ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ไอโฟน6 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ไอโฟน6 แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เปรียบเทียบภาพถ่าย ระหว่าง iPhone 6 และ iPhone 6S ทั้งกล้องหน้าและหลัง ต่างกันมากน้อยแค่ไหน

อย่างที่ทุกท่านทราบกันเป็นอย่างดีว่า iPhone 6S นี้ ถูกอัปเกรดให้ดีขึ้นจาก  ในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน, การประมวลผล รวมไปถึง กล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
ซึ่งในวันนี้ ทีมงานจะมาทดสอบใช้งานกล้องถ่ายรูปกัน
โดย iPhone 6S มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งอัปเกรดจาก 1.2 ล้านพิกเซลบน iPhone 6 นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับไฟแฟลชแบบ Retina Flash ที่กล้องด้านหน้าอีกด้วย พร้อมเพิ่มฟังก์ชัน Live Photo (ไอคอนสีเหลือง) ภาพแบบเคลื่อนไหวพร้อมเสียง โดยสามารถดูภาพเหล่านี้ได้ ด้วยการกดลงไปที่รูปภาพนั้นๆ ส่วนกล้องด้านหลัง มาพร้อมกับความละเอียด 12 ล้านพิกเซล อัปเกรดจาก 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดการถ่ายภาพ 6 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Time-Lapse, Slo-Mo, Video, Photo, Square และ Pano
ทดสอบการใช้งานกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ภาพจากกล้องด้านหน้าบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
มาเริ่มทดสอบการถ่ายภาพด้วยกล้องด้านหน้ากันก่อน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ภาพจาก iPhone 6S นั้น นอกจากจะมีความคมชัดมากกว่าแล้ว ยังให้สีสันที่สวยสดกว่าด้วย
ภาพจากกล้องด้านหน้าบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
มาลองถ่ายภาพกลางแจ้งกันบ้าง จะเห็นได้ว่า ภาพจากกล้องด้านหน้าของ iPhone 6S ยังให้สีสันที่สวยกว่าเหมือนเช่นเคย แต่คนที่ชอบถ่ายภาพแนวฟรุ้งฟริ้ง อาจจะไม่ถูกใจนัก เพราะตัวแอปฯ กล้องบน iPhone 6S ไม่สามารถปรับความเนียนของใบหน้าได้ ยกเว้น ปรับความสว่าง หรือใส่ฟิลเตอร์เท่านั้น
ทดสอบการใช้งานกล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
สำหรับกล้องด้านหลัง ได้ปรับความละเอียดเพิ่มขึ้น จากเดิม 8 ล้านพิกเซล เป็น 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับปรับเซ็นเซอร์ใหม่, โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพใหม่ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยขึ้นกว่าเดิมครับ
ทดสอบการถ่ายภาพตอนกลางคืน
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
ภาพจากกล้องด้านหลังบน iPhone 6S (ซ้าย) vs iPhone 6 (ขวา)
สำหรับการรีวิวในครั้งนี้ เป็นการทดสอบการใช้งานกล้องถ่ายรูปแบบทั่วๆ ไปกันก่อน ซึ่งในครั้งหน้า ทีมงานจะเจาะลึกฟีเจอร์ในนั้น ต้องติดตามกันให้ดีครับ
บทความโดย : techmoblog.com

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

"ไอโฟน 6" แรงจัด ยอดซื้อคึกคักปลุกกำลังซื้อช่วงท้ายปี ลงขันอัดฉีดเงินกระตุ้นยอดขายเต็มพิกัด "ดีแทค" จัดหนักใช้ครบปีเปลี่ยนเครื่องใหม่ฟรีหวังดูดลูกค้าคู่แข่ง "ทรูมูฟ เอช" เผยกระแสดีกว่ารุ่นก่อนถึง 3 เท่า



แหล่งข่าวต่างๆในธุรกิจโทรศัพท์ มือถือกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ค่ายมือถือทุกเจ้าโหมกันเต็มที่เพื่อกระตุ้นยอดขายไอโฟนรุ่นใหม่ เพราะประเมินแล้วว่าจะมีลูกค้าใหม่ที่อยากใช้ iphone และกลุ่มเดิมที่รอเปลี่ยน เครื่องรุ่นใหม่เป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งทำให้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ไอโฟนน่าจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ที่ทำยอดขายได้ดีมาก แม้ช่วงที่ผ่านมากำลังซื้อในตลาดจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้แอปเปิลเองก็มีแผนโปรโมตไอโฟนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ด้วย

"งบของการตลาดและในการโฆษณาประชาสัมพันธ์โดยรวม น่าจะเกือบ 500 ล้านบาท เพราะนอกจากแอปเปิลจะใส่เองแล้ว ในสัญญาการตลาดที่ได้ทำไว้กับค่ายมือถือจะระบุไว้ชัดเจนว่าแต่ละบริษัทจะต้องเตรี ยมงบฯโฆษณาขั้นต่ำแต่ละปีๆไว้จำนวนหนึ่งอีกด้วย รวมกันแล้วคงหลายร้อยล้านบาท"

ด้าน นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด และการขาย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) เปิดเผยว่า หลังจากแอปเปิลได้วางจำหน่ายไอโฟน 6 ทั้ง 2 รุ่นเป็นทางการในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2557 เป็นต้นไป ถือเป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน

ขณะนี้ จากทั้งดีไซน์และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนๆ ทำให้มีลูกค้ามาลงทะเบียนจองผ่านเว็บไซต์ และสั่งซื้อเป็นจำนวนมากอีกด้วย ทั้งการที่ไอโฟน 6 และ 6 พลัส มีขนาดหน้าจอต่างกันทำให้ทำตลาดง่ายขึ้นอีกด้วย

"เรา เตรียมแผนการตลาดเต็มตัว แต่ที่ไม่ได้จัดอีเวนต์ใหญ่ของในวันขายวันแรก เพราะต้องการให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสูงสุด โดยจะให้ลูกค้าเลือกสถานที่และวันที่จะไปรับเครื่องได้เอง นอกจากนี้ยังให้สิทธิ์ลูกค้าเดิมที่ใช้งานตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป และใช้แพ็กเกจรายเดือนสูงกว่า 299 บาท ได้สิทธิ์ซื้อเครื่องราคาพิเศษ ติดสัญญา 12 เดือน"

โดยราคาiphone 6 ของAISอยู่ที่ 24,300 บาท, 27,650 บาท และ 30,850 บาท (ความจุ 16, 64 และ 128 GB) ส่วนiphone 6 plus ราคา 28,150 บาท, 31,350 บาท และ 34,450 บาท ติดสัญญา 12 เดือน (เครื่องเปล่าราคาแพงกว่า 2,000-5,000 บาท) ได้สิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือนทุกธนาคาร ส่วนแพ็กเกจรายเดือนเริ่มต้นที่ 350 บาท (โทร. 150 นาที อินเทอร์เน็ตใช้ได้ไม่จำกัด (ความเร็วสูงสุด 2 GB) และฟรีไวไฟ)โดยผู้ที่ลงทะเบียนจองซื้อเครื่องหมื่นคนแรกติดฟิล์มกันรอย ฟรี และรับเอไอเอส โมบายแคร์ นาน 4 เดือนฟรี

