ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ samsung galaxy tab s แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ samsung galaxy tab s แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

SAMSUNG ประเทศไทย เปิดตัว GALAXY TAB ACTIVE แท็บเล็ตจอมอึด เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร



ทาง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จํากัด ได้ทำการเปิดตัว Samsung Galaxy Tab Active แท็บเล็ตสุดแกร่ง จอขนาด 8 นิ้ว เพื่อตอบสนองการทำงงานแบบเน้นคนลุยๆ เช่นใช้ตามไซต์งานก่อสร้างต่างๆ หรือในโรงงานที่มีความร้อนสูงๆ หรือแม้แต่ชาวประมงที่ใช้ออกลุยในท้องทะเล ทุกสภาพอากาศ โดย Galaxy Tab Active นี้ จะไม่มีวางขายทั่วไป แต่จะเน้นไปที่การขายองค์กรต่างๆเป็นหลัก
สเปคของ Galaxy Tab Active

หน้าจอขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด WXGA (1280 x 800) TFT LCD
หน่วยประมวลผล(CPU) 1.2 GHz Quad-Core
RAMขนาด 1.5GB แบบ LPDDR3, ROMความจุ 16GB เพิ่มได้ด้วย MicroSD สูงสุด 64GB
กล้องหลัก(กล้องหลัง) 3.1MP มีระบบออโต้โฟกัส พร้อมแฟรช กล้องหน้า 1.2MP
ขนาดตัวเครื่อง 126.2 x 213.1 x 9.75 มม. หนัก 388 กรัม (ในรุ่นที่มีแต่ Wi-Fi) และ 393 กรัม (ในรุ่น LTE)
รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 HS, BT 4.0 BLE, WiFi 802.11 a/b/g/n, NFC
แบตเตอรี่ขนาด 4,450mAh สามารถถอดเปลี่ยนได้ate

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ C-Pen เพื่อรองรับการใช้งานที่ต้องการความละเอียดอ่อน และรวมถึงในบางครั้งที่เราต้องใส่ถุงมือในการทำงาน ก็สามารถหยิบ C-Pen มาใช้เพื่อสั่งการต่างๆ ในระหว่างที่ใส่ถุงมือได้อีกด้วย
มาดูคุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจของ Galaxy Tab Active กันดีกว่าครับ แน่นอนครับว่า ได้รับมาตรฐาน IP67 ที่สามารถกันฝุ่นเข้าได้ 100% และสามารถอยู่ในน้ำลึกได้ถึง 1 เมตร ได้นานถึง 30 นาที และยังสามารถทำงานได้ในทุกๆสภาพอากาศ ตั้งแต่ในที่ที่หนาวจัด อุณหภูมิ -20C ไปจนถึงที่ที่ร้อนสุดๆ ในอุณหภูมิ 60C นอกจากนั้น รอบๆของตัวเครื่อง ยังเป็นตัวกันกระแทกชั้นดี รองรับการร่วงหล่นในความสูง สูงสุด 1.2 เมตร เผลอทำหลุดมือตก ก็ยังสามารถหยิบขึ้นมาใช้งานต่อได้อย่างไม่มีปัญหา

Galaxy Tab Active ยังจะมีระบบ Samsung Knox 2.0 ที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลต่างๆที่สำคัญขององค์กร สามารถควบคุมการใช้งานของเครื่องอื่นๆ ที่กำลังใช้งานอยู่ได้อีก เช่นล็อคการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นบางตัว หรือป้องกันการลบข้อมูล และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี NFC เพื่อตอบสนองการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สมัยใหม่แบบต่างๆ
กล้องหลังของ Galaxy Tab Active ไม่ได้มีไว้แค่เพื่อถ่ายรูปเท่านั้น ยังสามารถใช้ในการสแกนบาร์โค้ดได้อีกด้วย




และนี่เป็นครั้งแรกของ Samsung ที่ทำแท็บเล็ตให้เสามารถเปิดฝาหลังได้ และแบตเตอรี่ ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้อีก และด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 4,450mAh จึงทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมี Ultra Power Saving Mode ที่จะเปลี่ยนสีหน้าจอให้เป็น ขาว-ดำ เพื่อช่วยในการประหยัดพลังงานอย่างยิ่งยวด


Samsung Galaxy Tab Active ได้มีการออกมาด้วยกัน 2 รุ่น มีรุ่น Wi-Fi และรุ่น LTE โดยเปิดตัวในราคามือถือที่ 21,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 25,900 บาท ในรุ่นรุ่น LTE

