให้กับ iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) นั้น กำลังเริ่มกระบวนการผลิตครับ และว่ากันว่า ความละเอียดของหน้าจอ iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) นั้น จะละเอียดกว่า iPad mini รุ่นแรก ถึง 4 เท่าเลยทีเดียว

โดยความละเอียดของหน้าจอบน iPad mini รุ่นปัจจุบันนั้น อยู่ที่ 1024 x 768 พิกเซล (163 ppi) ซึ่งเป็นความละเอียดเดียวกับ iPad 2 ส่วน ความละเอียดของหน้าจอบน iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) จะเพิ่มขึ้นเป็น 2048 x 1536 พิกเซล บนหน้าจอขนาด 7.9 น้ิว และคาดว่า ความละเอียดพิกเซลต่อนิ้ว หรือ ppi นั้น จะอยู่ที่ 324 ppi เลยทีเดียวครับ

แน่นอนว่า ความละเอียดดังกล่าวนี้ ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อแอพพลิเคชั่นบน iOS ด้วยเช่นกัน ส่วน ข่าวลือ iPad mini 2 (ไอแพด มินิ 2) จะเป็นความจริงได้มากน้อยแค่ไหน เร็วๆ นี้น่าจะได้ทราบกันครับ - phonearena.com

สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com  

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

iPad 5 ขยายขอบจอ เครื่องบางลงอีก

iPad 5 ขยายขอบจอ เครื่องบางลงอีก

iPad 5 - เมื่อวานนี้เราได้เห็น iPhone 5S กับ iPhone 5C เปิดตัวไปแล้ว คิวต่อไปไม่น่าจะเป็นอย่างอื่นนอกจาก iPad 5 ตามมาด้วย iPad mini 2 ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราน่าจะได้เห็นตัวจริงของแท็บเล็ต iOS ในเดือนตุลาคมนี้

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาภาพของ iPad 5 ถูกเผยแพร่ควบคู่ไปกับ iPhone ทั้งสองรุ่นใหม่รวมไปถึง iPad mini 2 การเตรียมตัวออก iPad 5 ครั้งนี้ของ Apple เป็นที่กล่าวถึงว่าจะเกิดจากการนำคอนเซปต์ของ iPad mini มาต่อยอดเพื่อทำให้แท็บเล็ต iOS ในเจเนอเรชั่นที่ 5 มีขอบหน้าจอแสดงผลขยับเข้าไปใกล้กับขอบตัวเครื่องยิ่งขึ้นพร้อมๆกับบางลงกว่า iPad 4 แต่จะคงขนาดที่ 9.7 นิ้วเช่นเคย และสิ่งที่จะทำให้ iPad 5 มีความใหม่ขึ้นไปอีกคือการหน่วยประมวลผลที่เร็วยิ่งขึ้นอีกจากชิป "A7X" ซึ่งน่าสนใจอีกว่า Apple จะเพิ่มความปลอดภัยด้วย Touch ID Sensor เฉกเช่นเดียวกันกับ iPhone 5Sหรือเปล่า ? ก็น่าคิดไม่น้อยเหมือนกัน ส่วนฝั่งระบบปฏิบัติการใช้ iOS 7 แน่นอน

สำหรับใครที่หวังว่าเมื่อถึงการเปิดตัว iPad 5 หรือกระทั่ง iPad mini 2 จะเกิดเซอร์ไพรส์อะไรขึ้นหรือไม่ คงต้องเผื่อใจไว้บางเพราะงานเปิดตัว iPhone 5S กับ iPhone 5C แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีเซอร์ไพรส์ใดๆที่นอกเหนือไปจากข่าวลือที่รั่วไหลให้เราได้รู้กันก่อนเปิดตัวนั่นเอง