ด้านนายปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า กระแสการสั่งซื้อไอโฟน 6 ทั้งสองรุ่นดีกว่าiphone 5s และ 5c กว่า 3 เท่าตัว เนื่องจากเครื่องมีลักษณะแตกต่างจากเดิมชัดเจน มีหน้าจอให้เลือก 2 ขนาด ซึ่งยอดจองiphone 6 และiphone 6 plus มีจำนวนใกล้เคียงกัน และเมื่อประเทศไทยขึ้นมาเป็น กลุ่ม Tier 1 ที่แอปเปิลให้ความสำคัญ จึงไม่มีปัญหาเรื่องของไม่พอขายแน่นอน

"เรายืนยันว่าได้ สินค้ามาเยอะที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทั้งที่ได้มาขายให้ผู้บริโภคทั่วไป และแบ่งให้ไอสตูดิโอไปจำหน่ายอีกทาง ดังนั้นมั่นใจได้เลย ครั้งนี้สินค้าไม่ขาดเป็นเดือนเหมือนที่ผ่านมาแน่"

เมื่อ ซื้อพร้อมแพ็กเกจรายเดือน เริ่มต้นที่ 399 บาท จะอยู่ที่ 24,600 บาท, 28,550 บาท และ 32,400 บาท สำหรับiphone 6 และ 28,550 บาท, 32,400 บาท และ 36,300 บาท สำหรับiphone 6 พลัส ส่วนเครื่องเปล่าแพงกว่าที่ 1,000-3,000 บาท

ส่วน เครื่องเปล่าที่ขายผ่าน "แอปเปิล สโตร์" ในไทย iphone 6 ราคา 24,900 บาท, 28,900 บาท และ 32,900 บาท iphone 6 พลัส อยู่ที่ 28,900 บาท, 32,900 บาท และ 36,900 บาท

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (ดีแทค) กล่าวว่า ดีแทคก็มีแพ็กเกจพิเศษ (UP Package) ให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องiphone 6 และ 6 พลัส พร้อมแพ็กเกจ เมื่อใช้บริการครบ 12 เดือน จะได้สิทธิ์แลกสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ฟรี หรือรับส่วนลดค่าเครื่อง เช่น ในแพ็กเกจ Up1 จ่าย 899 บาท/เดือน โทร.ฟรี 7 โมงเช้าถึง1 ทุ่ม ใช้อินเทอร์เน็ต 3G/4G-ความเร็วสูงสุดที่ 5GB รับส่วนลดจากค่าเครื่อง 19,000 บาท เมื่อนำiphone 6 มาแลกซื้อ และรับส่วนลด 20,550 บาท เมื่อนำiphone 6 พลัส มาแลกซื้อ เป็นต้น ถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ของวงการที่มีแคมเปญในลักษณะนี้ คาดว่าในสิ้นปีจะมียอดขายกว่าแสนเครื่อง

"กระแสiphoneรุ่นใหม่กับรุ่น ที่แล้วดีพอกัน แต่ซัพพลายครั้งนี้ดีกว่าเยอะ เมื่อไทยขึ้นเป็นเทียร์ 1 เรื่องของขาดกันแทบจะไม่มี ทำให้เรากระจายเครื่องไปยังช็อปทั่วประเทศได้ตั้งแต่31ต.ค. แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าถ้าเดินเข้าไปซื้อก็จะได้เครื่องเลยไหม"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ร้านขายโทรศัพท์มือถือในมาบุญครองหลายแห่งประกาศรับซื้อiphone 6 เครื่องศูนย์ทั้ง 2 รุ่น โดยให้ราคาเพิ่มจากราคาที่ซื้อตั้งแต่ 500-3,000 บาท เนื่องจากประเมินว่าเครื่องในสต๊อกของโอเปอเรเตอร์อาจมีปัญหาไม่พอขายเกิดขึ้น จึงต้องการเก็บเครื่องไว้จำหน่ายให้กับผู้ที่ต้องการซื้อในช่วงที่ของขาด ตลาด

ที่มา:http://hitech.sanook.com/1392601

ติดตามข่าวไอโฟน ไอโฟน 6 หรือข่าวไอทีอื่นๆ ได้ที่ :http://hitech.sanook.com/search/iPhone+6

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557

ก้าวต่อไปของสมาร์ทโฟนจะเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ในช่วงของการขาดนวัตกรรม

ก้าวต่อไปของสมาร์ทโฟนจะเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ในช่วงของการขาดนวัตกรรม

          ในปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าพัฒนาการทางด้านนวัตกรรมของ Smartphone ทั้งทางด้าน Software และ Hardware นั้นแทบจะหยุดนิ่งเลยทีเดียว เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาบริษัทวิจัย IDC ได้คาดการณ์ Smartphone ไว้ถึง 5 ปี(ถึงปี 2018) ว่านวัตกรรมของ Smartphone จะมีการชะลอตัวกันอย่างกว้างขวาง ดังจะเห็นได้ว่านวัตกรรมจำนวนมากที่เปิดตัวไปในปี 2013 เป็นเพียงรูปแบบของการปรับปรุงนวัตกรรมเก่าให้ดีขึ้นเท่านั้น แถมยังมีหลายๆ นวัตกรรมถูกตั้งคำถามว่ามันมีความคุ้มค่าที่จะใช้งานจริงหรือไม่
          ด้วยการชะลอตัวทางด้านนวัตกรรมของ Smartphone เราจึงจะได้เห็นการพัฒนา Smartphone ไปในทิศทางที่ทำให้ Smartphone เป็นศูนย์กลางของอุปกรณ์อื่นๆผ่านการเชื่อมต่อทาง Bluetooth มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น Smartwatch, อุปกรณ์สวมใส่ และข้าวของเครื่องใช้ขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นของใช้ภายในบ้านหรือรถยนต์ของคุณ จนเรียกได้ว่าเมื่อเชื่อมต่อกันคุณจะมีระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตย่อยๆ ของคุณเองเลยทีเดียว
          จากการเปิดตัวของ 2 Smartphone จากค่อยยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung Galaxy S5 และ HTC One M8 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานก็มีคำถามกลับมามากมายว่าอะไรคือสิ่งที่พัฒนาขึ้นมา สำหรับ Smartphone ในปี 2014 นี้ IDC ได้ให้ความเห็นว่าผู้ผลิตควรสร้างจุดยืนให้ Smartphone เป็นดังศูนย์กลางของนวัตกรรมของอุปกรณ์ทุกอย่าง ไม่ใช่แค่เป็นเครื่องบำรุงรักษาอย่างที่ตอนนี้ Smartphone กำลังเป็นอยู่ ในความหมายก็คือผู้ผลิตควรจะสร้าง Smartphone ให้เป็นดั่งกับรีโมทควบคุมสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือ บริการ รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัยด้วย IDC กล่าวว่านี่จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นที่จะทำให้นวัตกรรมมีการพัฒนาขึ้นเท่า นั้น
          Ramon Llamas หนึ่งในผู้เขียนรายงานของ IDC กล่าวว่าเหตุการการชะลอตัวของนวัตกรรมของ Smartphone นี้เกิดขึ้นกับ Smartphone ทุกๆ ระบบปฎิบัติการณ์เช่น iPhone 5s ที่ถึงจะมาพร้อมกับ CPU ที่ประมวลผลได้แบบ 64 bit ตัวแรกของโลก กับ iOS 7 ที่เปลี่ยนแนวทางของ UI ไปมาก แต่ก็ไม่มีส่วนไหนเลยที่จะเป็นนวัตกรรมที่จับต้องได้ ไม่เหมือนอย่างตอนที่มีการเปิดตัว Facetime หรือ Siri 
          Llamas กล่าวต่อว่า Samsung Galaxy เองก็เช่นกัน อย่าง S5 ที่มาพร้อมกับการชูโรงเป็นเครื่องที่ป้องกันน้ำได้ ซึ่งนี่ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่เลย และหากย้อนกลับไปตอนสมัย s4 ที่มีการเปิดตัวนวัตกรรมอย่างเช่น การใส่รูปภาพเข้าไปในรูปที่ถ่ายออกมา, ฟังก์ชันที่ให้คุณเลื่อนเวปไซต์ได้ด้วยตาของคุณ และฟีเจอร์ที่จะหยุดเล่นวีดีโอตอนที่สายตาของคุณออกห่างจากเครื่อง ซึ่งทั้ง 3 สิ่งที่กล่าวมาฟังดูเหมือนดูดีแต่ในความเป็นจริงมันกลับใช้งานไม่ได้ทุก ครั้งไปซึ่งมันทำให้น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
          นักวิเคราะหฺ์ตลาดได้ให้ความเห็นว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ผู้ใช้จะไม่เปลี่ยน Smartphone ใหม่กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ใช้รายนั้นพึ่งซื้อ Smartphone ในช่วงปี 2013 ผมว่าแนวคิดนี้ก็ถูกส่วนนึงนะครับ เพราะตัวผมเองหลังจากการเปิดตัวSamsung Galaxy S5 และ HTC One M8 ก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกอยากได้เลยแม้แต่น้อย ไม่เหมือนกับตอนที่มีการเปิดตัวของ Smartphone รุ่นใหม่ในช่วงปี 2012-2013 และคุณหล่ะครับคิดเห็นอย่างไร 
ที่มา : computerworld
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ

วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

Sony Xperia Z2 จ่อเข้าไทยปลายเดือนนี้

Sony Xperia Z2 จ่อเข้าไทยปลายเดือนนี้
          โซนี่ เตรียมรุกตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมียม เน้นดีไซน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งาน โดยจะนำ Sony Xperia Z2 ที่เปิดตัวครั้งแรกในเอเชียเข้าตลาดไทย ปลายมีนาคมนี้

         ผู้บริหาร โซนี่ ไทย จำกัด บอกว่า  ปีนี้ โซนี่จะเน้นเรื่องอีโค ซีส เท็ม ที่สามารถนำอุปกรณ์เสริมอื่นๆ มาเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อรองรับความสนใจของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น โดยจะนำสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม มาทำตลาดตอบโจทย์ผู้ใช้งานในระดับบน และเน้นเรื่องการดีไซน์ของอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน
          สำหรับผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน ที่เปิดตัวในงาน Sony mobile Southeast Asia and Oceania Public Announcement ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา โซนี่ ไทย จะนำเข้ามาจำหน่ายได้ประมาณช่วงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ โซนี่ เอ็กซ์พีเรีย แซด 2 , เอ็กซ์พีเรีย แซด 2 แท็บเล็ต , เอ็กซ์พีเรีย เอ็ม 2 และ เอ็กซ์พีเรีย ที 2 อัลตร้า
อ้างอิงจาก VoiceTV
สนับสนุนเนื้อหา: Arip
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

เข้าสู่เขต ‘พื้นที่หวงห้าม’

เข้าสู่เขต ‘พื้นที่หวงห้าม’