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

แนะนำ 7 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ Mobile Expo

แนะนำ 7 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ 
อีกไม่กี่วันแล้วกับงาน Thailand Mobile Expo 2014 งานมหกรรมโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยในรอบนี้นั้นมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2-5 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นนั้นในเร็ว
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับแท็บเล็ตรุ่นใหม่หลากหลายแบรนด์ที่จะมีวางจำหน่ายที่งาน Thailand Mobile Expo 2014 กันดีกว่าครับ ส่วนใครที่กำลังรอโปรโมชั่นของงานนั้นอดใจรอกันอีกนิดครับ
Galaxy Tab S 8.4
แท็บเล็ตขนาด Compact สเปคแรงให้คุณเลือกใช้งานอีกด้วย ‘Galaxy Tab S 8.4' ใช้หน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 8.4 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดมากถึง 2560×1600 พิคเซล ทำให้การแสดงผลทำได้สวยสด ดีกว่าแท็บเล็ตหลายรุ่นที่ผ่านมา เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Octa-Core รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน แต่อินเตอร์เฟสจะต่างกันบางส่วน บอดี้บางเพียง 6.6 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาหวิว 298 กรัม พกพาคล้ายสมุดเล่มนึงเลยล่ะ นอกจากนี้ยังรองรับ 4G LTE ติดกล้อง 8MP และสามารถโทรออกได้ตามปกติ
Galaxy Tab S 10.5
แท็บเล็ตสเป็คแรงในซีรีส์ Galaxy Tab S ที่ตีคู่มาพร้อมกับ Galaxy Tab S 8.4 มาพร้อมหน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 10.5 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงสุดถึง 2560×1600 พิกเซล ชัดสะใจกับความละเอี่ยดสูงและสีสันที่สวยสดโดดเด่นกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆขนาดเดียวกันในท้องตลาด
Asus
Fonepad 7 (FE375CG)
หากคุณต้องการแท็บเล็ต Android ที่สเปคสูงกว่า Fonepad 7 ตัวประหยัด ล่าสุด Asus ได้ส่ง Fonepad 7 FE375CG ลงตลาด อัพเกรดสเปคชิพประมวลผล 64-Bit ตัวแรก เร็วแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปรับดีไซน์ใหม่ โค้งมน เรียบง่ายกว่าเดิม ด้านหน้ามีลำโพงสเตอริโอคู่ บอดี้เล็กกว่า FE170CG เล็กน้อยแต่ยาวกว่า รับน Android 4.4.2 พร้อม Zen UI ที่หลายๆคนตราตรึงจากซีรีส์ Zenfone ติดกล้อง PixelMaster 5MP ถ่ายภาพกลางคืนค่อนข้างดี รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และใช้งาน 2 ซิมการ์ด โทรออกแนบหูเหมือนมือถือเลยครับ ส่วนอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างจาก Fonepad 7 รุ่นก่อนหน้ามาก และที่สำคัญขอบจอยังบางเฉียบเพียง 5.7 มิลลิเมตร
Lenovo
Tab A7-50
แท็บเล็ต Android หน้าจอพอดีมือ 7 นิ้วจาก Lenovo โดดเด่นด้วยราคาที่ไม่แพง สามารถใส่ซิมการ์ดใช้งาน 3G หรือโทรออกได้แบบเดียวกันกับที่สมาร์ทโฟนทำได้ นอกจากนี้ Lenovo Tab A7-50 ยังมาพร้อมกับชิพประมวลผล Quad-Core ให้ความจุของตัวเครื่องมาที่ 16GB มีแรม 1GB พร้อมระบบปฏิบัติการ Android Jelly Bean สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ดูหนังหรือเล่นเกมก็พอไหว นอกจากนี้ยังรองรับ USB-OTG และยังมีทั้งกล้องหน้าที่มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
Tab A8-50
แท็บเล็ต Android ระดับกลาง หน้าจอ 8.0 นิ้วแฝดคนละฝากับ Tab A7-50 จาก Lenovo สามารถใส่ซิมใช้งาน 3G โทรออกได้แบบเดียวกับบนสมาร์ทโฟน Lenovo Tab A8-50 ใช้ชิพประมวลผล Quad-Core ให้แรม 1GB รันบน Android 4.2.2 มีกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล ความจุตัวเครื่อง 16GB ลงแอปพลิเคชั่นใช้งานทั่วไปได้ปกติ ดูหนัง HD เล่นเกมกราฟฟิคสูงไหว แบตเตอรี่ค่อนข้างอึดทีเดียว บอดี้ไม่หนามากนัก น้ำหนัก 360 กรัม ทั้งนี้ Lenovo A8-50 มีคู่แข่งตัวสำคัญคือ Fonepad 7 ของ Asus ที่สเปคดีกว่าครับ อยู่ที่ผู้ใช้จะตัดสินใจ
Lenovo Yoga Tablet 10 HD+
แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Yoga ของ Lenovo มาพร้อมกับสีทองหรูหรา และสเป็คที่อัพเกรดให้สูงขึ้น ซีพียู Quad-Core จาก Snapdragon 400 พร้อมระบบประมวลผลกราฟิกทรงพลัง Adreno 305 มีดีไซน์ที่โดดเด่นตามสไตล์ซีรีส์ Yoga ซึ่งจะมาพร้อมแกนหมุนที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจับของเครื่องให้สะดวกต่อการใช้งาน มีแรม 2GB และความจุของตัวเครื่อง 32GB รัน Android 4.3 และยังมาพร้อมกับกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่สุดอึด 18 ชั่วโมง
Microsoft
Microsoft Surface Pro 3
Microsoft Surface Pro 3 แท็บเล็ต Windows รุ่นล่าสุด ซึ่งรวมความสามารถทั้งแท็บเล็ตและแล็ปท็อปมาไว้ในเครื่องเดียว พร้อมความคล่องตัวในการใช้งานเพราะบางเพียง 9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 800 กรัม โดย Microsoft Surface Pro 3 นั้นใช้ซีพียู Intel Core ใน gen ที่ 4 พร้อมหน้าจอคมชัด 12 นิ้ว Full HD และมีขาตั้งเครื่องที่สามารถปรับระดับการใช้งานได้ถึง 150 องศา มีปากกา Surface Pen ที่ใช้งานควบคู่กันกับแท็บเล็ตเครื่องนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบเสียง Dolby Audio และมีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง
นอกจากแท็บเล็ตรุ่นใหม่เหล่านี้แล้วยังมีเหล่าบรรดาแท็บเล็ตรุ่นก่อนๆที่จะมีโปรโมชั่นแรงๆโดนใจใครหลายๆคนเพียบในระดับที่ว่าลดแลกแจกแถมกันกระหน่ำอย่างแน่นอนครับ ซึ่งถ้าใครที่กำลังจะซื้อแท็บเล็ตในช่วงนี้ให้อดใจรอไว้ก่อน อีกไม่นาน
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