อ้างอิงจาก Neowin

ครึ่งปี 2013 ใครคือ มือถือขวัญใจมหาชน

ครึ่งปี 2013 ใครคือ มือถือขวัญใจมหาชน

ช่วงนี้มือถือรุ่นใหม่ออกมาเรียกน้ำย่อยคอไอทีเยอะมาก ทำเอาต้องหวั่นไหวไปตามๆ กันเพราะแต่ละรุ่นที่ออกมามีเสน่ห์น่าค้นหา น่าควักตังค์ออกจากกระเป๋าไปหมด ตั้งแต่รุ่นเรือธง จนถึงรุ่นเล็ก สีสันแวดวงโทรศัพท์ช่วงนี้เลยร้อนแรง ตั้งแต่ข่าวลือ มินิ iPhone มือถือแอพเปิ้ลรุ่นประหยัด หวังขยายฐานมหาชน หรือรุ่นใหม่ iPhone 5S ก็เริ่มมีข่าวออกมาให้เห็นกันพรึบเลยครับ ยิ่งไม่ช้านี้ Samsung ก็จะถึงกำหนดวางขาย Galaxy S4 และกำหนดราคางามๆ ออกมาแล้วน่าสนใจไม่น้อยขนาดผมยังอยากได้ หรือ BB สินค้าตระกูลเบอร์รี่ก็ออกมาขายแล้วเหมือนกันแต่ออกมาช่วงพี่ใหญ่กำลังจะปล่อยของน่ากังวลไปซักหน่อยสำหรับ BlackBerry Z10 ส่วน HTC First มือถือความร่วมมือกับ Facebook ดูท่าจะไม่เกิดเพราะโดนกระหน่ำโจมตีถึงความห่วยของ Facebook Home ที่ความเห็นคนที่ลองใช้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามัน ห ว อัว ยอ "ห่วย" จุดขายหลักโดนโจมตีขนาดนี้แล้วมันจะเกิดเร๊อะ!!!

ถ้าถามว่าช่วงต้นปีนี้ภาพรวมตลาดมือถือเป็นยังไง ก็ต้องบอกว่าคึกคักเหมือนเคยโผก็ไม่ได้เปลี่ยนมากมายนัก ต่อสู้กันเลือดสาดในสมรภูมินี้เหมือนเดิม ยอดขายมือถือช่วงต้นปียังเป็น Samsung ที่ยังขายได้สูงสุดครับ เพิ่งประกาศไปเมื่อไม่กี่วันว่า Galaxy S3 ตอนนี้ขายทะลุ 50 ล้านเครื่องไปเรียบร้อยแล้วและก็ไม่น่าจะโตไปจากนี้มากเพราะกระแสย้ายไปสู่ Galaxy S4 มือถือเรือธงปีนี้กันหมดแล้ว

ยืนยันความเก๋าของซัมซุง ด้วยยอดขายมือถือยังเป็นอันดับหนึ่งในช่วงต้นปีรักษาแชมป์อยู่ที่ส่วนแบ่ง 29.6% ขอตลาดมือถือทั่วโลก ส่วนแอพเปิ้ลตามมาเป็นที่สองยอดขายลดลงนิดหน่อย 3.3% เหลือส่วนแบ่ง 15.3% ส่วนแบรนด์อื่นๆ HTC มาเป็นที่สามและ Nokia มาเป็นที่สี่ 4.4% และ 4.3% ตามลำดับ ดูท่าผู้ตามยังตามยากมากๆ อยู่ครับกว่าจะขายได้เพิ่มขึ้นต้องทำการตลาดมาเลือดตาแทบกกระเด็น ค่ายมือถือจีนตอนนี้ก็กระแสดีกว่าหลายๆ แบรนด์ใหญ่ยอดขายสูงจนเบียดเข้าชาร์ตหลายตัวอย่าง Huawei , ZTE

ยอดขายสามเดือนแรกของปีนี้โผก็ไม่ได้หลุดจากเดิมอะไรมากมาย ซัมซุงครองมือถือขวัญใจมหาชน สามเดือนที่ผ่านมาขายไป 70.7 ล้านเครื่อง ส่วน Apple ขายไป 37.4 ล้านเครื่อง LG ขายได้ 10.3 ล้านเครื่อง และยี่ห้อจีนอย่าง ZTE ก็ขายได้มากถึง 9.1 ล้านเครื่อง มือถือในท้องตลาดตอนนี้มีตัวเลือกมากมายหลายรุ่นถ้าถามถึงความเร็วตอนนี้ตัวระดับท๊อปๆ ก็จะไม่ต่างกันมาก ถ้าไม่ติดกับแบรนด์ก็จะมีตัวเลือกให้ใช้หลากหลายมากขึ้นอย่าง HTC One, LG Optimus G,Oppo Find5 มือถือขวัญใจมหาชนอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมด ลองหามือถือขวัญในบุคคลดูเผื่อจะได้รุ่นดี ราคาโดนมาใช้กันถ้าไอ้แก่ในมือยังใช้ดีอยู่ ก็อย่าเพิ่งเปลี่ยนมันเลยครับ