มีเพียงไม่กี่คนที่ได้ติดตามเรื่องราวของฟูกุชิมะอย่างใกล้ชิดมากเท่ากับ Jeremy Suttun-Hibbert ผู้ซึ่งเข้าไปสู่พื้นที่หวงห้ามเพื่อทำสารคดีเกี่ยวกับผลกระทบของมัน
คุณลงหลักปักฐานอยู่ที่ญี่ปุ่นมาแล้ว 9 ปี อะไรที่ทำให้ให้คุณไปยังที่นั่น และทำไมตอนนี้คุณจึงตัดสินใจย้ายกลับไปสก็อตแลนด์?
ผมก็เหมือนๆ กับอีกหลายคนที่เดินทางไปญี่ปุ่นนั่นแหละ ก็คือไปเพื่อความรัก ผมได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นภรรยาของผม และตอนแรกผมก็เดินทางไปที่นั่นเพื่อที่จะอยู่กับเธอ หลังจาก 9 ปีผ่านไป ผมก็อยากจะกลับไปยังสก็อตแลนด์บ้านเกิดของผม ที่นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมาก มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย และผมก็ต้องการที่จะมาถ่ายรูปที่นี่อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นหายนะที่เกิดขึ้น 3 ครั้ง ได้แก่ แผ่นดินไหว สึนามิ และมหันตภัยนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นได้ทำให้ผมและภรรยาต้องใคร่ครวญอย่างรอบคอบ ว่าเราต้องการจะอยู่ที่ไหนกันแน่ เราต้องการจะทำอะไร และยังเป็นเรื่องความปลอดภัยของลูกสาววัย 5 ขวบของเราด้วย
คุณกำลังทำอะไรอยู่ที่ญี่ปุ่นช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิตอนนั้น?
ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นนั้น ผมกำลังอยู่ในย่านกลางกรุงโตเกียว และทันใดนั้นผมก็รู้ว่ามันใหญ่กว่าและรุนแรงมากกว่าที่ผมเคยพบมาก่อนเยอะ โชคยังดีที่ผมมีกล้องติดตัวอยู่และผมก็ได้ถ่ายภาพตามท้องถนนก่อนที่แผ่นดิน ไหวจะจบเสียอีก ผมใช้เวลาอีกราว 2 ชั่วโมงหลังจากนั้นในการถ่ายภาพผู้คนที่หลั่งใหลลงมาจากอาคารสำนักงานมายัง ท้องถนน และพบว่าไม่สามารถไปไหนได้เนื่องจากขนส่งสาธารณะทุกแห่งถูกปิด จากนั้นผมก็ค่อยๆ เดินทางกลับบ้านเพื่อพบกับครอบครัวและส่งภาพที่ผมเพิ่งจะถ่ายไป
วันต่อมาผมได้เดินทางขึ้นไปทางเหนือมุ่งไปยังพื้นที่ที่เกิดสึนามิพร้อม กับเพื่อนนักข่าวคนอื่น เมื่อพวกเราเข้าไปใกล้ฟูกุชิมะ เราได้ยินมาว่าโรงงานนิวเคลียร์ซึ่งอยู่บนถนนถัดจากเราไปเล็กน้อยเกิดระเบิด ขึ้น บางคนในทีมก็ยังเดินทางต่อไป แต่ผมรวมถึงเพื่อนร่วมงานมุ่งหน้ากลับโตเกียว เนื่องจากไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลของการระเบิดและการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสี ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
 คุณได้กลับมาอีกในปีนี้เพื่อทำสารคดีเกี่ยวกับว่าผู้คนและสถานที่ ต่างๆ รอดพ้นหายนะมาได้อย่างไร คุณพอจะอธิบายได้ไหมว่าในพื้นที่หวงห้ามตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
ผมได้กลับไปยังพื้นที่โทโฮคุอีกหลายครั้ง โดยไปยังบริเวณที่ถูกสึนามิและยังไปที่ที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ ‘พื้นที่หวงห้าม’ หรือ ‘the zone’ ดังที่เราอ้างถึง
ในบริเวณที่ถูกสึนามินั้น เมืองแต่ละเมืองต่างก็ได้จัดการกับหายนะในแบบของตัวเอง บางเมืองก็สามารถเก็บกวาดซากปรักหักพังทั้งหลายได้ค่อนข้างรวดเร็ว และถึงกับเริ่มก่อสร้างขึ้นใหม่เลยด้วยซ้ำ ในเมืองอื่นๆ นั้นยังมีเศษซากทั้งหลายอยู่ และดูราวกับว่ามีความคืบหน้าไปเล็กน้อยมาก แต่ทุกคนแสดงออกถึงบุคลิกที่น่าประทับใจและพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะ ดำเนินชีวิตต่อไป และจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ในพื้นที่หวงห้ามของปรมาณูหรือในเขตรัศมี 20 กม.รอบๆ โรงงานฟูกุชิมะไดอิจิได้มีการอพยพทุกๆ คนออกไป ภายในพื้นที่นั้นดูราวกับว่าเวลาได้หยุดนิ่ง ยังมีรถยนต์พลิกหงายท้องอยู่ตามทุ่ง อันเป็นผลจากคลื่นสึนามิ และหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 12 มีนาคม 2011 ยังคงวางอยู่ด้านนอกร้านขายหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ และหลอนอยู่บ้างเล็กน้อย
 ในฐานะที่เป็นช่างภาพ คุณต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัดอะไรบ้าง?
เนื่องจากบริเวณที่ถูกสึนามินั้นเป็นบริเวณกว้าง การเดินทางไปทั่วบริเวณนั้นจึงได้รับการอนุญาตโดยเสรี แต่การเข้าไปสู่พื้นที่หวงห้ามปรมาณูนั้นถูกควบคุมจากการปิดถนนของตำรวจ และหากคุณเข้าไปยังพื้นที่นั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็อาจจะได้รับอันตรายจากเหตุอาชญากรรมและอาจถูกปรับได้ ผมสามารถเข้าไปยังพื้นที่ได้ 3 ครั้งจากการทำงานที่แตกต่างกัน แม้ว่าคุณจะต้องถูกนำเข้าไปโดยคนซึ่งได้รับอนุญาตหรือจากหน่วยงานให้ทำได้ เท่านั้น มีครั้งหนึ่งที่ผมเข้าไปพร้อมกับคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเกษตรกรที่กลับไปตรวจดูสัตว์เลี้ยงของเขา และอีกครั้งหนึ่งผมได้เข้าไปกับตำรวจที่เข้าไปตรวจสถานที่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ต้องใช้เวลาในการเข้าไป หรือต้องหาช่องทางที่ถูกต้องในการเข้าไป แม้กระทั่งเมื่อคุณได้เข้าไปแล้ว คุณก็จะได้มีเวลาอยู่เพียง 2 ชั่วโมงในแต่ละครั้งเท่านั้น ยังไงก็แล้วแต่มันเป็นพื้นที่ที่มีสารปนเปื้อนอยู่ในระดับสูง และผมก็ไม่อยากจะใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานเกินไปอยู่ดี
 คุณสามารถถ่ายภาพได้อย่างปลอดภัยได้อย่างไรในพื้นที่ซึ่งปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีขนาดนั้น?
คุณต้องเร็วและเดินทางไปพร้อมกับเครื่องป้องกันที่เหมาะสม ผมใส่รองเท้าบูตซึ่งสามารถล้างได้โดยง่าย และชุด Tyvek ซึ่งสวมทับเสื้อผ้าของผม และถูกทำลายอย่างเหมาะสมตอนที่ออกจากพื้นที่ นอกจากนั้น ผมยังนำเครื่องวัดกัมมันตภาพรังสีติดตัวไปด้วยเพื่ออ่านค่ารังสี และยังมี dosimeter ที่บันทึกว่าผมได้รับกัมมันตภาพรังสีไปเท่าไรแล้ว ผมได้เอา dosimeter ติดตัวไปทุกๆ ครั้ง และมันก็จะบันทึกการได้รับรังสีของผมไปเรื่อยๆ ผมได้รับ dosimeter เป็นอภินันทนาการจากกรีนพีซอันเป็นลูกค้าของผมเอง และเครื่องพวกนี้ก็คอยบันทึกระดับการได้รับรังสีของผม
ผมยังพยายามอยู่บนพื้นยางมะตอยหรือบนพื้นที่แข็งๆ ซึ่งฝนอาจชะกัมมันตภาพรังสีออกไปบ้างแล้ว การเดินเหยียบทราย หรือกรวดทราย หรือลงไปในโคลน อาจนำไปสู่การปนเปื้อนในระดับสูงในรองเท้าของคุณได้
 คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าอุปกรณ์กล้องของคุณ ‘สะอาด’ แล้ว?
ผมเดินทางแบบเบาๆ โดยเอาอุปกรณ์ไปให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมได้สะพายกล้อง Canon ไป 2 ตัว ได้แก่ 5D และ 1D Mark III ซึ่งติดเข้ากับเลนส์ 16-35 มม. f/2.8L II USM และ 70-200 มม. f/2.8L IS USM ผมต้องคอยดูไม่ให้กล้องต้องสัมผัสกับอะไร หรือเอาไปวางไว้บนพื้นซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้อาจจะได้รับกัมมันตรังสีปนเปื้อน ได้ และหลังจากออกจากพื้นที่หวงห้ามนี้แล้ว พวกอุปกรณ์ทั้งหลายจะต้องถูกเช็ดทำความสะอาดด้วยกระดาษแบบเปียกซึ่งจะถูกนำ ไปกำจัดทิ้ง ถ้าหากผมอยู่ที่สถานีตรวจเช็คซึ่งผมจะต้องผ่านเครื่องตรวจกัมมันตภาพรังสี ด้วยนั้น ผมจะต้องนำอุปกรณ์กล้องผ่านการสแกนด้วย
 เมื่อต้องลงพื้นที่อันตรายซึ่งมีขนาดใหญ่ขนาดนั้น คุณเริ่มต้นที่จะหาภาพอย่างไร?
ในพื้นที่หวงห้ามปรมาณูค่อนข้างจะยากในการเล่าเรื่องนะ เราไม่สามารถเห็น ชิม ดม หรือว่าได้ยินรังสีได้เลย แต่ผมพยายามที่จะหาในแง่มุมของคน ผมได้ถ่ายภาพชาวนาที่กำลังกลับไปดูแลสัตว์เลี้ยงของเขาซึ่งเขาไม่สามารถจะทน ทำลายพวกมันได้ หรือผมก็ถ่ายภาพตำรวจที่กำลังเดินลาดตระเวน เดินค้นหาข้างหลังซากบ้านปรักหักพัง หรือเดินเข้าไปท่ามกลางชิงช้าและกระดานลื่นภายในสนามเด็กเล่น แม้ว่าบริเวณดังกล่าวจะว่างเปล่า แต่คุณก็ต้องสื่อสารความรู้สึกของการสูญเสียออกมาให้ได้ ทั้งการสูญเสียของผู้คนและของชุมชน
 ผู้คนซึ่งคุณได้พบ เรื่องราวที่คุณได้ยิน   สิ่งไหนที่โดดเด่นออกมามากที่สุด?
ทุกเรื่องราวที่ได้ยินมานั้นมันช่างน่าสนใจมากๆ แต่ก็เจือไปด้วยความเศร้าอีกด้วย บางทีเรื่องที่เศร้าที่สุดเป็นเรื่องของโรงเรียนประถม Okawa เด็กนักเรียนและคุณครูรอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมาได้ แต่หลังจากนั้น จากการที่มีรายงานว่าครูเกิดลังเลไม่ตัดสินใจว่าจะอพยพไปไหน ทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ และสึนามิก็พัดถล่มเข้ามา ทำให้เด็ก 74 คนรวมถึงครูเสียชีวิตไป ผมต้องไปที่แห่งนั้น 2-3 หนเพื่อไปเยี่ยมและถ่ายรูปแม่ 2 คนซึ่ง 1 ปีหลังจากเกิดโศกนาฏกรรม พวกเธอยังคงขุดโคลนเพื่อค้นหาร่างของลูกๆ ของพวกเธออยู่
ผมยืนอยู่ตรงนั้นในขณะที่หิมะในยามบ่ายของเดือนมกราคมที่หนาวเย็นกำลัง โปรยปรายลงมา ฟังแม่คนหนึ่งอธิบายว่า ลูกของเธอจะต้องเหน็บหนาวขนาดไหนที่ก้นลึกของแม่น้ำ ในขณะที่เธอกำลังค้นหาร่างของพวกเด็กๆ ด้วยเครื่องขุด JCB มันเป็นช่วงเวลาที่สุดสะเทือนใจและทำให้ผมต้องเสียน้ำตา หลังจากนั้นไม่นาน แม่ได้นำกาแฟร้อนจากรถยนต์ของเธอมาให้พวกนักข่าวรวมถึงผมด้วย ความใจดีและเป็นมิตรของเธอนั้นช่างสุดยอดจริงๆ
Deserted streets, in Namie town, inside the 20kilometre nuclear exclusion zone (which has been evacuated due to high levels of nuclear radiation contamination from the explosion of Fukushima Daiichi nuclear plant on March 11th 2011, following the earthqua
01 Deserted Town of Namie
เนื่องมาจากตัวเมืองและพื้นที่หวงห้ามทั้งหลายไม่มีใครอยู่เลย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องออกตรวจตราเพื่อป้องกันอาชญากรรมและโจร ผู้ร้ายในบริเวณที่อยู่อาศัยและสำนักงานที่ปราศจากผู้คน

