ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กล้อง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กล้อง แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

CNN ได้ไฟเขียวให้ใช้โดรนช่วยรายงานข่าวได้แล้ว

ตามแผนที่โอบามาสั่งให้สำนักงานกาบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) จัดการร่างกฏการใช้โดรนทั้งภาคเอกชน และพลเรือน ตอนนี้ก็เริ่มมีฝั่งเอกชนออกมาขยับใช้โดรนอย่างจริงจังแล้ว เริ่มด้วย  ที่เพิ่งได้รับการอนุญาตให้ทดสอบใช้งานโดรนสำหรับเก็บข้อมูลรายงานข่าว
(ภาพจาก Engadget)
โดรนที่ CNN เลือกใช้ไม่ได้เป็นระดับผู้ใช้งานทั่วไปอย่างที่เราเคยเห็นกัน แต่เป็นระดับเดียวกับที่ใช้ทางการทหาร ซึ่งจะมีหลายรูปแบบตามสถานการณ์ และติดตั้งกล้องไว้ในตัว ซึ่งน่าจะทดแทนภาพถ่ายทางอากาศ หรือภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุรุนแรงได้ในต้นทุนที่ถูกกว่า และปลอดภัยกว่าเดิม
การยอมให้ทดสอบใช้งานครั้งนี้ของ FAA เรียกได้ว่าเป็นแนวโน้มที่ดี หลังจากแบนการใช้งานโดรนในน่านฟ้าสหรัฐฯ ไปเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ก่อนจะมีประกาศให้ร่างกฏตามมาภายหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อไทยเราจะทำได้ไหมนะ เอา iPhone ติดไปกับหุ่นโดรนบินถ่ายตามแยก กับบนทางด่วนซะเลย แต่จะโดนเด็กเกรียนเอาหนังสติ๊กมายิงไหมเนี่ย...!!

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

Canon และ Apple อุปกรณ์ถ่ายภาพยอดฮิตของชาว Flickr ในปี 2014

Flickr พื้นที่ออนไลน์สำหรับคนรักการถ่ายภาพ ออกมาเปิดเผยตัวเลขน่าสนใจในปี 2014 พูดโดยสรุปคือ Canon และ  คืออุปกรณ์ถ่ายภาพที่ถูกใช้มากที่สุดในปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า Apple จะไม่ได้ผลิตกล้องถ่ายรูป แต่ iPhone ก็เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานนิยมใช้มากที่สุดสำหรับการสแน็ปเรื่องราวระหว่างการเดินทาง และอันดับที่ 3 คือ Nikon
จากสถิติของ Flickr ระบุว่าภาพถ่ายที่มาจากกล้อง Canon คิดเป็น 13.4% ตามมาด้วย iPhone 9.6% และ Nikon 9.3% ส่วนอับดับที่ 4 และ 5 คือ Samsung และ Sony
ถ้าจะดูเฉพาะภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนอย่างเดียว ต้องบอกว่า Apple กินขาด เพราะ 3 อันดับแรกของ Top 5 คือ iPhone ไล่ตั้งแต่ iPhone 5iPhone 4S และ iPhone 5C ตามมาด้วย Samsung S3 และ Samsung Galaxy S5 ปิดท้ายด้วย iPhone 6 น้องใหม่ที่เพิ่งวางขายเมื่อปลายปีก็เข้ามาอยู่ในลิสต์กับเขาด้วย
นอกจากนี้ iPad และ iPad mini ยังติดเข้ามาเป็นอันดับที่ 8 และ 10 ได้รับความนิยมพอๆ กับ HTC One
สำหรับ Top 5 ในประเภทกล้องแบบ mirrorless กล้องตัวเล็กแต่ความสามารถระดับโปร ได้แก่ Olympus E-M5, Sony A7, Sony NEX-6, Fujifilm X-E1 และ Sony NEX-5N
โดยทาง Flickr ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา มีการอัปโหลดรูปราวๆ 10000 ล้านรูปเข้ามาในระบบ จากผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