.......................................
(หมายเหตุ ต้นปี2013ใครคือมือถือขวัญใจมหาชน : คอลัมน์ ดิจิตอลเลนส์ โดย... คุณนิวัฒน์ ชาตะวิทยากูล)

สนับสนุนเนื้อหา: blog.butthun.com

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

สามฟีเจอร์ใหม่ที่จะทำให้ iPhone 5S ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

สามฟีเจอร์ใหม่ที่จะทำให้ iPhone 5S ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

iPhone และ Samsung เป็นสองตัวเลือกแรกของคนที่มองหามือถือสมาร์ทโฟน มีการทำสำรวจผู้ใช้อยู่เหมือนกันครับว่าถ้าคนที่ใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้วเกิดคิดอยากจะเปลี่ยนมือถือแล้วล่ะก็คนส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปใช้อะไรมากกว่ากัน ซึ่งไม่แปลกครับที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง Samsung และ Apple เป็นสองตัวเลือกแรกเวลาคิดจะเปลี่ยนมือถือสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ แต่จะเปลี่ยนย้ายจากอะไรไปอะไรมากกว่ากันนั้นในการทำสำรวจมีปัจจัยเยอะแยะมากมายครับ แต่น่าสนใจว่ามือถือที่ขายได้มากอย่าง Samsung นั้นผู้ใช้อยากเปลี่ยนไปใช้ iPhone มากกว่าการเปลี่ยน จาก iPhone ไปมือถือซัมซุงถึงสามเท่าตัว นั่นทำให้เห็นว่าโฆษณาการจิกกัดไปมาของมือถือ Android ที่จิกกัดผลิตภัณฑ์ Apple นั้นไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไหร่ที่จะทำให้คนใช้มือถือของ Apple เปลี่ยนใจไปใช้สมาร์ทโฟนค่ายอื่น แต่กลับกันคนที่ใช้ Android มักจะย้ายไปใช้มือถือ Android ด้วยกันเองและเปลี่ยนใจไปใช้ iPhone มากกว่า ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าแทนที่จะไปจิกกัดมือถือค่าย Apple สู้มาแย่งจากผู้ใช้ Adnroid กันเองน่าจะดีกว่า เพราะคนใช้ iPhone เจอรักแท้กันไปแล้ว

10 กันยายน เดือนหน้าที่จะถึงนี้มือถือเรือธงตัวใหม่ของ Apple ก็จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแน่ๆ ซึ่งจะเป็นสองรุ่นที่ทุกคนน่าจะทราบอยู่แล้วครับ คือมือถือ iPhone 5S และมือถือ iPhone 5C รุ่นประหยัด ซึ่งหลายคนรอคอยรวมทั้งผมด้วย เพราะผมเองก็เตรียมพร้อมจะย้ายจาก Samsung ไป iPhone ได้เหมือนกันกำลังตัดสินใจอยู่ถ้าหากมีอะไรน่าสนใจซึ่งเรื่องราวหลุดๆ เหล่านี้น่าจะช่วยให้ผมและคุณตัดสินใจได้ว่าจะเลือกตกหลุมรักใครดี