Preview: ครั้งแรกกับพรีวิว Galaxy Note 4 ของจริงตัวเป็นๆ

Preview: ครั้งแรกกับพรีวิว Galaxy Note 4 ของจริงตัวเป็นๆ
กลับมาอีกครั้งกับการพรีวิวของเล่นใหม่โดยทีมงาน Sanook! Hitech สำหรับวันนี้ทางทีมงานได้มีโอกาสสัมผัสตัวเป็นๆ ของ Samsung Galaxy Note 4 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวล่าสุดที่เพิ่งมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
เพราะเมื่อวานนี้นั้นทาง Samsung ประเทศไทยได้มีการจัดการเปิดตัว Samsung Galaxy Note 4 อย่างเป็นทางการในเมืองไทยเป็นครั้งแรก(สำหรับงานเมื่อวานนั้นเป็นแบบ เวิร์คช็อป มากกว่าเพราะส่วนใหญ่ในงานเท่าที่ผมสังเกตเห็นนั้นส่วนใหญ่มีบล็อกเกอร์และเว็บมาสเตอร์ เรียกได้ว่า เอ็กคลูซีฟ จริงๆ
สำหรับการมาของ Galaxy Note 4 ในครั้งนี้ส่วนที่ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงจาก Samsung Galaxy Note มากพอสมควรเหมือนกันครับไม่ว่าจะเป็นส่วนของจอ การออกแบบตัวเครื่องที่คราวนี้นั้นมาพร้อม อย่างเป็นตัวไม่ใช่ โพลีคาร์บอเนต เหมือนอย่างรุ่นก่อนๆ แต่เป็นวัสดุแบบอลูมิเนียมแทน และที่ขาดไม่ได้และถือเป็นหัวใจของสมาร์ทโฟนในตระกูลโน๊ตนั้คือ ปากกา S-Pen ทีคราวนี้มาแบบฟูลออฟชั่นกันเลยทีเดียว
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ สำหรับภาพรวมภายในงานนั้นเป็นการนำแนะนำและพูดคุยกันระหว่าง PM ของทาง Samsung ที่ให้เกียรติบินตรงมาจากเกาหลีเพื่อมาร่วมงานกับเราโดยเฉพาะ เบื้องต้นไมนั้นเป็นการแนะนำ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับGalaxy Note 4 ซึ่งลักษณะใกล้เคียงกับงานเมื่อวัดเปิดตัวที่ผ่านมาครับ งานนี้ PM ของทาง Samsung บรรยายดีครับ และโชคดีที่ทาง Samaung เตรียมลามไว้ให้ด้วย
กว่าจะได้ลองเล่น Samsung Galaxy Note 4 ก็กินเวลาพอสมควรเพราะเค้าสาธิตกันจริงๆ ทดลองเล่นให้เราเห็นกันแบบชอตต่อชอต ตรงนี้ผมว่าดีมากเพราะเชื่อว่าคนที่มาในงานครั้งนี้คงไม่ 100% ที่เป็นสาวกแอนดรอยด์ และในที่สุดเราก็ได้สัมผัส Galaxy Note 4 กันแล้ว
ครั้งแรกที่ได้จับ Samsung Galaxy Note 4 หากพูดถึงดีไซน์โดยรวมแล้วความแตกต่างยังคงไม่ทิ้งห่าง Note 3 รุ่นพี่มากนักแต่ Galaxy Note 4 รุ่นใหม่นั้นมีส่วนของขอบรอบตัวเครื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ทำให้ภาพรวมของGalaxy Note 4 นั้นสวยเชียวละมาดูรูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์ของ Samsung Galaxy Note 4 กันเป็นส่วนๆ ดีกว่าครับ 
สำหรับ Samsung Galaxy Note 4 ที่พวกเราได้ลองเล่นในค่ำคืนที่ผ่านมาเป็นตัวเครื่องสีขาวตัดขอบด้วยโลหะสีขาวที่ถูกเคลือบมาเรียบร้อยแล้ว ตัวขอบอลูมิเนียมเป็นการเปลี่ยนครั้งแรกอย่างเป็นทางการของสมาร์ทโฟนในตระกูลโน๊ต
ตัวเครื่องมีขนาด 153.5x78.6x8.5 มิลลิเมตร หนักเพียง 176 กรัม ตัวกระจกจอเองจะมีความโค้งเล็กน้อย
มาดูส่วนต่อมากันดีกว่าครับ ด้านหน้าส่วนบน จะมาพร้อมกับลำโพงสำหรับฟังในการสนทนา และกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล (f1.9) หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 (QHD) แบบ Super AMOLED เรื่องความคมชัดของภาพ ไม่ว่าจะเรื่องสี หรือเส้นไม่ต้องมาพูดกับ Note 4 เรื่องนี้ทางทีมงานคอนเฟริมว่าสีสดจริงๆ
ถัดมาเป็น ด้านหน้าส่วนล่างของตัวเครื่อง ซึ่งจะมีปุ่มโฮม และปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัสจะประกอบไปด้วย ปุ่มเมนู กับปุ่มย้อนกลับ ส่วนที่เห็นเป็นเส้นๆ ไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะเครื่องที่ทาง Samsung ประเทศไทยนำมาให้เราเล่นเป็นเครื่องที่บินตรงมาจากเกาหลี เลยมีบาร์โค้ดมาด้วย ของจริงไม่มีแน่นอน
ในส่วนของด้านบนของตัวเครื่องจะมีปุ่มช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับการบันทึกเสียง หรือตัดเสียงรบกวน และพอร์ท Infrared Port
ด้านข้างทางขวาของตัวเครื่องนั้นจะประกอบไปด้วยปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อคหน้าจอ
ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง
ด้านล่างเป็นส่วนของช่องพอร์ต microUSB เวอร์ชัน 2.0 ครับ สำหรับตัว Note 4 นั้นทาง Samsung เปลี่ยนจาก พอร์ต USB เวอร์ชัน 3.0 แทน
ช่องสำหรับเสียบปากกา S Pen Stylus เท่าที่ทดลองดึงเข้า-ออก ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่หลุดหายหายแน่นอน (เว้นหลงลืมแล้ววางไว้)
สำหรับด้านหลังของตัวเครื่องก็มาในโทนสีขาวดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น วัสดุนั้นยังคงเป็นหนังเทียมเช่นเดิม แต่คราวนี้ตัวเครื่องไม่มีรอยเย็บหรือรอยต่อแตกต่างจาก Note 3 อย่างสินเชิง งานดูเนียบ หรูหราทีเดียวครับ

