ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ thaizones.net นะครับ.. ^0^. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

แนะนำ 10 อันดับมือถือน่าสนใจประจำสัปดาห์

ช่วงนี้ยังคงมีรุ่นใหม่ๆ ถูกส่งออกมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy S6 หรือ Samsung Galaxy S6 edge ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อต้นเดือน แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ตลาดของสมาร์ทโฟนเจ้าอื่นๆ เงียบหรือย่อท้อลงกลับยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้ทีมงานเลขขอแนะนำ 10 อันดับมือถือน่าสนใจประจำสัปดาห์ (มีนาคม) มาฝากกันซึ่งมีทั้งที่วางจำหน่ายและยังไม่วางจำหน่าย ทางทีมงานหวังว่าข้อมูลดังกล่าวคงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย มาไล่ดูกันครับว่าสำหรับอาทิตย์นี้นั้นจะมีรุ่นใดบ้างที่น่าสนใจ  และแน่นอนว่าคงต้องมีสักรุ่นที่โดนใจท่านผู้อ่านอย่างแน่นอน
ข้อมูลมือถือน่าสนใจ (Editor choice) รายสัปดาห์ ประจำเดือน มีนาคม 2558 *โทรศัพท์มือถือน่าสนใจ (Editor choice) หมายถึงโทรศัพท์มือถือที่แนะนำโดยผู้ดูแลเนื้อหาเว็บไทยโมบายเซ็นเตอร์ดอทคอม
คะแนนโหวตเป็นคะแนนที่ประมวลผลจากคะแนนโหวตของผู้เข้าชมและถูกโพสต์ขึ้นระบบโดยอัติโนมัติ

* ข้อมูลมือถือประจำสัปดาห์คำนวณจากข้อมูลภายใน 1 สัปดาห์  โดยอันดับอาจจะแตกต่างจาก ข้อมูลมือถือประจำเดือน ที่จะคำนวณจากข้อมูลใน 1 เดือน
อันดับมือถือน่าสนใจ (ไทยโมบายเซ็นเตอร์) เดือน มีนาคม 2558 --> สัปดาห์ที่ 2
Samsung Galaxy S6 edge ( ซัมซุง Galaxy S6 edge ) กับลักษณะเด่นประจำรุ่น 

- จอแสดงผลแบบ Dual Curved Edge Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.1 นิ้ว : 577 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T760
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Exynos 7420 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A57 ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0.2 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB, 64 GB หรือ 128 GB และ RAM (LPDDR4) ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการเก็บบันทึกข้อมูลแบบ Cloud Storage ด้วยบริการ OneDrive (ฟรีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลขนาด 115 GB นาน 2 ปี)
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, HSPA+, 4G LTE Cat6, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, Bluetooth, Infrared หรือ ANT+
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16 ล้าน Pixels (F/1.9) พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ ISOCELL, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels (F/1.9) 

HTC One M9 ( เอชทีซี One M9 )  กับลักษณะเด่นประจำรุ่น
- จอแสดงผลแบบ Super LCD3 Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.0 นิ้ว : 441 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 430
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Qualcomm Snapdragon 810 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A57 ความเร็ว 2.0 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE Cat6, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, Bluetooth หรือ Infrared
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 20.7 ล้าน Pixels พร้อมกระจกหน้าเลนส์แบบแซฟไฟร์ (Sapphire Cover) และกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 4 ล้านพิกเซล (UltraPixel) 

 Motorola Nexus 6 ( โมโตโรล่า Nexus 6 ) กับลักษณะเด่นประจำรุ่น
- จอแสดงผลแบบ AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.96 นิ้ว : 493 ppi : อัตราส่วน 16:9) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 420
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Krait 450 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm APQ8084-AB Snapdragon 805) ความเร็วในการประมวลผล 2.7 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB หรือ 64 GB และ RAM ขนาด 3 GB
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE Cat6, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2 ล้าน Pixels 

Asus ZenFone 2 ( เอซุส ZenFone 2 ) กับลักษณะเด่นประจำรุ่น
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ PowerVR G6430
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Intel Atom Z3580 Processor ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB, 32 GB หรือ 64 GB และ RAM ขนาด 2 GB หรือ 4 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE Cat4, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
    กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels 