Young nursery school children play in the Red Cross 'Smile Park'- a children's play facility set up to give Fukushima children, whom can't play outdoors due to fears of radiation, somewhere to have fun, in Fukushima city, in Fukushima prefecture, Japan, o
02 Indoor Playtime
เด็กในโรงเรียนอนุบาลเล่นอยู่ใน ‘Smile Park’ ของสภากาชาด เป็นสนามเด็กเล่นที่สร้างขึ้นมาสำหรับเด็กๆ ในฟูกุชิมะได้เล่นอย่างสนุก โดยพวกเด็กเหล่านี้ไม่สามารถเล่นนอกสถานที่อย่างปลอดภัยได้เนื่องจากสาร กัมมันตภาพรังสี

Photographer Jeremy Sutton-Hibbert photographing in the 20km nuclear exclusion zone around Fukushima Daiichi nuclear plant, in, Japan, on Monday 27 February 2012. .
03 Protection
Jeremy ซึ่งอยู่ในชุด Tyvek เพื่อป้องกัน กำลังถ่ายภาพพื้นที่หวงห้ามปรมาณูเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

Yukio Yamamoto (wearing red jacket), returns to his car after releasing his Wagyu cows onto irradiated and contaminated land, during one of his visits back to his farm that he evacuated from, near Namie town, inside the 20kilometre nuclear exclusion zone,
04 Back to the Farm
Yukio Yamamoto กลับไปที่รถของเขาหลังจากปล่อยวัว Wagyu ไปสู่สถานที่ที่ไม่ปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีระหว่างการกลับไปเยือนฟาร์ม ของเขาครั้งหนึ่ง ภายในพื้นที่หวงห้ามปรมาณู 20 กม.

Police Sergeant Yabuki Koshin (27yrs, wearing glasses, driving police car) and Constable Kanno Tomoyasu (20yrs) take a walk around the ground of Obori Kindergarten whilst on patrol in Namie town, within the evacuated, and now uninhabited 20km exclusion zo
05 On Patrol
นายสิบตำรวจ Yabuki Koshin และพลตำรวจ Kanno Tomoyasu เดินตรวจตรารอบๆ พื้นที่โรงเรียนอนุบาล Obori ในระหว่างเดินตรวจการณ์ในเมือง Namie ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่หวงห้าม
Futoshi Toba, Mayor of Rikuzentakatata city, stands within the desolated landscape where his city once stood, before it was destroyed by the March 11th 2011 tsunami, in Rikuzentakatata, in Tohoku area, Japan, on Monday 23 January 2012.
06 Lost
Futoshi Toba ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีของเมือง Rikuzentakatata ยืนอยู่ท่ามกลางแผ่นดินว่างเปล่าซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของเมือง เขาได้สูญเสีย Kumi ภรรยาของเขาไปในโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวและสึนามิ

A march/parade, on the three month anniversary of the March 11th earthquake/ tsunami/ and nuclear reactor explosion and melt down at Fukushima Daiichi nuclear plant, takes place in the streets of Shinjuku and Shibuya in Tokyo, Japan, on Saturday 11th June
07 Anti-nuclear Demo
“การประท้วงต่อต้านปรมาณูเป็นเรื่องที่น่าทำข่าวมากในโตเกียว สำหรับคนญี่ปุ่นจำนวนมาก การประท้วงนี้เป็นการประท้วงครั้งแรกของพวกเขา และการประท้วงบางเหตุการณ์ก็มีขึ้นเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศความสุขให้เกิด ขึ้นเพื่อดึงดูดบรรดาครอบครัวและพวกวัยรุ่น”

Ryuko Ishikawa (39 yrs old), a Buddhist priest whose temple Kannon-ji is situated in Namie town within the Fukushima nuclear exclusion zone, photographed wearing protective clothing in the highly radiated and now evacuated and deserted Iitate village, jus
08 Isolated
พระ Ryuko Ishikawa สวมชุดป้องกันยืนอยู่ในหมู่บ้าน Litate นอกพื้นที่หวงห้าม แต่ยังได้รับกัมมันตภาพรังสีในระดับสูงและตอนนี้ก็ร้างปราศจากผู้คน
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2557

ทำอย่างไรจึงจะ ได้ท้องฟ้าสีฟ้า?