ส่วนบนของตัวเครื่องด้านหลังเป็นตำแหน่งของกล้องหลังและเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) ช่องที่อยู่ในตำแหน่งล่างกล้อง  โดยกล้องดิจิตอลด้านหลังนั้นมาพร้อมกับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Smart OIS และ Auto focus
และเมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับ ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด, ช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่ โดยซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ microSIM
แบตเตอรี่ขนาด 3,220 mAh พร้อมเทคโนโลยี Fast Charge
มาถึงจุดเด่นบนสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy Note กันบ้าง Galaxy Note 4 กันบ้างสำหรับปากกา S Pen รองรับการเขียนตามน้ำหนักมือ ยิ่งกดแรงปากกาจะมีเส้นหนาขึ้น ถ้ากดปากกาเบาๆ เส้นปากกาจะเล็กลง ให้อารมณ์คล้ายกับการเขียนด้วยปากกาจริงๆ สำหรับปากกา S-Pen บน Samsung Galaxy Note 4 นั้นเรียกได้ว่า มีความแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิมถึงเท่าตัวเลยครับ
นอกจากนี้นั้นปากกา S Pen  รุ่นใหม่นั้นยังทำงานได้ดีกับ ฟีเจอร์ใหม่อย่าง "Smart Select" ที่ยิ่งเล่นก็ยิ่งรู้สึกว่ากำลังจับ Pen Mouse อยู่
มาลองส่วนของปากกากันหน่อยครับ ด้วยเวลาที่มีจำกัดทำให้ทางทีมงานไม่สามารถเล่นได้ครบ เลยเอาส่วนที่ทางทีมงานได้ลองเล่นจริง มาฝากกัน สำหรับใครที่อยากจะเห็นรีวิวฉบับเต็มนั้นรออีกนิด เพราะทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ลงชื่อต่อคิวขอเครื่องมาทดลองเล่นแล้ว งานนี้แฟนๆ ไม่พลาดแน่นอน
ค้นหาถานที่กันหน่อย ปากกาช่วยได้เยอะเลยครับ อย่างตัวอย่างภาพทางทีมงานแค่เขียนคำว่า "ดอนเมือง" และทำการ Login เข้า Google แค่นั้นแผนที่ก็มาเลย
ส่วนต่อมาทดลองใช้ปากกาในการในรายชื่อเบอร์ ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เขียนชื่อพร้อมหมายเลขโทรศัพท์แค่นั้น Note 4 จะทำการป้อนรายชื่อให้อัพตโนมัติ แม้ว่าการเขียนตัวเลขจะขาดตอน Note 4 ก็สามารถปรับตัวเองอัตโนมัติได้เลย ฉลาดจริงๆ
"ฟีเจอร์ Wide selfie" การถ่ายภาพแบบ 120 องศาด้วยกล้องหน้า เพื่อให้คุณถ่ายภาพ wefie ได้สนุกกว่าที่เคย **แอบเสียดายมากฟีเจอร์เด่นตัวนี้ทางทีมงานเล่นไม่ทัน แต่ก็เห็นถึงความสามารถของฟีเจอร์นี้พี่ๆ คนอื่นๆ ที่มาร่วมงานและได้แอบเข้าไปถ่ายกับเค้าด้วยเช่นกัน
อ่อ..อย่างมีอีกหนึ่งฟีเจอร์ เด่นอย่าง "ฟีเจอร์ Fast Charging" บน Samsung Galaxy Note 4 ที่ทำให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ จาก 0% ไปจนถึง 50% ด้วยเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น เรียกว่าเด้ดไม่แพ้ ฟีเจอร์ อื่นๆ แต่ส่วนนี้ต้องรอได้เครื่องมารีวิวก่อนนะ แล้วทางทีมงานจะมากระซิบว่ามันทำได้จริงไหม?
สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy Note 4 ที่ได้ลองเล่น
สรุปข้อมูลเบื้องต้นสำหรับกำหนดการวางจำหน่ายครับ