LG G Flex 2 ( แอลจี G Flex 2 ) กับลักษณะเด่นประจำรุ่น
- จอแสดงผลแบบ Curved P-OLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 403) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 430
- ประมวลผลการทำงานด้วย Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810 (ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz และ Quad-Core ARM Cortex-A57 ความเร็ว 2 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0.1 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB หรือ 32 GB และ RAM ขนาด 2 GB หรือ 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- ดีไซน์แบบโค้ง ทั้งตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล พร้อมพื้นผิวที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ที่มีคุณสมบัติ่ในการซ่อมแซมรอยขีดข่วนด้วยตัวเอง (Self-Healing Back Panel Coating)
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2.1 ล้าน Pixels
Apple iPhone 6 Plus ( แอปเปิ้ล iPhone 6 Plus ) กับลักษณะเด่นประจำรุ่น 

- จอแสดงผลแบบ Retina HD IPS LCD (LED-Backlit) Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมกระจกหน้าจอแบบ Ion-Strengthened Glass ซึ่งมีความโค้งมนที่บริเวณขอบ
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Apple A8 (64-bit) พร้อมหน่วยประมวลผล M8 Motion Coprocessor สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว และระบบปฏิบัติการ iOS 8
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Touch ID Sensor : Fingerprint Identity Sensor) บนปุ่ม Home สำหรับตรวจสอบสิทธิในการเข้าใช้งานเครื่องด้วยการสแกน และวิเคราะห์ลายนิ้วมือ พร้อมรองรับการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทางบริการ Apple Pay
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE, HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
- กล้องดิจิตอล iSight Camera ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels (BSI), ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS, ไฟแฟลชในตัว (True Tone), เทคโนโลยี Focus Pixels, ถ่ายภาพวีดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 60 fps) 

OPPO N3 ( ออปโป้ N3 ) กับลักษณะเด่นประจำรุ่น 

- จอแสดงผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 403 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 330
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Krait 400 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8974AA Snapdragon 801) ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Color OS เวอร์ชัน 2.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.4 KitKat)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 2 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง (Fingerprint Sensor : Touch Access) ที่รองรับได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือที่แตกต่างกัน พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยการสัมผัสในแอปพลิเคชันต่างๆ
- กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 16 ล้าน Pixels (Schneider Kreuznach Certified) ซึ่งสามารถหมุนได้ 206 องศา พร้อมระบบหมุนอัตโนมัติตามโหมดของการถ่ายภาพ (Motorized Rotating Camera) 

vivo Xplay 3S ( วีโว Xplay 3S ) กับลักษณะเด่นประจำรุ่น 

- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 6.0 นิ้ว : 490 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 330
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Krait 400 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8974AB Snapdragon 801) ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Funtouch OS (พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.3 Jelly Bean)
- ระบบเสียงแบบ Hi-Fi และ DTS Headphone พร้อม Amplifier ในตัว (OPA2604) และชิปประมวลผลเสียงแบบ ESS ES9018 DAC (ES9018 SRN 112db)
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE, HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels

Lenovo VIBE Shot ( เลอโนโว VIBE Shot ) กับลักษณะเด่นประจำรุ่น 

- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.0 นิ้ว : 441 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 405
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.7 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.0 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE Cat4, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16 ล้าน Pixels พร้อมไฟแฟลช (Triple-LED Flash : Tri-Color), ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS, ปุ่มชัตเตอร์กล้องแบบสองจังหวะ และกล้องด้านหน้า ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels 

Sony Xperia Z3 ( โซนี่ Xperia Z3 )  กับลักษณะเด่นประจำรุ่น 

- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.2 นิ้ว : 424 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 330
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Krait 400 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8974AC Snapdragon 801) ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.4 (KitKat)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB หรือ 32 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ LTE, WiFi, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, Bluetooth หรือ ANT+
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 20.7 ล้าน Pixels พร้อมเลนส์คุณภาพสูงแบบ G Lens, เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Sony Exmor RS for Mobile, ถ่ายภาพวีดีโอ (4K UHD : 2160p : 3840x2160 Pixels : 30 fps) 

วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

AIS Super Combo Pro 5.0 สมาร์ทโฟนราคาสบายกระเป๋า

ยัง! เอไอเอส คลอดสมาร์ทโฟนสุดล้ำ   AIS Super Combo Pro 5.0" ฟังก์ชั่นแน่นแต่ราคาสบายกระเป๋า
 หลังจากที่เอไอเอสประสบความสำเร็จกับแคมเปญ AIS Super Combo Pro 4.5" ไปแล้ว ล่าสุดได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรี่ย์ใหม่ AIS Super Combo Pro 5.0" ที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดล้ำ 
เต็มเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ครบครัน ชัดเต็มจอกับหน้าจอใหญ่ขนาด 5 นิ้ว ให้ความคมชัดระบบ HD ตัวเครื่องดีไซน์บางเฉียบเพียง 7.65 มม. รองรับการใช้งานถึง 2 ซิมในระบบ 3G สะใจคอเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลมาพร้อมกับ Beauty Mode ถ่ายภาพสวยทันใจขาเซลฟี่แน่นอน

AIS Super Combo Pro 5.0"
Super Combo Pro 5.0" ใหม่!จากเอไอเอส

AIS Super Combo Pro 5.0 ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.4 KitKat รับรองได้ว่าการใช้งานไม่มีสะดุดอย่างแน่นอนด้วยขุมพลัง Quad-core 1.3 GHz แบตเตอรี่ Build-In 2500 mAh ใช้งานได้นาน นอกจากนี้ยังใส่ฟังก์ชั่น Custom Gesture ให้คุณสั่งงานแบบสัมผัสได้ในขณะที่หน้าจอปิด และยังแถมฟรี! เคสใส่โทรศัพท์ AIS Flip Case มาให้อีกด้วย เรียกได้ว่าเอไอเอสจัดหนักจัดเต็มให้ลูกค้าคนพิเศษกันถึง 3 ความคุ้มค่ากันเลยทีเดียว
 คุ้มค่าที่ 1  เอไอเอสให้คุณได้สมาร์ทโฟนคุณภาพไปครอบครองด้วยราคาโดนใจเพียง 4,790 บาทเท่านั้น คุ้มค่าที่ 2 สำหรับลูกค้าเอไอเอส วันทูคอล! ให้ส่วนลดแพ็คเกจและค่าโทรฟรี โดยรับโบนัสโทรฟรีรวม 4,000 บาท เน็ตฟรีรวม 2 GB พร้อมให้แชท LINE และเล่น Facebook ฟรีไม่จำกัดนานถึง 3 เดือน
 ส่วนสำหรับลูกค้ามือถือเอไอเอส รายเดือน รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 12 เดือน โดยแพ็คเกจ 249 โทรได้ทุกเครือข่าย 100 นาที พร้อมรับโบนัสโทรฟรี 50 นาที (3 เดือนแรก) พร้อมเน็ตฟรี 1 GB  ส่วนแพ็คเกจ 349 ให้คุณโทรได้ทุกเครือข่าย 150 นาที และโทรฟรีในเครือข่าย 5.00 - 17.00 น. พร้อมโบนัสโทรฟรี 50 นาที (3 เดือนแรก) เล่นเน็ตฟรีไม่จำกัดด้วยความเร็วสูงสุด 750 MB โดยทั้ง 2 แพ็คเกจให้คุณแชท LINE และเล่น Facebook ฟรีไม่จำกัดนานถึง 3 เดือนเช่นกัน
ส่วนคุ้มค่าที่ 3 ให้คุณรับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเครือข่ายคุณภาพเอไอเอส นอกจากนี้ AIS Super Combo Pro 5.0" ยังมาพร้อมกับ Application ในเครื่อง อย่างเช่น 
AIS Onair Apps ซึ่งเป็นแหล่งรวมแอปพลิเคชั่นจากไทยและทั่วโลก
eService ช่วยคุณเช็คยอดเงิน และโปรโมชั่นปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเปลี่ยนโปรฯ หรือสมัครแพ็คเกจ พร้อมรับสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย
AIS Privilege สิทธิพิเศษดีลโปรโมชั่น คูปองส่วนลดร้านค้าทั้งช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมาย
AIS Live TV ดูทีวีออนไลน์ได้ทั้งฟรีทีวี เคเบิ้ลทีวี และทีวีดาวเทียม
mPAY App ช้อปออนไลน์ก็ได้แม้ไม่มีบัตรเครดิตด้วยกับ AIS mPAY Mastercard
KKBOX ฟังเพลงฟรีกว่า 10 ล้านเพลง จากค่ายเพลงชื่อดังในไทยและทั่วโลก
Kakao Talk ใหม่! แอปพลิเคชั่นสุตฮิตจากเกาหลี ครั้งแรกกับสติ๊กเกอร์พูดได้ และสนุกกับการแชทพร้อมโทรเป็นกลุ่มฟรี
โปรโมชั่นดีๆ อย่างนี้ใครที่สนใจเป็นเจ้าของก็สามารถไปจับจองมือถือใหม่ดีไซน์โดนๆ อย่าง AIS Super Combo Pro 5.0" กันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค. 58 ที่เอไอเอส ช็อป, เทเลวิซ และร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
หรือซื้อผ่าน AIS Online Store ที่มีบริการส่งฟรีถึงบ้านเมื่อช้อปปิ้งตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป โดยสั่งซื้อวันจันทร์ - ศุกร์ (ก่อน 14.00 น.)  สำหรับเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ส่งภายใน 24 ชม. และเขตพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ส่งภายใน 48 ชม. แต่ถ้าสั่งซื้อวันศุกร์ (หลัง 14.00 น.) - วันอาทิตย์ สำหรับเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ส่งภายใน 72 ชม. ใครไม่ว่างไปซื้อที่ช็อป จะสั่งออนไลน์ก็สะดวกสุดๆ เลือกชำระเงินได้ทั้งบัตรเครดิต และเดบิต แถมยังสามารถเลือกชำระเงินเมื่อได้รับสินค้าได้ด้วยกับบริการ Cash on Delivery อีกด้วย
และตอนนี้ AIS Online Store ยังมีบริการพิเศษ ส่งฟรีถึงบ้าน สำหรับ AIS LAVA ทุกรุ่น วันนี้ - 31มีนาคม นี้เท่านั้น ที่ http://store.ais.co.th/th/mobile-phone/lava.html
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ 1175 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.ais.co.th/supercombo
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