มุมกล้องสุดฮา ที่มโนต่อแล้วแซ่บเว่อร์

มุมกล้องสุดฮา ที่มโนต่อแล้วแซ่บเว่อร์  เอามาฝากกันยามบ่าย ดูแก้ง่วงดี
กระแสการถ่ายรูปกลายเป็นเทรนสุดฮิตสำหรับคนยุดนี้ แต่เชื่อไหมว่าสถานที่เดียวกัน คนๆ เดียวกัน แต่เมื่อผ่านการถ่ายรูปในมุมที่ต่างกัน ผลที่ได้ก็มีความแตกต่างกัน บางภาพดูแล้วถ้าคิดลึก มโนอีกหน่อยก็จะได้อารมณ์ที่แบบหื่นๆ เหมือนกัน มาดูกันสิว่าเป็นไงบ้าง
มุมกล้อง หมายถึง ทิศทางที่ตั้งกล้องกับวัตถุที่ถูกถ่าย ประกอบด้วยมุมหลักๆ ดังนี้
1. มุมกล้อง ออบเจกทีฟ (Objective Camera Angle) มุมกล้องมุมนี้ทำให้ผู้ดูได้เห็นภาพโดยตรงจากเลนส์กล้อง ซึ่งทำหน้าที่เสมือนตาผู้ดู
2. มุมกล้อง ซับเจกทีฟ (Subjective Camera Angle)  มุมกล้องมุมนี้ใช้กล้องแทนผู้ดู ทำให้ผู้ดูเป็นเสมือนผู้แสดงที่อยู่นอกจอ ผู้แสดงจะมองหรือพูดกับเลนส์กล้อง ทำให้รู้สึกว่าผู้แสดงในจอมองหรือพูดกับผู้ดูโดยตรง ทำให้ผู้ดูรู้สึกว่าเข้าไปมีส่วนร่วมใน ภาพยนตร์เรื่องนั้น
3. มุมกล้อง พอยต์ ออฟ วิว (Point of view camera angle, POV) มุมกล้องมุมนี้ผู้กำกับให้ผู้ดูเห็นภาพเหตุการณ์จากสายตาของผู้แสดงอีกที หนึ่ง ผู้ดูจะเห็นผู้แสดงจากมุมกล้องออบเจกทีฟ และเห็นภาพที่ผู้แสดงเห็นจากมุมกล้องพอยต์ ออฟ วิว ตัวอย่างเช่น ภาพแรกผู้ดูเห็นภาพเฮลิคอปเตอร์บินเหนือกรุงเทพฯ ตัดภาพไปที่คนขับมองลงมาข้างล่าง แล้วตัดเป็นภาพการจราจรในกรุงเทพฯ ภาพการจราจรในกรุงเทพฯ เป็นภาพจากมุมกล้องพอยต์ ออฟ วิว ของคนขับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์
4. มุมที่ผู้กำกับกำหนดขึ้นเอง (Director’s Interpretative Camera Angle) เป็นมุมกล้องที่ผู้กำกับอาจกำหนดมุมกล้องขึ้นมาเพื่อให้เรื่องราวเร้าใจ ชวนติดตามยิ่งขึ้น เพื่อให้การสื่อสารเข้าถึงอารมณ์ของผู้ดูโทรทัศน์ได้อย่างเต็มที่
สำหรับมือใหม่หัดถ่ายรูปอยากได้มุมมองภาพเก๋ๆ ก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ แค่รู้จักกับมุมมองภาพหรือที่นิยมเรียกว่ามุมกล้องโดยทั่วไปจะประกอบด้วย 3 มุม ได้แก่
1. มุมสูง (High Angle)  ตั้งกล้องถ่ายภาพยนตร์และโทรทัศน์ไว้สูงกว่าวัตถุ ถ้าเป็นภาพสถานที่กว้างใหญ่ การถ่ายภาพไกลจากมุมสูงทำให้เห็นภาพได้กว้างไกล เป็นการเปิดฉากแนะนำสถานที่ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเป็นการถ่ายคน จะเป็นการเสนอให้เห็นว่าคนๆ นั้นไม่สำคัญ เป็นคนต่ำต้อย ไม่สง่าผ่าเผย
2. ภาพมุมระดับสายตา (Eye Level Angle)  เป็นภาพที่ตั้งกล้องในระดับสายตาของคน หรือของวัตถุที่ถูกถ่าย ภาพในระดับสายตาเพื่อสื่อความหมายว่าภาพที่ปรากฏจะเป็นภาพให้ความรู้สึก ธรรมดา ไม่เด่นอะไร
3. ภาพมุมต่ำ (Low Angle) เป็นภาพที่ตั้งกล้องถ่ายในระดับต่ำกว่าคนหรือวัตถุที่ถูกถ่าย เป็นภาพที่แหงนดู สื่อความหมายหรือให้เกิดความรู้สึกว่าคนหรือวัตถุที่ถูกถ่ายมีความสำคัญ มากกว่าปกติ น่าเคารพ นับถือ