1. ในส่วนของราคานั้นยังไม่มีการเคาะออกมาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าคงไม่ห่างจากรุ่นพี่อย่าง samsung galaxy note 3 

2. สำหรับในเมืองไทยจะมีแค่ 3 สี Samsung Galaxy Note 4 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ (Charcoal Black), สีขาว (Frost White), สีทอง (Bronze Gold) ส่วนสีชมพู (Blossom Pink) ไม่มีขาย

3. ใครอยากเล่นในงาน TME ที่กำลังจะมาถึง 2-5 ตุลาคมทาง Samsung เค้ามีของให้จับครับส่วนการจำหน่ายนั้นหากทันก็อาจมีในงาน แต่เท่าที่สอบถามตอนนี้นั้นมีแต่การเปิดให้ทดลองเล่น เท่านั้น 

4. รุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายนั้นใช้ชิปเซ็ต Exynos 5433 chipset (รองรับ LTE Cat 4) แบบ Octa-Core Processor (Quad-Core 1.9 GHz + Quad-Core 1.3 GHz) 
5. สำหรับ Samsung Gear S นั้นสำหรับประเทศไทยจะมีการนำเข้ามาจำหน่ายแน่นอนประมาณปลายเดือนตุลาคม 
เอาเป็นว่าอัพเดทกันแค่นี้ก่อนนะครับ พรีวิวครั้งนี้อาจจะยังไม่ละเอียดเท่าไร ด้วยเวลาที่ค่อนข้างบีบ ยังไงทางทีมงานSanook! Hitech สัญญาว่าคราวหน้าหากได้เครื่องมาอีกครั้ง ทางทีมงานจะทำการรีวิวแบบจัดเต็มกันแน่นอน แต่อย่างเดียวที่พูดได้หลังจากได้ทดลองเล่น Samsung Galaxy Note 4 ในช่วงเวลาสั้นๆ Galaxy Note 4 มีอะไรน่าสนใจมากมายอย่างฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้งานได้จริงๆ ในชีวิตประจำวัน และดีไซน์แบบใหม่ของ Samsung Galaxy Note 4 รุ่นใหม่นั้นลบเรื่องสมาทร์โฟนที่ทำจากพาสติกลงอย่างสิ้นเชิง ของแบบนี้ต้องลองเล่นดูด้วยตัวเองครับ
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

ส่อง 50 รุ่นสุดร้อน ในงาน MobileExpo 2-5 ตุลาคมนี้ (ตอนที่ 2)