Wiko สมาร์ทโฟนสายพันธุ์ใหม่ ยอดนิยมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทย

Wiko โหมโรงอย่างเป็นทางการในเมืองไทย
วีโก โมบาย ฝรั่งเศส จับมือ บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ส่ง "Wiko" สมาร์ทโฟนยอดฮิตจากฝรั่งเศสสู้ศึกตลาดประเทศไทย 7 รุ่นรวด ชูมาตรฐานฝรั่งเศส ประสิทธิภาพครบเจาะคนรุ่น
มร.เดวิด กราเซีย ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ วีโก โมบาย ประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า สมาร์ทโฟน "Wiko" (วีโก) ในประเทศฝรั่งเศส ใช้ระยะเวลาปาง 2 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ยอดเป็นที่นิยมอันดับ 2 ของประเทศ และกลายเป็นโกลบอลแบรนด์ (Global Brand) ที่ศักยขยายตลาดครอบคลุมกว่า 10 ประเทศเพราะว่าเฉพาะในทวีปยุโรป ด้วยนวัตกรรมพร้อมกับฟังก์ชั่นที่เหมาะกับการใช้งานเป็นแน่แท้ พร้อมทั้งดีไซน์แฟชั่นทันคราว จึงตั้งเป้าขยายตลาดในอีกหลายประเทสทั่วโลก โดยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้โหมโรงในเวียดนามแล้ว

ขณะที่ในประเทศไทยได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีกับคอมพิวเตอร์ ทั้งยังมีบริษัทจัดจำหน่ายในเครือที่สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ

นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลสำรวจของบริษัทวิจัยตลาด จีเอฟเค คาดว่าปีนี้ ตลาดรวมสมาร์ทโฟนจะอยู่ที่ราว 12 ล้านเครื่อง โตขึ้น 20% จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะนำ "วีโก" มาทำตลาด

นายจิรวัฒน์ ศรีธระชิยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีโก โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเปรยว่า ลูกค้าเป้าหมายของสมาร์ทโฟนวีโก คือ กลุ่มคนแบบใหม่ที่มีสไตล์เป็นของตัวเองหรือว่ากลุ่มที่เฟุ้งเฟื่องกจักใช้ชีวิตเพราะว่าไม่ตามแบบใคร กับต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพครบครัน ใช้งานได้ยิ่งในทุกด้าน ในมูลค่าที่สมเหตุสมผล  เพราะในประเทศไทยได้เปิดตัวครั้งแรก 7 รุ่น ค่าตั้งแต่ 2,490-7,990 บาท