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1393829
ขอบคุณที่มาของภาพประกอบ: piximus.net/fun
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com
Hitech Gallery

วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

ทึ่ง…กล้องความละเอียด 143 MP จากทาง Epson Scanner

กลุ่มคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ มักจะชอบความแปลกใหม่ในการถ่ายทอดมุมมองต่างๆ ซึ่งก็นับว่าเมื่อคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ก็ทำให้ช่างภาพสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้อย่างน่าทึ่งมากกว่าเดิม แต่อะไรล่ะที่ทำให้การถ่ายภาพนั้นดูตื่นตามากยิ่งขึ้น Epson Scanner ได้นำเสนอกล้องดิจิตอลแบบใหม่ ความละเอียดสูง ที่ให้คุณรู้สึกถ่ายภาพได้สนุกกว่าเดิม ด้วยกล้องกลูกผสม
โครงสร้างภายในจะเป็นเมนบอร์ดของสแกนเนอร์ เซ็นเซอร์และ Stepper มอเตอร์ มีการสร้างแสงขึ้นภายใน สำหรับการ Calibrate แสงให้กับระบบอัตโนมัติ แต่จะต่างจากระบบสแกนเนอร์ที่จะไม่ได้เปิดในส่วนนี้ไว้ เมื่อตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้แล้ว ก็สามารถสร้างกล่องที่ใช้ในการถ่ายภาพที่ไม่ได้แตกต่างไปจากกล้องที่ใช้ในการถ่ายภาพในอดีต
ส่วนที่มีความต่างก็เพียงระบบที่ใช้ในการทำงานและควบคุมเท่านั้น ซึ่งกล้องที่ได้นั้น จะขาดฟังก์ชั่นบางอย่าง เช่น หน้าจอสำหรับมองภาพ ช่องมองภาพหรือวิวไฟน์เดอร์ รวมถึงต้องเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ภายนอกและคอมพิวเตอร์ เมื่อถึงเวลาถ่ายภาพ ใช้กระบวนการประมาณ 15 วินาที ไปจนถึง 5 นาที ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าในการทำงาน
โดยภาพที่ได้จากกล้อง 143 ล้านพิกเซลนี้ จะได้เป็นภาพแบบ 16 บิต ที่อาจมีขนาดใหญ่ได้ถึง 1.2 GB ซึ่งแน่นอนใครบางคนอาจมองว่าเป็นการถ่ายภาพที่มีวิธีการและขั้นตอนที่เยอะเกินไป แต่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีก็ช่วยให้ความเป็นไปได้มากยิ่งขี้น พร้อมทั้งผลการทำงานที่ต้องบอกว่าน่าทึ่งทีเดียว

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

13 สถานที่ถ่ายรูปในกรุงเทพฯ ตอนเย็น ที่คนรักการถ่ายรูปมือใหม่(ก็ไปได้)

13 สถานที่ถ่ายรูปในกรุงเทพฯ ตอนเย็น ที่คนรักการถ่ายรูปมือใหม่อย่างผม (และคุณ) ก็ไปได้ ... ภาพถ่ายจากเลนส์ Kit 18-55
เรียบเรียงข้อมูลโดย Sanook.com, ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Travel Planet Earth สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก EarthsEyeView
สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแนะนำสถานที่ถ่ายรูปในกรุงเทพฯ ตอนเย็น (เท่าที่ผมเคยไปมา)ไปฟรี ไม่เสียตัง ไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาติอะไรทั้งนั้น ใครๆ ก็ไปได้ครับเพื่อให้คนกรุงเทพฯ ที่อยากออกไปถ่ายรูป แต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี ได้มีที่ไปกันนะครับ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมเองก็เพิ่งฝึกถ่ายรูปได้ไม่นาน และผมก็ใช้สถานที่เหล่านี้แหละเป็นที่ฝึกถ่ายรูปหลายที่อาจจะเป็นสถานที่ยอดนิยมที่คนทั่วไปรู้จักกันอยู่แล้ว และก็ยังมีอีกหลายที่ที่น่าสนใจ (แต่ผมเองยังไม่เคยไป)ใครมีที่เด็ดๆ นอกจากนี้ ก็มาแชร์กันได้นะครับ 

ผมใช้ Canon EOS 700D เลนส์ Canon EF-S 18-55 f/3.5-5.6 IS STM ครับ

เอาล่ะตามผมมาเลยยย!!!