ส่อง 50 รุ่นสุดร้อน ใน 2-5 ตุลาคมนี้ (ตอนที่ 2)
ตอนนี้หากคุณกำลังหาซื้อสมาร์ทโฟน - แท็บเล็ตเครื่องใหม่ ให้คุณหยุด และนับวันรอได้เลย เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะมีงานมหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศ Thailand Mobile Expo 2014 ในวันที่ 2-5 ตุลาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่เดิม ซึ่งในงานนี้จะมีการรวมพลสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต-แก็ดเจ็ต จากแบรนด์ชั้นนำทั่วฟ้าเมืองไทย พร้อมโซนพิเศษ Wearable Devices สัมผัสเทคโนโลยีสุดล้ำนำสมัยก่อนใครที่สามารถสวมใส่ได้ ซึ่ง Wearable devices เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงที่สุด ณ ขณะนี้
ต้น เดือนหน้านี้แล้วที่งาน Thailand Mobile Expo 2014 จะมีสารพัดสมาร์ทโฟน - แท็บเล็ต- แก็ดเจ็ต รุ่นฮิต รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ จากแบรนด์ชั้นนำมากกว่า 50 แบรนด์ ! ให้คุณสามารถสัมผัส เปรียบเทียบ ทดลองใช้งานก่อนตัดสินใจซื้อ พร้อมโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม และกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย นอกจากนี้เรายังได้ข่าวว่าสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง (Flagship) ที่หลายคนรอคอยจะวางจำหน่ายในงานด้วย ตรงนี้รอติดตามข่าวให้ดีๆ วันนี้เรามี 50 สมาร์ทโฟน - แท็บเล็ตสุดคุ้มมาแนะนำกันครับ มีทุกระดับราคาให้เลือก จะว่าไปตอนนี้มีหลายรุ่นราคาประหยัด เร็วแรง จอใหญ่ 2 ซิม เล่นเกมกราฟฟิคสูง ฯลฯ ให้เลือกมากขึ้น บางครั้งไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตเสมอไป ทั้งนี้อยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลครับ ถึงบอกเลยว่าต้องมาสัมผัส (พร้อมสอยกลับบ้าน :p) ของจริงด้วยตัวคุณเอง :D
* ราคาที่เห็นเป็นราคากลางเพื่อการตัดสินใจ ส่วนราคาโปรโมชั่นภายในงานนั้นสามารถติดตามได้เร็วๆนี้ที่ www.thailandmobileexpo.com
พบสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2014 ได้ในวันที่ 2-5 ตุลาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
Nokia Lumia 730
เพิ่ง เปิดตัวล่าสุดเลยครับ วินโดว์โฟนรุ่นใหม่ภาคต่อ Lumia 720 อัพเกรดสเปคภายในหมด ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 4.7 นิ้ว (AMOLED) แสดงผลคมชัด ขนาดพอดีมือ มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น (3G 2 ซิมการ์ด กับ 4G LTE 1 ซืม) ชิพประมวลผล Snapdragon 400 แรม 1GB เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป รันโอเอส Windows Phone 8.1 มีบริการเสริมต่างๆ ให้ใช้งานเหมือนบนวินโดว์โฟน Lumia รุ่นอื่นๆ อีกจุดขายนึงของ Lumia 730 คือกล้องหลัก 6.7MP ใช้เลนส์ Carl-Zeiss และกล้องหน้า 5MP เลนส์ไวด์มุมกว้าง เอาใจผู้ชื่นชอบการ Selfie แถมยังมีโหมดถ่าย Selfie ภายในแอพฯ กล้องโดยเฉพาะอีกด้วย ทั้งนี้กำหนดวางจำหน่ายยังไม่มีข้อมูลครับ รอติดตามวันใกล้งานอีกทีนึง
Nokia Lumia 830
รุ่น นี้้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เป็นภาคต่อของ Lumia 820 อัพไซส์หน้าจอใหญ่ขึ้น 5.0 นิ้ว (IPS) และเป็นรุ่นแรกที่ Nokia (Microsoft) สามารถใส่กล้อง Pureview OIS ลงบอดี้บางเฉียบเพียง 8.5 มิลลิเมตร ! ความละเอียด 10MP จึงคาดหวังกับคุณภาพรูปถ่ายจากรุ่นนี้ได้ดีทีเดียว รองรับ 4G LTE พร้อมดีไซน์ขอบโลหะเหมือน Lumia 930 ส่วนสเปคอื่นๆ คล้ายกับ Lumia 730 คือชิพประมวลผล Snapdragon 400 (Quad), แบตเตอรี่ 2200 mAh, รัน Windows Phone 8.1 คาดว่าราคาเปิดตัวจะอยู่ประมาณ 10,000 บาทครับ
Nokia Lumia 930
ตัว ท็อปของ Nokia รุ่นปัจจุบัน จัดเต็มสเปคหน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว (AMOLED) เฟรมบอดี้โลหะ ชิพประมวลผล Snapdragon 800 + แรม 2GB ลื่นสุดๆ รองรับทุกบริการเสริมจาก Nokia-Microsoft ใช้งานแผนที่ โปรแกรมออฟฟิศ ฯลฯ ฟรีหมด ติดกล้อง Pureview ตัวใหญ่ความละเอียด 20MP เลนส์ OIS ถ่ายภาพออกมาแจ่มสุดๆ ผ่าน Nokia Camera (ปรับ Manual ได้หลายฟังก์ชั่น) รองรับ 4G LTE และเมมโมรี่ภายใน 32GB ยอมรับเลยว่าสเปคสูงครับ แต่ราคาก็แพงใช้ได้เลย เชื่อว่าต้องมีโปรโมชั่นแถมแบบจุใจออกมาแน่นอน

Asus
Zenfone 4 (A450CG)
บาง ครั้งผู้ใช้อาจต้องการสมาร์ทโฟนสเปคสูง หน้าจอดีกว่า Zenfone 4 จึงทำให้ Asus เปิดตัวเพิ่มอีกรุ่นนึงคือ Zenfone 4 (A450CG) หรือเรียกกันติดปากว่า Zenfone 4.5 อัพเกรดสเปคจาก Zenfone 4 พอสมควรทั้งหน้าจอ 4.5 นิ้ว, กล้อง PixelMaster 8MP, แบตเตอรี่ 1750 mAh ส่วนอื่นๆ ยังคงเดิมครับ ชิพประมวลผล Intel Z2520 รองรับคอนเทนท์ FHD แรงเร็วกว่าใคร, ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 บน Zen UI, รองรับ 2 ซิมการ์ด และใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย ทั้งหมดนี้หาซื้อมาใช้งานได้ในราคา 3,990 บาท ... คุ้มจริงจังมาก !