เพราะว่ามี 2 รุ่นเด่น ได้แก่ รุ่น HIGNWAY SIGNS หน่วยประมวลผล 1.4GHz OCTA Core ที่ทำงานพร้อมกันถึง 8 Core พร้อมทั้งรุ่น WAX4G ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของโลกที่ใช้หน่วยประมวลผล NVIDIA Tegra 4i ที่โดดเด่นในการแสดงผลด้านกราฟฟิก ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี 4G LTE

เดี๋ยวมาลองจับตาดูกันดีกว่าว่าเจ้ากระบะสายพันธุ์แกร่งอย่างวีโก้ (มันเป็นมุขนะจ๊ะ!!) จะกลายมาเป็นคู่แข่งที่แสนน่ากลัวกับ iPhone ได้รึเปล่า..?
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

6 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ นับวันรอเปิดตัว

6 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ นับวันรอเปิดตัว

ปี 2013 ยังเป็นปีที่ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้จะมีนักวิเคราะห์ในต่าง ประเทศบางรายชี้ว่าตลาดนี้ใกล้ถึงจุดอิ่มตัวแล้วก็ตาม เชื่อว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ติดตามข่าวคราวจาก arip มาโดยตลอดคงจะเห็นแล้วว่าเมื่อก้าวเข้าสู่เดือนกันยายนเป็นต้นไปจะมีสมาร์ท โฟนอีกหลายรุ่นที่จะทะยอยเปิดตัว ซึ่งหนึ่งในนั้นเดาว่าต้องมีรุ่นที่หลายคนจับจ้องกันอยู่แน่นอน ดังนั้นวันนี้เราลองมาชมกันซิว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะมีอะไรบ้าง

เริ่มกันที่

1. iPhone 5S


ไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใดที่จะเป็นแรงดึงดูดให้ผู้คนทั่วโลกหันมาสนใจได้เท่า กับ iPhone ระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ไม่มีอุปกรณ์พกพาใดๆ จาก Apple ออกมาให้ได้เห็นกัน จนวันที่ 10 กันยายนนี้แหล่งข่าวหลายสำนักต่างประโคมข่าวว่า Apple จะส่งรุ่นต่อยอดของ iPhone 5 ในชื่อ "iPhone 5S" ออกมาให้กันจริงๆซะที แต่ต้องยอมรับว่าดีไซน์คงไม่ต่างจากเดิม สิ่งใหม่ที่เข้ามาน่าจะเป็นเรื่องของการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ ซึ่งข้อมูลที่ผ่านๆมาจะเห็นว่ามีทั้งเปลี่ยนชิปประมวลใหม่, พัฒนาเรื่องกล้อง รวมไปถึงเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Finger Print) กับสีตัวเครื่องใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสีของแชมเปญนั่นคือ "สีทอง" และแน่นอนว่าจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 7 ฉบับเต็มอีกด้วย

2. iPhone 5C


อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ถูกกล่าวขวัญกันมาตั้งแต่ต้นปีทั้งในต่างประเทศและ ประเทศไทยเองนั่นคือ iPhone ราคาประหยัดหรือในชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "iPhone 5C"  ความพิเศษของสมาร์ทโฟนราคาประหยัดนี้จะใช้ดีไซน์ของ iPhone 5 เป็นหลัก แต่จะเปลี่ยนวัสดุที่เป็นอะลูมิเนียมมาเป็นพลาสติกที่มีความทนทานและใส่ สีสันเพิ่มเข้าไปช่วยให้ผู้ซื้อมาทางเลือกมากว่าเก่า นอกจากนี้การบรรจุสเปคต่างๆเข้าไปใน iPhone 5C จะไม่เหมือนกับ iPhone 5 ทั้งหมดหมายความว่าสเปคบางอย่างจะถูกลดทอนไปนั่นเอง ประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจคือราคา ที่จะถูกว่า iPhone รุ่นไฮเอนด์มากน้อยเพียงใด ซึ่งก็มีข้อมูลเบื้องต้นมาแล้วว่ามันมีราคาอยู่ที่ 300 - 500  เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 9,000 - 15,000 บาท แต่เมื่อเข้ามาขายในไทยจริงราคาอาจจะสูงกว่านี้ไม่มากนัก