1. โรงพยาบาลศิริราช มุมมหาชนจากสะพานพระปิ่นเกล้าครับ


@26mm+Crop16:9 f/8.0 1/250s iso100

2. สะพานพระราม 8 จากสะพานพระปิ่นเกล้า ถ้าข้ามไปอีกด้านหนึ่งของสะพานก็จะได้มุมนี้ครับ


@25mm+Crop f/4.0 8s iso100

3. วัดพระแก้ว มุมจากพื้นสนามหลวง


@33mm+Crop f/22 30s iso100
มุมมหาชนหน้ากระทรวงกลาโหม

@18mm+Crop f/11 15s iso100
นอกจากนี้ยังสามารถขอพี่ทหารเข้าไปถ่ายจากด้านในกระทรวงได้เลยครับ ตอนค่ำๆ เค้าจะเปิดน้ำพุด้วยครับ


(รูปนี้ผมใช้เลนส์ Canon EF-S 10-18 f/4.5-5.6 IS STM) @10mm+Crop f/4.5 8s iso100

4. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ไม่ต้องเสียเงินขึ้นไปถ่ายที่ร้านอาหาร ก็มีมุมที่พอถ่ายรูปวัดอรุณได้ครับ


@37mm+Crop f/13 30s iso100 หรือจะไปรอถ่ายพระอาทิตย์ตกจากสะพานพุทธก็มองเห็นวัดอรุณได้เหมือนกัน


@55mm f/8 1/250s iso100

5. เสาชิงช้า

 @18mm+Crop f/16 30s iso100

6. พระที่นั่งอนันตสมาคม ถ้าวันไหนฝนตก จะมีน้ำท่วมขังหลายจุด ไปจับจองมุมกันได้ตามสะดวกครับ แต่ตอนถ่ายต้องระวังรถนิดนึงนะครับ และอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ไปรองกล้อง(จากพื้นน้ำ) ด้วยครับ


@18mm f/11 1.3s iso100

7. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

@18mm+Crop f/22 20s iso100 ถ้าไปตอนที่ฝนเพิ่งหยุดตก ก็จะได้มุมสะท้อนน้ำด้วยครับ แต่ผมไปไม่เคยทัน น้ำแห้งก่อนตลอด T_T

8. สวนลุมพีนี

@25mm+Crop f/22 30s iso100

@18mm f/8 1s iso100

9. Bangkok Eye (Asiatique the riverfront)


ออกนอกเมืองกันบ้างครับ
10. สะพานภูมิพล (สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม) ที่นี่ยามเค้าอนุญาติให้ถ่ายรูปได้ ห้ามกางขาตั้ง แต่เราสามารถวางกล้องกับพื้นได้ครับ


@46mm f/22 30s iso100

11. หอประชุมใหญ่ ม.มหิดล ศาลายา ที่นี่เค้าไม่ได้เปิดไฟทุกวันนะครับ ก่อนไปควรเช็คก่อนล่วงหน้าด้วยครับ จะได้ไม่ไปเก้อ ^^

@39mm f/10 30s iso100

สำหรับสถานที่ถัดจากนี้ ผมจำเป็นต้องใช้เลนส์มุมกว้างถ่าย เพราะ @18 mm เริ่มเก็บไม่หมดแล้วครับ (ยกเว้นจะถ่ายพาโน) ผมใช้เลนส์ Canon EF-S 10-18 f/4.5-5.6 IS STM ครับ

12. สวนเบญจกิติ สำหรับที่นี่ผมแนะนำให้ไปตอนเช้าจะดีกว่า (เปิดตี 5) เพราะพระอาทิตย์จะขึ้นทางนี้พอดีครับ (ถ้าไปตอนเย็นเราจะหันหลังให้พระอาทิตย์)