Zenfone 5 LTE
รุ่น สุดฮิตประจำปีของ Asus ล่าสุดมีรุ่นอัพเกรด Minor Change ออกมาแล้วนั่นก็คือ Zenfone 5 LTE ภายนอกยังคงเดิม รวมถึงหน้าจอ HD 5.0 นิ้ว, กล้อง Pixelmaster 8MP, เมมโมรี่ภายใน 16GB ฯลฯ แต่มาต่างกันตรงการเปลี่ยนชิพประมวลผลเป็น Snapdragon 400 และรองรับ 4G LTE เพิ่มเติมครับ รันบน Android 4.4.2 ตรงนี้ต้องลองตัดสินใจก่อนว่าได้ใช้งาน 4G LTE มั้ย หรือไม่จำเป็น .. เนื่องจากราคาต่างจากตัวรุ่น 3G (2 ซิม) ถึง 2,000 บาทเลย

ZenWatch
อีก หนึ่งนาฬิกา SmartWatch ตัวล่าสุดที่ Asus เปิดตัวเมื่อต้นเดือนกันยายน ดีไซน์สวยหรู บอดี้โลหะ หน้าจอขนาด 1.6 นิ้ว ซึ่งทาง Asus นำ Zen UI มาปรับปรุงให้ใช้งานบน ZenWatch โดยเฉพาะ ฟีเจอร์ต่างๆ มาครบ สามารถใช้ควบคุม Device หลักทั้งรับสาย ควบคุมเครื่องเล่นเพลง ใช้เป็นช่องมองกล้อง ฯลฯ ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลครับว่าจะวางจำหน่ายในไทยเมื่อไหร่ แต่ราคาก็เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก แต่จะชอบหรือไม่ คงต้องรอให้มีเครื่องจริงออกมาทดทอบอีกทีนึงครีบ
LG
LG G3
นาที นี้คงต้องเป็น LG G3 สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง (Flagship) กับความสามารถหลากหลายสุดๆ โดยเฉพาะกล้องมีระบบ OIS, HDR, Magic Focus, Phrase Detection จัดเต็มสุดๆ โฟกัสเร็ว ถ่ายไวกว่าเดิม หน้าจอใช้แบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว (ความละเอียด Quad-HD) สูงเป็นอันดับๆ ของตลาดเลยทีเดียว ชิพประมวลผล Snapdragon 801 + แรม 2GB แรงอยู่แล้ว แต่มีปัญหาคือหน้าจอ 2K กรัพยากรมาก ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทั้งนี้ด้วยราคา โปรโมชั่นสุดเด็ดในงาน Mobile Expo รอบนี้ รับรองว่าตาวาวแน่นอน !
LG L Bello Dual
น้อง ใหม่ล่าสุดในตระกูล L-Series จุดขายเด่นหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (854×480) รองรับ 2 ซิมการ์ด ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 ใช้อินเตอร์เฟสแบบเดียวกับ LG G3 ใช้งานง่าย ลงแอปพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ผ่าน Play Store ชิพประมวลผล Quad-Core รองรับคอนเทนท์ FHD เกมกราฟฟิคสูงต่างๆ ได้ไม่มีปัญหา ติดกล้อง 8MP มีกล้องหน้าให้ใช้ถ่าย Selfie อีกด้วย ส่วนแบตเตอรี่ใส่มาให้ 2540 mAh เพียงพอใช้งานเต็มวันแน่นอน คาดว่าราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาท
LG G3 Stylus
เป็น อีกหนึ่งรุ่นในตระกูล LG G3 ชูจุดขายหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว พร้อม Rubberdium Stylus ปากกาเขียนหน้าจอคล้ายกับรุ่น G Pro Lite คุณสมบัติทั่วไปเหมือน L Bello ครับ ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3GHz รัน Android 4.4.2 ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ไม่ต่างกัน แต่มีดีกว่าที่สามารถเขียนหน้าจอได้ (จดบันทึก, วาดภาพคร่าวๆ) แบตเตอรี่ 3000 mAh อึดสะใจ และกล้อง 13MP รุ่นนี้น่าจะมีให้สัมผัสตัวจริงในงาน Mobile Expo แต่ราคายังไม่มีข้อมูลออกมาครับ
HTC
HTC Desire 310
สมาร์ท โฟนรุ่นเล็กราคาประหยัดจาก HTC ให้คุณเป็นเจ้าของได้ไม่ยากกับราคาประมาณ 4 พันกว่าบาทเท่านั้น กับหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3GHz รองรับคอนเทนท์ HD ลงแอปพลิเคชั่นเสริมทั่วไปไม่มีปัญหา เล่นโซเชี่ยล เกมกราฟฟิคระดับกลางๆ ได้ดี ติดกล้อง 5MP บันทึกวิดิโอ FHD เต็มรูปแบบ แม้จะเป็นรุ่นล่าง แต่ HTC ยังใส่หน้า BlinkFeed มาให้ใช้ติดตามข่าวสารอัพเดทโซเชี่ยลต่างๆ เหมือนบนรุ่นระดับสูงกว่า นอกจากนี้ Desire 310 รองรับ 2 ซิมการ์ดด้วย ลองเล่นก่อนตัดสินใจซื้อได้ที่บูธ HTC ภายในงาน