ข้อมูลหลุดจำนวนมากจากแหล่งข่าวต่างประเทศที่ผมติดตามอ่านนั้น ทำให้ค่อนข้างมั่นใจครับว่า มือถือตัวที่เป็น iPhone 5S และ 5C นั้นเป็นเรื่องจริง และที่เป็นข่าวฮอตช่วงอาทิตย์ที่แล้วคือหน้าตาของ iPhone สีทอง ซึ่งดูสวยทีเดียว ก็ทำให้ iPhone มีตัวเลือกน่าสนใจขึ้นจากเดิมที่การมาของ iPhone รุ่นสีขาวทำให้มือถือ iPhone ขายดีขึ้นต้องรอดูว่าเมื่อรุ่นสีทองถูกวางขายสู่ตลาดแล้วจะได้ผลตอบรับดีแค่ไหนกัน ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวนี้นอกจาก iOS 7 ที่ใกล้จะพร้อมสมบูรณ์ที่จะเปิดให้อัพเดทใช้พร้อมกันในวันนั้นแล้ว ยังมีอีกหลายอย่าง ที่จะทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าได้ก็คราวนี้

อันแรกเรื่องความปลอดภัยจะกลายเป็นจุดขาย ความปลอดภัยในการยืนยันบุคคลด้วย ลายนิ้วมือ ซึ่งถูกพัฒนามาพร้อมกับปุ่ม Home ที่เราคุ้นเคย ซึ่งหากเป็นจริงตามข่าวฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำอันนี้จะทำให้มือถือ iPhone กลายเป็นมือถือที่มีความปลอดภัยที่สูงขึ้น และมีความปลอดภัยที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนในทันที ซึ่งเป็นไปได้สูงมากทีเดียวครับเพราะก่อนหน้านี้ Apple นั้นซื้อบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยไป ซึ่งนอกจากเรื่องความปลอดภัยนี้จะช่วยให้มือถือเราเวลาหายแล้วไม่มีใครสามารถเข้าไปใช้งานได้ ซึ่งเป็นเรื่องดี แต่ฟีเจอร์นี้จะยิ่งทำให้ความปลอดภัยเรื่องของการใช้มือถือจ่ายเงิน (Mobile Payment) ซึ่งเป็นอีกเทรนด์ที่ทุกมือถือต้องรองรับนั้นปลอดภัยขึ้นไปเช่นกัน

เรื่องกล้องใครว่าเรื่องเล็กๆ รุ่นนี้การพัฒนาประสิทธิภาพของกล้องน่าจะเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียวครับ เพราะว่าระบบกล้อง ฟีเจอร์ด้านการถ่ายรูปเป็นเรื่องใหญ่ในการตัดสินใจซื้อมือถือด้วยอย่างไม่น่าเชื่อ การพัฒนาเรื่องกล้องให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วยจะช่วยให้คราวนี้ล่ะคนรักการถ่ายภาพ มอง iPhone มากขึ้นเพราะที่ผ่านมามือถือจากคู่แข่งหลายรุ่นชูเรื่องของกล้องมาเป็นจุดขายเช่นกัน ใน iPhone 5S นั้นเป็นไปได้สูงว่าความละเอียดของกล้องนั้นจะสูงไปถึง 13 ล้าน Megapixels และเลนส์ของตัวกล้องที่จะได้ภาพมุมที่กว้างมากกว่า ระบบการทำงานของกล้องที่พัฒนาให้ฉลาดมากขึ้น การถ่ายรูปจะสนุกขึ้นรวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์เกี่ยวกับกล้องที่จะทำให้เล่นกับความสามารถของกล้องได้เต็มที่

ดีข้างนอกแล้วต้องดีจากข้างในด้วย หน้าจอการทำงาน iOS7 แปลก ล้ำ และโดน!!! แม้ว่าตอนแรกเห็นผมจะไม่ปลื้มเจ้าหน้าตาดีไซน์ออกแบบของ iOS 7 เท่าไหร่นักแต่พอได้ลองใช้งาน ต้องบอกว่าสะดวกง่ายและดี สิ่งที่ทำให้ iOS 7 นั้นช่วยเสริมให้ iPhone รุ่นใหม่นั้นขายดีขึ้นก็เพราะ มันช่วยเรื่อง Multi-Tasking การทำงานฟังก์ชัน หรือ Application หลายๆ ตัวพร้อมๆ กันซึ่งเป็นปัญหามากของ iOS และโดนโจมตีมาตลอดจากคู่แข่งทั้ง Android และ Windows Phone คราวนี้จะใช้งานหลายๆ App แล้วใช้งานสลับกันไปมา ใช้พร้อมๆ กันได้สะดวกขึ้นเยอะเลย เรื่องการออกแบบหน้าจอการทำงานแบบราบเรียบ Flat Design ซึ่งก็ช่วยสร้างความต่างได้พอสมควรเช่นกันและการดีไซน์แบบนี้ก็จะเปลี่ยนเทรนด์การออกแบบของตลาด Application และดีไซน์ทั่วโลกด้วย