3. Sony Honami หรือ Xperia Z1


สมาร์ทโฟน Xperia Z นับเป็นรุ่นที่มีเสียงชื่นชมจากผู้ใช้ทั่วโลกและยังการันตีด้วยรางวัลมากมาย ส่งผลต่อยอดขายสมาร์ทโฟน Sony ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้น Sony ก็รู้ดีว่าสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์รุ่นต่อๆไปจะต้องพัฒนาให้ทันสมัยและใช้งาน ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีจาก Sony ก็ไม่เป็นรองเจ้าใดอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นทีวี,หรือกล้อง ดังนั้นจึงเป็นที่มาของสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ที่ใช้โค้ดเนมว่า "Sony Honami" หรือชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "Xperia Z1" ที่ดึงคุณสมบัติบางส่วนของกล้องและทีวีมาร่วมด้วย ได้แก่ กล้องความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล พร้อม Lens G เลนส์เกรดโปรที่อยู่บนกล้อง DSLR หรือจะเป็นเซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/2.3 นิ้ว รวมไปถึง BIONZ engine เทคโนโลยีการประมวลผลภาพเสมือนกล้อง DSLR เป็นต้น และยังรวมถึงหน้าจอแสดงผลที่จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Triluminos ที่เข้ามาช่วยให้ภาพที่ปรากฎคมชัดมากกว่าปกติ นอกจากนี้ทาง Sony ก็เตรียมพัฒนาเลนส์เสริมสำหรับ Xperia Z1 โดยเฉพาะอีกด้วย

4. Samsung Galaxy Note 3

สมาร์ทโฟนจอใหญ่หรือในศัพท์เฉพาะที่เรียกว่า "Phablet" (แฟ็บเล็ต) รุ่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดเห็นจะเป็น Samsung Galaxy Note 2 เมื่อเป็นเช่นนี้ Galaxy Note 3 ก็กำลังจะตามมาต่อยอดความสำเร็จหลังยืนยันแล้วว่าในวันที่ 4 กันยายนนี้ ที่งาน IFA 2013 จะเป็นวันเปิดตัว ซึ่งคุณสมบัติเบื้องต้นของ Note 3 มากับหน้าจอ 5.7 นิ้ว, ใช้ชิปประมวลผลสองแบบได้แก่ Exynos 5 Octa core รุ่นใหม่กับ Qualcomm Snapdragon 800, สนับสนุน 4G LTE กับ ปากกา S Pen นอกจากนี้ Note 3 จะแบ่งออกเป็นอีก 3 ซีรี่ส์เช่นเดียวกับ Galaxy S4 ด้วย

5. Nokia Lumia Phablet


ครั้งแรกจาก Nokia ที่หันมาผลิตสมาร์ทโฟน Lumia แบบจอใหญ่บ้าง ซึ่งข้อมูลในเบื้องต้นระบุว่า Nokia Lumia Phablet จะมีหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 1080p Full HD ใช้ชิปประมวลผลแบบ Quad-Core กล้องหลักความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีการถ่ายแบบ Lytro-styled camera ที่ต่างจาก PureView

6. HTC One Max


อีกหนึ่งซีรีส์ของ HTC One ที่มีข่าวลือในช่วงนี้คือ HTC One Max สมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่จะมาพร้อมคอนเซปต์เดียวกับ HTC One ทั้งวัสดุของตัวเครื่องแบบ Unibody, เทคโนโลยี UltraPixel กับ HTC Zoe บนกล้องถ่ายภาพ, อินเตอร์เฟซแบบ HTC Sense 5.0 และระบบลำโพงแบบ BoomSound นอกจากนี้ใน HTC One Max อาจมีเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ (Finger Print) เพิ่มขึ้นมาด้วย จากทั้ง 6 สมาร์ทโฟนที่กล่าวไปขั้นต้นคือรุ่นใหม่ที่ตกเป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่อง และอีกไม่นานเราน่าจะได้เห็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกันยายน นี้เป็นต้นไป ใครที่เล็งรุ่นไหนว่าก็เตรียมเงินกันไว้ให้พร้อมนะจ๊ะ 

สนับสนุนเนื้อหา: Arip

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com