@13mm f/7.1 30s iso100

13. ช่องนนทรี

@10mm f/8 0.5s iso100

@10mm f/8 8s iso100

หมดแล้วครับสถานที่ถ่ายรูปในกรุงเทพฯ ตอนเย็น ที่ผมอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ไปกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครหลายคนครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมครับ ^___^ 
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Sony A7 II กล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ โฟกัสเร็วขึ้น

 กล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ โฟกัสเร็วขึ้น และมีระบบกันการสั่นไหวที่มากขึ้น
Sony ปล่อยรุ่นอัพเดตของ A7 กล้อง Mirrorless แบบ full-frame ออกมาในรุ่น  Sony A7 II  ที่เพิ่มความสามารถในการโฟกัสที่เร็วขึ้น และยังเพิ่มระบบป้องกันการสั่นไหวให้ดีขึ้นอีกด้วย
5845596405
Sony A7 II มีขนาดเซนเซอร์เท่าเดิมคือ 24 ล้านพิกเซล แต่มีระบบออโต้โฟกัสที่ใช้  phase detection 117 จุด และ contrast detection 25 จุด ซึ่งทำให้โฟกัสเร็วกว่าเดิมถึง 30 เปอร์เซ็นต์
ส่วนระบบป้องกันการสั่นไหวในตัวนี้ ใช้ระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ 5 แกน ที่สามารถลดการสั่นลงได้อีก 4.5 สต็อป และถ้าใช้กับเลนส์ที่มีระบบกันสั่นด้วย จะสามารถผสมผสานกันระหว่างระบบกันสั่นของทั้งกล้องและเลนส์ได้
2717517889
ทางด้านวิดีโอ ก็รองรับ XAVC S ซึ่งจะสามารถถ่ายวิดีโอแบบ 1080 ที่ 60 fps ได้ที่ความเร็ว 50Mbps และรองรับ S-Log2 ที่มี dynamic range ที่กว้าง สำหรับทำการ grading video
วัสดุของรุ่นนี้ ก็ปรับปรุงเสริมกริ๊ปให้ใหญ่ขึ้น จับถนัดมือขึ้น และมีปุ่มหมุนด้านหน้าเพื่อความสะดวกในการปรับ เปลี่ยนวัสดุแผงด้านหน้าจากพลาสติกเป็นแมคนิเซียมอัลลอย เสริมเม้าท์เลนส์ให้แข็งแรงเพื่อสำหรับใช้เลนส์หนักๆ ได้มั่นคงขึ้น
4969186529
รุ่นนี้คาดว่าจะวางขายในญี่ปุ่น ในวันที่ 5 เดือนหน้านี้ ในราคาประมาณ 50,000 กว่าบาท
8764163569

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เจาะลึก! กล้อง Canon EOS 7D Mark II ทายาทรุ่น 2 ครบทุกฟังก์ชั่น

     หลังจากที่แคนนอน (Canon) ปล่อยดีเอสแอลอาร์มาลุยตลาดระดับกึ่งมืออาชีพอย่างรุ่น EOS 7D กันไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ล่าสุดเปิดตัวทายาทรุ่นที่สองของตระกูลในชื่อ EOS 7D Mark II - King of APS-C DSLR Cameraที่สุดแห่งความเร็วในการถ่ายภาพ
     ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ประสิทธิภาพสูง เรียกได้ว่าทั้งช่างภาพมืออาชีพและนักเล่นกล้องตัวจริงทั้งหลายต้อง "ทึ่ง" ไปกับ "ครั้งแรก" ของสุดยอดเทคโนโลยีชั้นสูงในกล้อง EOS ด้วยระบบออโต้โฟกัส 65 จุด โฟกัสเร็วฉับไว มาพร้อมกับชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC6 ให้ภาพสวยงามเหนือชั้น  ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 10 เฟรมต่อวินาที เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ดีไซน์ใหม่ ความละเอียดสูงถึง 20.2 พิกเซล ช่วงความไวแสงกว้าง 100-16,000 และเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF
     ช่วยให้การจับโฟกัสภาพวิดีโอทำงานได้เรียบลื่นและแม่นยำ ไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหว รองรับการถ่ายภาพวิดีโอคมชัดระดับ Full HD 60p และ Time-lapse มองพลังที่เหนือกว่าในการถ่ายภาพสมบูรณ์แบบลงตัวได้ทุกสถานการณ์ และยังมีระบบระบุพิกัดภาพถ่ายด้วยจีพีเอส แค่สเปคคร่าวๆ คิดว่าหลายคนฟังแล้วคงต้องเตรียมหยอดกระปุกรอสอยมาครอบครองกันอย่างแน่นอน                      
     แคนนอนส่ง EOS 7D MK.II มาลุยตลาดกล้อง DSLR ระดับกึ่งอาชีพแทนรุ่นพี่ EOS 7D ที่มาบุกเบิกตลาดไว้เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งครั้งนี้มีการพัฒนา Feature ใหม่ๆ มาเพียบ มาดูกันหน่อยว่าแคนนอนใส่อะไรแหล่มๆ มาใน EOS 7D MK.II กันบ้าง
                        