HTC Desire 816
รุ่น สุดฮิต ติดลมบนจาก HTC ทำโปรโมชั่นร่วมกับค่ายใบพัด Desire 816 มีจุดขายหลายอย่างในตัว ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว, ลำโพงตู่ Boomsound แบบเดียวกับ HTC One เสียงดังฟังชัด, ชิพประมวลผล Quad-Core พร้อมรองรับ 4G LTE ! ติดกล้อง 13MP + กล้องหน้า 5MP สำหรับ Selfie กระหน่ำ รันบน Android 4.4.2 ครอบด้วย Sense 6.0 UI แบบเดียวกับ HTC One M8 ดังนั้นเรื่องการใช้งานต่างๆ จึงไม่ต่างกันมากนักครับ แต่ราคานี่บอกเลยว่าน่าสนใจจริงๆ โดยเฉพาะซื้อคู่กับโปรโมชั่นครับ
HTC Desire 820
รุ่น อัพเกรดจาก HTC Desire 816 ปรับโฉมภายนอกเล็กน้อย ใช้แถบสีสันต่างๆ มาตัดขอบให้ดูดีขึ้น (ส่วนตัวชอบสีแดงครับ สวยมาก) สำหรับ Desire 820 เป็นโมเดลแรกของ HTC ที่มาพร้อมกับชิพประมวลผล Qualcomm 64-Bit (Snapdragon 615) เร็วแรงกว่าเดิม พร้อมรองรับการอัพเกรดเป็น Android L ในอนาคตอีกด้วย ติดกล้อง 13MP หน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว รองรับ 4G LTE ฯลฯ รันบน Android 4.4.2 ครอบด้วย Sense UI ภาพรวมคล้าย Desire 816 ครับ แต่ Performance จะสูงกว่าหน่อยนึง คาดว่าจะวางจำหน่ายช่วงเดือนตุลาคมนี้
HTC One E8
สมาร์ท โฟนรุ่นล่าสุดจาก HTC ที่ย่อสเปคลงมาจาก One M8 เล็กน้อย บอดี้เป็น Polycarbonate ดูแลรักษาง่าย สีดำค่อนข้างสวยครับ ตัดกับขอบสีทอง หน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Snapdragon 801 แรม 2GB, ลำโพง Boomsound, รองรับ 4G LTE, รันบน Android 4.4.2 ฯลฯ ภาพรวมเหมือน One M8 เกือบทุกอย่าง ยกเว้นกล้องปรับเหลือ 13MP (ตัด Duo-Camera ออก) และราคาที่คุณสามารถเอื้อมง่าย ... กว่ามากครับ เปิดตัวที่ 17,900 บาท แน่นอนว่ามีโปรโมชั่นกับค่ายใบพัดเช่นเคย
HTC One M8
รุ่น เรือธงสุดอลังที่มาพร้อมกับบอดี้โลหะ Unibody สุดทนทาน ดีไซน์สวยงามลงตัว มาพร้อมกับความสามารถหลากหลาย หน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Snapdragon 801 รองรับ 4G LTE, ลำโพง Boomsound, เชื่อมต่อ NFC ติดกล้อง UltraPixel (4MP) แบบ Duo-Camera ถ่ายภาพกลางคืนดีเยี่ยม โฟกัสไว มีลูกเล่นเลือกจุดโฟกัสทีหลัง (U-Focus) พร้อมกล้องหน้า 5MP เลนส์ไวด์ ถ่าย Selfie หมู่ได้ง่าย รันบน Android 4.4.2 ครอบด้วย Sense UI เหมือนกับ HTC One E8 รุ่นนี้มีทำโปรโมชั่นด้วยนะครับ ถ้าชื่นชอบมือถือบอดี้โลหะ ทนทาน ฟีเจอร์ครบ ไม่เหมือนใคร HTC One M8 ต้องไม่พลาดจริงๆ
HTC Butterfly 2
เป็น อีกหนึ่งเรือธงอีกรุ่นจาก HTC ที่เปิดตัววางจำหน่ายเฉพาะในเอเชียเท่านั้น โดยเฉพาะในญี่ปุ่นกับ HTC Butterfly 2 โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบง่าย เน้นสีสันมากขึ้น สามารถกันน้ำ-กันฝุ่นตามมาตรฐาน IPX5/IPX7 สเปคภายในโดยรวมเหมือน HTC One E8 ใช้หน้าจอ FHD 5.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Snapdragon 801 แรม 2GB, Android 4.4.2 บน Sense UI, กล้อง 13MP + กล้องหน้า 5MP เลนส์ไวด์ และลำโพง Boomsound เหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบมือถือสไตล์ญี่ปุ่น สเปคสูงความสามารถดี ทั้งนี้ราคาเปิดตัวอาจแพงกว่า One M8 เล็กน้อยครับ รอติดตามได้ช่วงใกล้งานจ้า
ขอบคุณที่มา: http://hitech.sanook.com/1391705
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com