?

          Q ทำไมภาพของฉันจึงไม่มีสีฟ้าเหมือนกับตอนที่ฉันใช้ฟิล์ม นี่ขนาดฉันใช้ฟิลเตอร์ Circular Polariser แล้วนะ? Mary Mason, via email
          Geoff ตอบว่า: ฟิลเตอร์ Circular Polarising จะได้ผลดีที่สุดเมื่อถ่ายในมุมที่เหมาะสมกับตำแหน่งของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า แม้กระนั่นก็ตาม ระบบไวท์บาลานซ์อัตโนมัติในกล้องดิจิตอลก็สามารถส่งผลในการเปลี่ยนสีสันภาย ในภาพได้ ในวันที่มีแดดและท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ถ้าคุณเลือกใช้ค่าพรีเซตไวท์บาลานซ์แบบ Daylight คุณก็น่าจะได้ผลลัพธ์ที่เที่ยงตรง และหากคุณต้องการเร่งสีสันของท้องฟ้าให้จัดจ้านมากขึ้น ลองเปลี่ยนค่า Picture Style หรือ Picture Control ไปเป็น Landscape หรือ Vivid
          อีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถทำให้ท้องฟ้าดูซีดจางก็คือในช่วงเวลาที่ท้องฟ้า สว่างกว่าทิวทัศน์มากๆ ถ้าคุณใช้ค่าการเปิดรับแสงบริเวณจากทิวทัศน์ ท้องฟ้าก็จะดูซีดจางสูญเสียสีสันที่อิ่มตัวไป ดังนั้นถ้าคุณเลือกชดเชยแสงในทางลบเพื่อปรับท้องฟ้าให้เข้มขึ้น วิธีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะการเร่งค่าความสว่างในส่วนของภาพที่มืดในขั้นตอนการปรับแต่งภาพนั้นทำ ได้ค่อนข้างง่าย
สนับสนุนเนื้อหา: www.digitalcamera-thailand.com
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

เพิ่มพลังให้ภาพถ่ายทิวทัศน์ของคุณ

ใช้ความไวชัตเตอร์ที่ต่ำสุดๆ
          อีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถแปลงโฉมภาพทิวทัศน์ของคุณก็คือการใช้ค่าความไว ชัตเตอร์ที่ยาวนานเพื่อปรับสิ่งที่เคลื่อนไหวเช่นก้อนเมฆ น้ำ หรือพุ่มไม้ให้กลายเป็นความเบลอ และเพื่อที่จะปรับภาพทะเลให้กลายเป็นความเบลอได้นั้น คุณจำเป็นต้องใช้ความไวชัตเตอร์อย่างน้อย 10 วินาที ขณะที่การสร้างความเบลอให้ก้อนเมฆนั้นต้องใช้ 30 วินาทีหรือนานกว่านั้น สิ่งท้าทายหลักของการใช้ความไวชัตเตอร์ที่ยาวนานนี้ก็คือการหลีกเลี่ยงค่า การเปิดรับแสงที่โอเวอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแสงจ้า
ความไวชัตเตอร์ที่ต่ำสุดๆ
          แม้ว่าคุณจะเลือกใช้ค่า ISO ที่ต่ำที่สุดและช่องรับแสงที่เล็กที่สุดแล้วก็ตาม คุณจะพบว่าค่าความไวชัตเตอร์ที่คุณสามารถใช้ได้ในช่วงกลางวันนั้นยังไม่นาน พอที่จะสร้างสรรค์ความเบลอได้ เพื่อที่จะใช้ค่าความไวชัตเตอร์เป็นเวลา 15 วินาทีหรือนานกว่านั้น คุณจำเป็นต้องใช้ฟิลเตอร์ Neutral Density ที่มีความเข้มเพื่อลดปริมาณแสงที่จะตกลงสู่เซ็นเซอร์
อีกทางเลือกหนึ่งก็คือการถ่ายภาพในช่วงที่แสงมีน้อยอย่างเช่นในช่วงก่อน ดวงอาทิตย์ขึ้นหรือช่วงหลังดวงอาทิตย์ตก เพราะในช่วงเวลานี้เองคุณจะสามารถใช้ค่าความไวชัตเตอร์ที่ต่ำมากๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเตอร์ ND
STEP BY STEP
การตั้งค่ากล้องเพื่อค่าเปิดรับแสงที่ยาวนาน
วิธีการใช้ฟิลเตอร์ Neutral Density เพื่อค่าการเปิดรับแสงที่ต่ำสุดๆ
DCM143.feature.s4_07_step1
1 จัดองค์ประกอบภาพ
          คุณจะแทบไม่สามารถมองผ่านช่องมองภาพที่ติดตั้งฟิลเตอร์ ND ได้เลย ดังนั้นคุณจึงต้องจัดองค์ประกอบภาพและโฟกัสภาพให้เสร็จเรียบร้อยเป็นอันดับ แรก ให้คุณตั้งกล้องบนขาตั้งกล้อง จัดองค์ประกอบภาพ ปรับโฟกัสแบบแมนวล แล้วตั้งค่าการเปิดรับแสงกล้องด้วยระบบแมนวล
DCM143.feature.s4_07_step2
2 สวมฟิลเตอร์
          ตอนนี้คุณก็สามารถสวมฟิลเตอร์เข้ากับเลนส์ของคุณ หรือจะปรับค่าความเข้มให้สูงที่สุดหากคุณใช้ฟิลเตอร์ ND แบบปรับค่าความเข้มได้ พยายามอย่าเคลื่อนหรือทำให้กล้องขยับ เพราะคุณจะจัดองค์ประกอบภาพอีกครั้งได้ยากเมื่อสวมฟิลเตอร์แล้ว
NIK04.zone_5.step6 31143ecdc10a45af845b40c7f348d418
3 ปรับค่าการเปิดรับแสง
          ระบบวัดแสงจะไม่มีความแม่นยำเวลาที่คุณใช้ฟิลเตอร์ ND ที่มีค่าเข้มๆ ดังนั้นให้คุณทำการทดลองหาค่าการเปิดรับแสงที่แม่นยำเอง ให้ตั้งค่า ISO ให้ต่ำอย่างเช่น 100 หรือ 200 จากนั้นให้ตั้งค่าการเปิดรับแสงในโหมดแมนวลเป็น f/16 และลองใช้ค่าความไวชัตเตอร์เริ่มต้นที่ 15 วินาทีสำหรับ ND 10 สต็อป
ใช้ความไวชัตเตอร์ต่ำสำหรับภาพน้ำตกที่ตระการตา
          สายน้ำที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วอย่างเช่นน้ำตกหรือลำธารนั้นเหมาะสำหรับ การเพิ่มความน่าสนใจในภาพทิวทัศน์ของคุณ แต่คุณจำเป็นต้องเลือกค่าความไวชัตเตอร์ที่เหมาะสมเพื่อที่จะบันทึกความ เคลื่อนไหวอย่างที่คุณต้องการ การเลือกค่าความไวชัตเตอร์ที่ “ปลอดภัย” ประมาณ 1/60 วินาทีถึง 1/125 วินาทีจะบันทึกรายละเอียดของน้ำได้ แต่นี่ไม่ได้เป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้น
DCM143.feature.s4_06_example
หยุดความเคลื่อนไหว
          เพื่อหยุดความเคลื่อนไหวของน้ำ ให้เลือกค่าความไวชัตเตอร์ 1/1000 วินาทีหรือที่สูงกว่านี้ คุณจำเป็นต้องถ่ายภาพในสภาพแสงที่สว่างเพื่อที่คุณจะสามารถใช้ความไว ชัตเตอร์ที่สูงเช่นนี้ได้ ใช้ค่าช่องรับแสงที่กว้างขึ้นจากค่าปกติที่คุณใช้ในการถ่ายภาพทิวทัศน์อย่าง เช่น f/4 เป็นต้น ส่วนในสภาพแสงที่ค่อนข้างน้อย ให้ตั้งค่า ISO เป็น 400 หรือสูงกว่านี้และใช้ช่องรับแสงที่กว้างขึ้นเพื่อที่คุณจะสามารถถ่ายภาพด้วย ค่าความไวชัตเตอร์สูงได้
          อีกทางเลือกหนึ่งก็คือการใช้ค่าความไวชัตเตอร์ต่ำเพื่อปรับภาพสายน้ำให้ กลายเป็นความเบลอ การจะทำเช่นนี้ได้นั้น คุณจำเป็นต้องตั้งค่าความไวชัตเตอร์ไว้ที่ 1/4 วินาทีหรือนานกว่านี้ ภายใต้สภาพแสงที่จ้า คุณอาจไม่สามารถใช้ค่าความไวชัตเตอร์ต่ำเช่นนี้ได้แม้ว่าจะตั้งค่า ISO ที่ต่ำและค่าช่องรับแสงที่ต่ำที่สุดแล้วก็ตาม ในสภาพเช่นนี้ให้คุณสวมฟิลเตอร์ Neutral Density หรือฟิลเตอร์โพลาไรซ์เข้ากับเลนส์เพื่อลดปริมาณแสงที่จะตกลงสู่เซ็นเซอร์ ใช้ขาตั้งกล้องเพื่อหลีกเลี่ยงอาการกล้องสั่น เพราะการใช้ระบบลดการสั่นไหวจะไม่เหมาะกับการถ่ายภาพลักษณะนี้
“สวมฟิลเตอร์ Neutral Density หรือฟิลเตอร์โพลาไรซ์เข้ากับเลนส์ของคุณเพื่อลดปริมาณแสงที่จะตกลงสู่เซ็นเซอร์”
สนับสนุนเนื้อหา: www.digitalcamera-thailand.com