EOS 7D Mark II เหนือกว่าด้วยความเร็วและระบบออโต้โฟกัสฉับไวระบบออโต้โฟกัสพัฒนาใหม่แบบ Cross-Type ทั้ง 65 จุด พร้อมความสามารถในการทำงานที่ EV-3 ที่ จุดกึ่งกลาง
     กล้อง EOS 7D รุ่นแรกยังใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบ Cross-Type 19 จุด ซึ่งให้ความรวดเร็วและแม่นยำในการโฟกัสภาพสูงระดับหนึ่งแล้ว แต่ใน EOS 7D Mark II ทายาทรุ่นสองนั้น จัดว่ามาไกลกว่ารุ่นพี่เยอะด้วยระบบออโต้โฟกัส 65 จุดแบบ Cross-Type ครอบคลุมพื้นที่โฟกัสมากกว่ากล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ทั่วไป ช่วยเพิ่มพูนประสิทธิภาพการจับโฟกัสแม่นยำทุกการเคลื่อนไหวแม้จะเป็นวัตถุเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงก็ตาม และเมื่อใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ปรับปรุงใหม่ เพิ่มความเร็วในการหาโฟกัสอัตโนมัติ ทำให้โฟกัสแบบติดตามวัตถุเมื่อถ่ายในโหมด Live View รวดเร็วลื่นไหลแบบไม่มีสะดุด และโฟกัสได้แม่นยำกว่าระบบ Contrast AF ในกล้องปกติทั่วไป  นอกจากนี้จุดโฟกัสจุดกลางเป็นแบบ Dual Cross-Type รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ f/2.8 ยิ่งช่วยให้กล้องจับโฟกัสได้ดีแม้จะอยู่ในสถานที่ที่มีแสงน้อยมากถึง EV-3 จึงมั่นใจได้ว่าภาพถ่ายที่ออกมาจะมีความคมชัดสูง แม้จะอยู่ในที่ที่มีแสงน้อยมากจนแทบมองไม่เห็นรายละเอียดวัตถุก็ตาม   เมื่อรวมกับระบบจดจำและติดตามวัตถุอัจฉริยะ  EOS iTR และความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงได้ถึง 10 เฟรมต่อวินาที จึงทำให้กล้อง EOS 7D Mark II สามารถโฟกัสติดตามวัตถุเคลื่อนไหวเร็วได้แม่นยำทั้งเฟรมภาพ ให้คุณไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหว อาทิ นกที่กำลังบินบนท้องฟ้า หรือนักฟุตบอลที่วิ่งเลี้ยงหลบหนีคู่แข่งอยู่ในสนาม เป็นต้น นวัตกรรมคันโยกเลือกพื้นที่ออโต้โฟกัสแบบใหม่ (AF Area Selection Lever) ที่อยู่ล้อมรอบปุ่มควบคุมหลายทิศทาง (Multi-Controller) ด้านหลังตัวกล้อง ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ปรับเลือกโหมด AF Point Selection ทั้ง 7 รูปแบบได้ตามต้องการระหว่างทำงาน โดยไม่จำเป็นต้องละสายตาจากช่องมองภาพอีกด้วย
                             