แค่น้ำจิ้มสามฟีเจอร์ใหม่ใน iPhone นี่แหละที่จะเป็นตัวสำคัญในการตัดสินใจเปลี่ยนมือถือมาหลงรัก iPhone 5S ได้มากขึ้นแน่ๆ แต่ไม่รู้จะน่าสนใจพอจะเปลี่ยนใจคนที่ใช้ Android มาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้รึเปล่า แต่โดนใจสาวกที่ใช้อยู่เป็นแน่ครับ ซื้อใช้แล้วก็ต้องใช้ให้คุ้มนะครับ แล้วมาโม้ให้ฟังบ้างที่ @butthun ครับ
.......................................

(หมายเหตุ สามฟีเจอร์ใหม่ที่จะทำให้ iPhone 5S ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า : คอลัมน์ ดิจิตอลเลนส์ โดย... นิวัฒน์ ชาตะวิทยากูล)

สนับสนุนเนื้อหา: blog.butthun.com

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

ช้าอด!! True Store ลดราคามือถือ - แท็บเล็ตเพียบ

ช้าอด!! True Store ลดราคามือถือ - แท็บเล็ตเพียบ

True Store - วันนี้ True Store จัดเต็มพาเหรดลดราคามือถือ-แท็บเล็ต ลงหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น iPad Mini, iPhone 5, iPhone 3Gs หรือมือถือในตระกูล Nokia, HTC, Samsung, Blackberry และ Sony Xperia

หากตอนนี้ใครกำลังมองหาสมาทรโฟนรุ่นใหม่ไว้สำหรับใช้งาน ทางทีมงาน Sanook! Hitech แนะนำให้รีบเลย...... ช้าอดของหมด จะมาเสียดายนะครับ!!

ที่มา: truemoveh.truecorp.co.th

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

อย่าเพิ่งซื้อ iPad 4, iPad mini เพราะ iPad 5, iPad mini 2 มันกำลังจะมาแล้ว

อย่าเพิ่งซื้อ iPad 4, iPad mini เพราะ iPad 5, iPad mini 2 มันกำลังจะมาแล้ว

iPad นับได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของยอดขายและยอดผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นพอสมควร ด้วยความที่เป็นแท็บเล็ตตัวแรกในยุคนี้จากทาง Apple ซึ่งเป็นคนคิดค้นขึ้นมา โดยในส่วนของรุ่นแรกได้เปิดตัวเมื่อช่วงปี 2010 จวบจนเป็น iPad 4 (iPad with Retina Display) ที่ถ้ายังจำกันได้ก็ยังไม่มีใครบอกได้เลยว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ และเป็นต้นแบบให้กับผู้ผลิตรายอื่นๆ ได้หันมาผลิตแท้บเล็ตตามบ้าง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Google ที่เป็นระบบปฏิบัติการ Android หรือ Microsoft ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8

ซึ่งในช่วงนี้ก็ต้องบอกว่าใกล้มากๆ แล้ว ที่ทาง Apple จะทำการเปิดตัว iPad 5 และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยจากข่าวล่าสุดคาดการณ์ว่าเป็นวันที่ 10 กันยายนนี้ เพราะจากปีที่แล้วในการเปิดตัว iPad 4 (iPad with Retina Display) ก็จะอยู่ในเดือนสองเดือนนี้เหมือนกัน รวมไปถึง iPad mini ก็ด้วยที่เชื่อว่าจะมีการออกรุ่นใหม่เป็น iPad mini 2 ที่มีการอัพเกรดสเปกเพื่มขึ้น ส่วน iPad 5 ที่คาดเดาหรือมีภาพหลุดเป็นข้อมูลออกมา ก็จะมาพร้อมดีไซน์ใหม่คล้าย iPad mini ที่บางและเบาลงกว่ารุ่นก่อน