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

BURBERRY ถ่ายทอดงานแฟชั่นวีคที่ลอนดอนผ่านแอพ WeChat (ชมคลิป)

อือฮา!! BURBERRY ถ่ายทอดงานแฟชั่นวีคที่ลอนดอนผ่านแอพ WeChat (ชมคลิป)

          เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาในงานแฟชั่นวีคที่ลอนดอน BURBERRY ได้ร่วมมือกับ WeChat ในการถ่ายทอดแฟชั่นจากรันเวย์ส่งตรงถึงมือถือของผู้ติดตาม BURBERRY บน WeChat แอพลิเคชั่นฮิตที่มีผู้ใช้กว่า 500 ล้านคนในประเทศจีนและอีกกว่า 100 ล้านคนจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยแอพลิเคชั่นนี่จะทำให้ผู้ที่ติดตาม BURBERRY สามารถโต้ตอบกับแอพลิเคชั่นได้ในแบบ Real time โดยจุดเด่นอยู่ที่ผู้ติดตามจะสามารถสั่งป้ายโลหะ “Made to” เพียงพิมพ์คำว่า Made to ตามด้วยชื่อของเรา ที่นี้เราก็จะมีป้ายชื่อของตนเองได้ไม่ซ้ำใคร คอนเทนท์นี้จะทำให้ผู้ติดตามสามารถแชร์ป้ายที่ได้รับใน WeChat ได้ทันทีหรือจะบันทึกลงโทรศัพท์ก็ได้เช่นกัน
          นอก จากนี้หากพิมพ์คำว่า look1 ส่งไป WeChat จะตอบกลับมาด้วยรูปภาพของลุคนั้นบนรันเวย์พร้อมรายละเอียดทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าและแอคเซสซอรี่ “WeChat ได้เปิดโลกใหม่ในพื้นที่ดิจิตอล – สิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับเราคือการได้สื่อสารและบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ อย่างลึกซึ้งและมีความหมายยิ่งขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์มนี้” คริสโตเฟอร์ เบย์ลี่ย์, Burberry Chief Creative Officer กล่าว นับได้ว่า WeChat เป็นแอพลิเคชั่นแรกที่ทำให้แฟนพันธุ์แท้เบอร์เบอรี่สามารถโต้ตอบกับแบรนด์ ได้อย่างทันท่วงที
โหลด WeChat มาเล่นกันได้ที่ลิงค์ด่านล่าง
 สำหรับ iPhone
 สำหรับ Andriod
 สำหรับ Windows Phone
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บ้าไปแล้ว!! ซื้อ iPhone 5S แถม Flappy Bird ราคา 3,277,666.59 บาท+

บ้าไปแล้ว!! ซื้อ iPhone 5S แถม  ราคา 3,277,666.59 บาท+

          ผมไม่เคยเล่นเกมไอ้ Flappy Bird นี้เลยนะแต่เมื่อวานนี้หลังจาก ที่เกม Flappy Bird ถูกถอดออกจาก ถูกถอดออกจาก App Store ทั้ง iOS และ Android แล้ววันนี้ ปิดตำนานเกม Flappy Bird อย่างเป็นทางการ0
          ล่าสุดนั้นมีคนตาดีแอบไปเห็นมาว่า ได้มีคนนำ iPhone 5S 16GB พร้อมติดตั้งเกม Flappy Bird
(ขอบอกนะครับว่าติดตั้งเกมส์มาในเครื่องเรียบร้อย) ไปขายใน Ebay ในราคา US $99,900.00 กว่าๆ (3,277,666.59 บาทไทย)
โดยบิทไปแล้ว 74Bit แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดบิทกันเสียด้วย ใครมีแล้วอยากขายเชิญไปลง Ebay แอบเสียดายเหมือนกันที่ในทีม Sanook! Hitech ไม่มีใครโหลดเกมนี้ไว้!!
***ส่วนสาเหตุที่ถอดออกเพราะ นักพัฒนาอย่าง Nguyen เค้าบอกว่า มันทำลายชีวิตส่วนตัวนั้นเอง
ที่มา: Dr.Bia

วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

เตือนภัย!! ข่าวข้อความหลอกลวงเรื่องคนดังเสียชีวิต R.I.P ใน Facebook

!! ข่าวข้อความหลอกลวงเรื่องคนดังเสียชีวิต R.I.P ใน Facebook

ข้อความหลอกลวง "ขอให้ไปสู่สุขคติ" หรือ "Rest in Peace" บนโซเชียลมีเดียยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินหลง, มอร์แกน ฟรีแมน, วิล สมิธ, คีนู รีฟส์ และริฮานน่า คือตัวอย่างคนดังที่มีการอ้างว่าเสียชีวิตในข้อความหลอกลวงที่นำออกเผยแพร่ในช่วงที่ผ่านมา โดยปกติแล้วข้อความดังกล่าวจะมีลิงค์เชื่อมโยงไปยังวิดีโอ ก่อนที่ผู้ใช้จะเห็นวิดีโอ เขาจะถูกล่อหลอกให้แชร์ข้อความดังกล่าวให้แก่ครอบครัวและเพื่อนๆ ทุกคน เพื่อแพร่กระจายข้อความหลอกลวงในวงกว้าง และแม้กระทั่งภายหลังการแชร์ข้อความโพสต์ ผู้ใช้จะยังคงไม่สามารถดูวิดีโอของปลอมได้ แต่จะถูกนำไปยังไซต์ที่มีโฆษณาที่ขอให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลในแบบสอบถาม โฆษณาและแบบสอบถามนั้นจะก่อให้เกิดรายได้แก่ผู้หลอกลวง ข้อความหลอกลวงรูปแบบอื่นๆ จะขอให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดปลั๊กอินสำหรับเบราว์เซอร์หรือโปรแกรมที่เป็นอันตราย ข้อความหลอกลวงประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ตราบใดที่ยังคงทำเงินได้ ก็จะยังคงมีการนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้ ผู้หลอกลวงบางรายมุ่งเน้นเรื่องราวของพอล วอคเกอร์ และโรเจอร์ โรดาส ซึ่งเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อไม่นานมานี้ แม้ว่าพื้นฐานของเรื่องราวนี้จะเป็นเรื่องจริง แต่ผู้หลอกลวงใช้กรณีการเสียชีวิตที่น่าเศร้านี้เพื่อเผยแพร่วิดีโอปลอมที่อ้างว่าเป็นภาพวิดีโอขณะที่รถพุ่งชนซึ่งไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน กลุ่มผู้หลอกลวงกลุ่มหนึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการใช้แอพพลิเคชั่นอันตรายบนเฟซบุ๊คเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงข้อความหลอกลวง โดยเพียงแค่ใช้จาวาสคริปต์ที่ระบุตำแหน่งที่ตั้ง IP อย่างง่ายๆ ผู้หลอกลวงก็จะสามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้ และเปลี่ยนทิศทางเบราว์เซอร์ไปยังไซต์ที่เหมาะกับภูมิภาคนั้นๆ ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมาและพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน การเปลี่ยนทิศทางนี้จะนำไปสู่แอพเฟซบุ๊คที่เป็นอันตราย, ไซต์หลอกลวงที่ถูกโฮสต์ในที่ตั้งระยะไกล หรือไซต์ฟิชชิ่ง แต่โชคดีที่ว่าในตัวอย่างนี้ เว็บไซต์ฟิชชิ่งดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไร เพราะเบราว์เซอร์บางชนิดทำให้เค้าโครงของไซต์แสดงผลอย่างไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ดี ในบางครั้งการเปลี่ยนทิศทางดังกล่าวอาจข้ามคำเตือนของเฟซบุ๊คเกี่ยวกับ URL อันตราย เมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้คลิกที่ลิงค์ในข้อความโพสต์บนเฟซบุ๊ค เบราว์เซอร์จะถูกเปลี่ยนทิศทางไปยังสคริปต์การถ่ายโอนข้อมูล หากเฟซบุ๊คคิดว่า URL ปลายทางมีลักษณะน่าสงสัย ก็จะแสดงข้อความคำเตือน เพื่อแจ้งผู้ใช้และอนุญาตให้ผู้ใช้รายงานว่าโพสต์ดังกล่าวเป็นสแปม เนื่องจากเว็บเพจแสดงในกรอบที่อยู่ข้างใต้คำเตือน ดังนั้นในบางกรณีจึงเป็นไปได้ว่าผู้หลอกลวงอาจเปลี่ยนทิศทางผู้ใช้ไปยังไซต์ใหม่โดยอัตโนมัติ ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้จะเห็นเฉพาะข้อความคำเตือนในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีก่อนที่จะถูกส่งไปยังหน้าแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊คที่เป็นอันตราย โดยมากแล้วมักจะมีการเปลี่ยนทิศทางหลายครั้งกว่าที่จะไปถึงเว็บเพจสุดท้าย
หากผู้ใช้พยายามที่จะติดตั้งโปรแกรมอันตราย โปรแกรมนั้นจะขออนุญาตในการอ่านข้อมูลของผู้ใช้และโพสต์ข้อความไว้ในไทม์ไลน์ เป้าหมายหลักของผู้หลอกลวงในที่นี้ก็คือ การโพสต์ข้อความผ่านทางบัญชีเฟซบุ๊คของผู้ใช้โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว เพื่อให้คนอื่นๆ หลงเชื่อข้อความหลอกลวงดังกล่าว หลังจากที่ผู้ใช้ติดตั้งโปรแกรม ข้อความหลอกลวงจะถูกโพสต์ไปยังไทม์ไลน์ของผู้ใช้ และผู้ใช้จะถูกเปลี่ยนทิศทางไปยังเว็บเพจหลอกลวงที่มีแบบสอบถาม
ในแต่ละชั่วโมง มีผู้ใช้ 200-300 คนคลิกที่ลิงค์ และบางคนก็ติดตั้งโปรแกรม แน่นอนว่าเฟซบุ๊คพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปิดกั้นลิงค์อันตรายและลบโปรแกรมดังกล่าวโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม คนร้ายใช้ระบบสร้างสคริปต์คำสั่งแบบอัตโนมัติ และแต่ละโดเมนโฮสต์สำเนาของโปรแกรมอันตรายบนเฟซบุ๊คมากกว่า 2,000 สำเนา โดยแต่ละสำเนาใช้ชื่อที่แตกต่างกันเล็กน้อย ช่วยให้ผู้หลอกลวงสามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนลิงค์อันตรายหลังจากที่โปรแกรมถูกปิดกั้น
สนับสนุนเนื้อหา: www.flashfly.net
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com