     กล้อง EOS 7D Mark II ถือเป็นกล้อง DSLR รุ่นแรกจากแคนนอนที่มีการใช้งานเซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซลร่วมกับชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6 การผสานสองขุมพลังนี้เข้าด้วยกันช่วยให้กล้องประมวลผลได้ฉับไว ให้ภาพความละเอียดสูง มีสัญญาณรบกวนต่ำ สวยงามสมบูรณ์แบบทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว นอกจากนี้ สำหรับช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการจับภาพแอ็คชั่นความเร็วสูง กล้องรุ่นนี้ยังรองรับการถ่ายภาพรูปแบบ RAW ได้มากถึง 31 ภาพพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับช่วงความไวแสงที่กว้างถึง ISO 100 -16000 (ขยายเพิ่มได้ถึง ISO 51,600) ครอบคลุมทั้งการถ่ายภาพนิ่งและภาคเคลื่อนไหว 
 ด้านหลังของ EOS 7D MK.II ยังมากับปุ่มและวงล้อที่คุ้นเคยเหมือนเดิม
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 เฟรมต่อวินาที
      ช่วยให้ผู้ใช้จับภาพวัตถุเคลื่อนไหวทุกรายละเอียดได้อย่างแม่นยำและคมชัด ด้วยความเร็วระดับนี้ผู้ใช้จึงสามารถถ่ายภาพ RAW ต่อเนื่องได้มากถึง 31 ภาพ หรือเท่ากับภาพ JPEG ขนาดใหญ่ถึง 1,090 ภาพ นอกจากนี้ แคนนอนยังพัฒนาให้ชุดชัตเตอร์มีอายุใช้งานยาวนานขึ้นเป็น 200,000 รอบ หรือเพิ่มขึ้น 33% จาก 150,000 รอบในกล้อง EOS 7D รุ่นก่อน
กลไกกระจกสะท้อนภาพพัฒนาใหม่ มีการใช้ระบบมอเตอร์เข้ามาควบคุมการทำงาน
      เพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสริมประสิทธิภาพกล้องให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นระหว่างถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง โดยผู้ใช้ยังสามารถปรับตั้งค่าการทำงานให้เข้ากับรูปแบบการทำงานได้หลากหลาย อาทิ โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง-ความเร็วต่ำ การถ่ายภาพเฟรมเดียว การตั้งค่าถ่ายภาพล่วงหน้า 2 แบบ และยังมีโหมด silent drive ให้เลือกใช้ทั้งสำหรับการถ่ายเฟรมเดียวและการถ่ายภาพต่อเนื่อง โดยสามารถเลือกปรับระดับความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบแมนนวลได้ตามต้องการ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เคยมีเฉพาะในกล้องตระกูล EOS 1D เท่านั้น ซึ่งเหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความสงบ
   