ฉะนั้นต้องบอกและย้ำชัดๆ เลยว่า ใครจะซื้อ iPad 4 หรือ iPad mini ให้ชะลอการซื้อแล้วกำเงินในมือแน่นๆ ไว้ก่อน เพราะถ้าหากรีบซื้อในช่วงนี้ ผ่านไปแค่เดือนหรือสองเดือน iPad ที่เพิ่งจับจองเป็นเจ้าของอยู่นั้นอาจจะตกรุ่นและราคาขายต่อตกในฉับพลันทันที ซึ่งเชื่อว่าส่วนของอารมณ์นั้นต้องร่วงหล่นไปไม่แพ้กัน แน่นอนว่าหาก iPad 5 และ iPad mini 2 เปิดตัวในวันที่ 10 กันยายนนี้ จริงๆ ก็มีความเป็นไปได้ว่าส่วนของประเทศไทย ซึ่งมีตัวแทนจำหน่ายเป็นร้าน iStudio จะพร้อมวางขาย iPad รุ่นใหม่นี้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกันยายนหรือไม่ก็ต้นตุลาคมคืออย่างเร็วที่สุด

และอีกอย่างที่สำคัญก็คือในส่วนของราคาจำหน่าย iPad รุ่นใหม่ ทั้ง iPad 5 และ iPad mini 2 นั้น ราคาจะต้องเท่าเดิมหรือเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ ว่าจำนวนที่ซื้อ iPad รุ่นนี้ตอนนี้ ก็สามารถซื้อ iPad รุ่นใหม่ได้ในราคาเท่าๆ กัน (หรือใกล้เคียงกัน) ซึ่งก็นับว่าเป็นปกติของ Apple อยู่แล้วกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ดีไม่ดียังมีโอกาสที่ราคาจะถูกลงกว่าเดิม ที่สำคัญ iPad รุ่นใหม่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่หรือคุณสมบัติใหม่ล่าสุดอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม หากใครไม่ซีเรียสหรือกังวลว่า iPad ที่เราซื้อตอนนี้หรือกำลังจะซื้อ ณ เวลานี้ ว่าราคาหรือคุณค่าจะลดลงไปอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ หรือบางกรณีบางคนรีบใช้งานจริงๆ ก็สามารถซื้อหามาใช้งานกันได้เลย อันนี้ก็เป็นเรื่องของตัวใครตัวเผือกก้แล้วกัน แต่ก็อย่าหาว่าเราไม่เตือนคุณล่ะ ส่วนถ้าใครคิดว่าอย่าเพิ่งรีบไปซื้อเลยไอ้ iPad 4 และ iPad mini ก็ช่วยบอกต่อเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างของคุณด้วย เพราะว่าบางคนไม่ตามเทคโนโลยีก็ไม่รู้จริงๆ ว่า iPad รุ่นใหม่ เค้ากำลังจะออกกันแล้วนะ

* อีกข้อมูลหนึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า iPad mini 2 จะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้าอีกด้วย

ปิดท้ายด้วยสิ่งที่คาดว่าจะเปลี่ยนไปใน iPad รุ่นใหม่ เริ่มด้วย iPad 5 ก่อนก็แล้ว มีดังต่อไปนี้

iPad 5 ดีไซน์โดยรวมคล้าย iPad mini รุ่นปัจจุบัน iPad 5 มีพื้นที่ขอบจอที่เล็กลง iPad 5 มีน้ำหนักเบาลง iPad 5 มีความบางที่บางมากกว่าเดิม iPad 5 มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น iPad 5 มีกล้องที่ถ่ายรูปดียิ่งขึ้น

และต่อกันด้วย กับในส่วนของ iPad mini 2

iPad mini 2 มาพร้อมหน้าจอ Retina Display iPad mini 2 มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น iPad mini 2 มีกล้องที่ถ่ายรูปดียิ่งขึ้น iPad mini 2 มีสีให้เลือกมากกว่่า สีขาวและสีดำ iPad mini 2 ราคาอาจจะถูกลงกว่าเดิม
 

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com