ระบบ EOS Scene Detection ปรับปรุงใหม่ ซึ่งใช้เซ็นเซอร์วัดแสงแบบใหม่
      RGB 150,000 พิกเซล + IR 252 โซน เพื่อความแม่นยำที่มากยิ่งกว่า กล้อง EOS 7D Mark II ยังติดตั้งเทคโนโลยีระบบจดจำและติดตามวัตถุอัจฉริยะ EOS iTR (Intelligent Tracking and Recognition) AF system ใหม่ล่าสุดจากแคนนอน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในกล้อง EOS-1D X และระบบวิเคราะห์วัตถุอัจฉริยะ EOS iSA (Intelligent Subject Analysis) ช่วยให้กล้องจดจำสีของวัตถุและใบหน้าของบุคคลได้ ทำให้ระบบ AF ทำงานได้แม่นยำมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น แม้ในกรณีที่วัตถุมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็วหรือทิศทาง ระบบ EOS iTR AF ก็จะทำการเปลี่ยนโหมดโฟกัสให้อัตโนมัติช่วยให้การติดตามวัตถุทำได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด
      ช่องมองภาพอัจฉริยะดีไซน์ใหม่ แสดงภาพสว่างใสครอบคลุมการมองเห็น 100% และยังแสดงข้อมูลสำคัญบนหน้าจออย่างครบครัน อาทิ โหมดถ่ายภาพ การตั้งค่าแสงต่างๆ และมาตรวัดระนาบกล้องแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ ได้ในระหว่างที่ใช้งานช่องมองภาพ เป็นการผสานความสามารถของทั้งช่องมองภาพแบบออพติคอลและอิเล็กทรอนิกส์ให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างลงตัว
บันทึกภาพวิดีโอคมชัดด้วยเทคโนโลยีที่เหนือชั้น
      แคนนอนยังเสริมประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอในกล้อง EOS 7D Mark II ด้วยเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ปรับปรุงใหม่ เพิ่มความเร็วในการหาโฟกัสอัตโนมัติแบบ phase-difference ทำให้การโฟกัสติดตามวัตถุเมื่อถ่ายภาพในโหมด Live View และโหมดบันทึกภาพวิดีโอนั้นทำได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นไม่มีสะดุด แม้มีการปรับเปลี่ยนระยะใกล้ไกลของวัตถุก็ตาม
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมช่องใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ CF และ SD อย่างละ 1 ช่อง ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกบันทึกภาพและวิดีโอลงในการ์ดทั้งสองอันพร้อมกันได้เลยเพื่อเป็นการสำรองข้อมูลไปในตัว
นอกจากนี้ยังมาพร้อมช่องต่อแบบ USB 3.0 Digital Terminal รองรับการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งช่องนี้ในกล้องตระกูล EOS
ในส่วนบอดี้กล้องมีความทนทานแต่น้ำหนักเบาเพราะผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอย เคลือบผิวภายนอกแบบใหม่ป้องกันละอองน้ำและละอองฝุ่นได้ดีกว่ากล้อง EOS 7D ถึง 4 เท่า จึงเหมาะกับการถ่ายภาพทุกสถานที่ทุกสถานการณ์ ตั้งแต่การถ่ายภาพกีฬาในร่มไปจนถึงงานแต่งงานที่มีแสงสลัวๆ
กล้อง EOS 7D Mark II รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างแบตเตอรี่กริปรุ่น BG-E16 ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ถ่ายภาพได้ยาวนานยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับช่างภาพที่ทำงานเป็นเวลานานติดต่อกัน มีปุ่มควบคุมการทำงานได้หลากหลายฟังก์ชั่น พร้อมทั้งมีปุ่มปรับเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ ช่วยให้การถ่ายภาพในแนวตั้งทำงานได้ง่ายและสะดวกและผู้ใช้ยังสามารถเลือกใช้งานร่วมกับ Super Precision Matte type focusing screen (อุปกรณ์เสริมแยกจำหน่าย) ช่วยให้การปรับจุดโฟกัสทำได้ง่ายและได้ภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้งานกล้องร่วมกับเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างๆ อย่าง f/2.8 หรือสูงกว่านั้น

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ส่งไฟล์ภาพไร้สายรุ่น WFT-E7 ช่วยให้ถ่ายโอนข้อมูลจากกล้อง EOS 7D Mark II ไปยังเวิร์คสเตชั่นต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็ว คล่องตัว รองรับการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คตามมาตรฐาน IEEE 802.11 a/b/g/n ซึ่งมีความเสถียร และความรวดเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูง 

สำหรับราคาจำหน่ายเฉพาะตัวบอดี้กล้องอยู่ที่ประมาณ 1,799 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 58,000 บาท และ ชุดเลนส์คิต บอดี้กล้องพร้อมเลนส์ 18-135 มม. f3.5-5.6 IS STM อยู่ที่ราคา 2,149 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 69,000 บาท นอกจากนี้ยังมีทั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่กริ๊ป และ อุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สาย งานนี้ใครที่รักการถ่ายภาพก็มาร่วมทดสอบประสิทธิภาพความแรงของกล้อง EOS 7D Mark II รุ่นใหม่ด้วยตัวคุณเองได้ที่บูธ แคนนอน ภายในงาน Photo Fair 2014 ระหว่างวันที่ 26 – 30 พฤศจิกายน 2557 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ส่วนสาวกแคนนอนที่หยอดกระปุกรอเจ้า EOS 7D Mark II ไว้ก่อนหน้านี้ งานนี้ไม่มีพลาดอยู่แล้ว และระหว่างรอจับกล้องของจริง ก็ลองแวะเข้าไปชมรีวิวแหล่มๆ ยั่วน้ำลายกันก่อนได้เลยที่
ดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ www.canon.co.th
Advertorial
     
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com